เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นเรื่องการเลือกประธานสภาเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า
ตามรัฐธรรมนูญ ประธานสภาจะเป็นผู้เรียกประชุมสภาเพื่อพิจารณาวาระสำคัญต่างๆ ของบ้านเมือง เช่น การเลือกนายกรัฐมนตรี หรือการเสนอกฎหมาย เป็นต้น ดังนั้น หากยังไม่สามารถเลือกประธานสภาก็จะไม่สามารถใช้สภาที่มาจากการเลือกตั้งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้
การประชุมสภาวานนี้เป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากประชาชนถูกยึดอำนาจมาถึงห้าปี มีวาระสำคัญยิ่งที่ต้องพิจารณาคือ การเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่กลับถูก ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ขอเลื่อนการประชุมออกไปโดยอ้างความไม่พร้อม ทั้งที่มีสมาชิกมาร่วมประชุมถึง 497 คน การขอเลื่อนการประชุมจึงไม่มีอะไรมากกว่าจะเอาเวลาของประชาชนมาต่อรองผลประโยชน์แลกกับการยกมือสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ
ภาพอีกด้านที่ผมเห็นคือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ฯ ผู้ซึ่งถูกพรรคเพื่อไทยที่มีจำนวน ส.ส. มากที่สุดในสภาเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีแต่เสียสละปฏิเสธการรับตำแหน่งเพื่อปิดทางไม่ให้เกิดการสืบทอดอำนาจ ในขณะที่บางพรรครวมถึงพรรคเก่าแก่ที่เคยประกาศก่อนการเลือกตั้งว่าไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ให้เป็นนายกฯต่อ และอดีตหัวหน้าพรรคเดียวกันที่เคยประกาศว่าเป็นผู้เชื่อมั่นในระบบรัฐสภาและเคารพหลักการ กลับเห็นด้วยกับการเลื่อนประชุม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวยอมทิ้งหลักการปล่อยให้ประชาชนอยู่ภายใต้อุ้งเท้าของเผด็จการต่อไป
โชคดีที่จำนวนเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนการประชุมมีมากกว่า จึงทำให้สามารถเลือกประธานสภาได้ แต่ก็ทำให้ประชาชนได้เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองและพรรคการเมืองใดบ้างที่พูดอย่างทำอย่าง แถมกล้าตระบัดสัตย์สนับสนุนการสืบทอดอำนาจต่อของเผด็จการ