เสมียนทนายมือลั่นไกเด็ดชีพอดีตรองจเรตำรวจ ใช้เงิน 3 แสนบาทประกันตัวในชั้นสอบสวน ขณะที่รอง สวป.ทำหน้าที่ตำรวจศาลเจ้าของปืนอ้างเสมียนทนายแย่งไปยิง ส่วนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมีหลักฐานสำคัญภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเผยเห็นเหตุการณ์ในห้องพิจารณาคดี รวมทั้งเหตุการณ์ที่เสมียนทนายปืนไวรับปืนจากตำรวจศาลลั่นไกยิงนายพลผ่านประตูกระจก แล้วเดินเข้าไปยิงซ้ำในห้องพิจารณาคดี ด้านรอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี เผยมีการตั้งคณะกรรมการร่วมสอบสวนตำรวจเจ้าของปืน หากเข้าข่ายเป็นความผิดดำเนินคดีทันที เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมวางมาตรการ 3 ด้านคุมเข้มความปลอดภัยในศาล
ยังเป็นที่จับตาของสังคมกรณีรัวยิงโหดในห้องพิจารณาคดีของศาลจังหวัดจันทบุรี เริ่มจาก พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี อดีตรองจเรตำรวจ จำเลยที่ 3 ในคดีฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ ชักปืนกล็อก .40 กระหน่ำยิงฝ่ายโจทก์คือนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ อายุ 61 ปี ทนายความชื่อดัง นางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยา นายวิชัย อุดมธนภัทร และนายวิจัย สุขรมย์ ทีมทนายความ ฟุบจมเลือด ส่วน พล.ต.ต.ธารินทร์ถูกนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายความ ขอปืน ร.ต.อ.ขจร บรรจง รอง สวป.สภ.เมืองจันทบุรี ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจศาล เหตุเกิดวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา มีชนวนเหตุจากข้อพิพาทที่ดินเนื้อที่กว่า 3,800ไร่ ที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี มูลค่าราว 300 ล้านบาท ที่ยืดเยื้อมาราว 10 ปี ส่วนนายธนากรถูกตำรวจจับกุมในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คุมตัวมาสอบสวนแต่ให้การปฏิเสธ ขณะที่สำนักงานศาลยุติธรรม วางมาตรการเข้มป้องกันเหตุร้าย
ความคืบหน้าการสอบสวนคดีฆ่าระห่ำกลางศาลเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 พ.ย. พ.ต.อ.ชัชวาลย์ พิสุทธิวงศ์ รอง ผบก.ภ.จ.จันทบุรี ที่ได้รับมอบหมายให้ควบคุมการสอบสวนคดี เปิดเผยว่า คดีนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ที่ผ่านมาได้สอบพยานในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อมไปแล้ว 4 ปาก อยู่ระหว่างเรียกมาสอบเพิ่มเติม รวมไปถึงนายวิชัย อุดมธนภัทร ทนายโจทก์ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วน ร.ต.อ.ขจร บรรจง เจ้าของปืนที่นายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนายใช้ยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ ได้เรียกตัวมาสอบสวนเบื้องต้นบ้างแล้ว และจะเรียกมาสอบสวนอีกครั้ง โดยตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมอย่างละเอียด หากมีมูลตามพยานหลักฐานที่ปรากฏก็จะต้องว่ากันไปตามผิด ในฐานผู้สนับสนุนคดีฆ่าคนตาย ส่วนนายธนากร ที่ได้ประกันตัวชั่วคราวออกไปแล้ว หากมีประเด็นเพิ่มเติมสามารถเรียกมาสอบปากคำได้ตลอด
รายงานข่าวแจ้งว่าหลังนายธนากร เสมียนทนายปืนไว ถูกตำรวจคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ถูกสอบปากคำนานร่วม 7 ชั่วโมง มีทีมทนายความร่วมฟังการสอบสวนอย่างใกล้ชิด ก่อนจะใช้เงิน 300,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวออกไปเมื่อเวลา 16.00น. วันเดียวกัน ขณะที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในชั้นนี้ มีการสอบปากคำพยาน ประกอบกับพยานหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุทั้งอาวุธปืน ปลอกกระสุน หัวกระสุน โดยเฉพาะหลักฐานสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งในห้องพิจารณาคดี และด้านนอก ทำให้ทราบว่าช่วงเกิดเหตุมีคนอยู่ในห้องเพียง 6 คน คือ พล.ต.ต.ธารินทร์ ฝ่ายหนึ่งกับนายบัญชา นางสุภาพร นายวิชัย นายวิจัย และนายธนากร อีกฝ่ายหนึ่ง พล.ต.ต.ธารินทร์บอกว่าใครไม่เกี่ยวให้ออกไป นายธนากรรีบวิ่งออกจากห้องพิจารณาคดี จากนั้น พล.ต.ต.ธารินทร์ก็ลั่นกระสุนยิงฝ่ายตรงข้ามฟุบ
นายธนากรหลังวิ่งออกจากห้องพิจารณาพบ ร.ต.อ.ขจร บรรจง ถือปืนวิ่งเข้ามาที่หน้าห้องพิจารณาคดีที่เกิดเหตุ เพื่อระงับเหตุ มีการยืนคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นายธนากรรับปืนจาก ร.ต.อ.ขจร เล็งยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ผ่านประตูกระจกเข้าไป 3 นัด แล้วเดินเข้าไปในห้องพิจารณากระหน่ำยิงซ้ำอีก 3 นัด เป็นเหตุให้ พล.ต.ต.ธารินทร์เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นนายธนากรหลบหนีออกจากศาลจนตำรวจตามจับกุมได้ในโรงแรม นอกจากนี้ยังพบว่าคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกัน คดีที่ทั้งคู่มาร่วมฟังการพิจารณานั้น เป็นคดีที่นายบุญช่วย เจริญสถาพร น้องชายของพระกิตติวุฒโฑ ภิกขุ เป็นโจทก์ฟ้องนางภาพร อุดมโพธิพร กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลย ในคดีความผิดต่อเจ้าพนักงาน นางภาพรเป็นอดีตแม่ยายของ พล.ต.ต.ธารินทร์ จำเลยที่ 3 ในคดี ส่วนนายบัญชากับพวกเป็นทีมทนายความในคดี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า ร.ต.อ.ขจร บรรจง ตำรวจประจำศาล ส่งปืนให้หรือถูกนายธนากร ธีรวโรดม แย่งปืนไปยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ ซึ่ง พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้แล้ว คาดว่าไม่นานจะทราบผล เบื้องต้น ร.ต.อ.ขจรให้การประกอบสำนวนชันสูตรศพว่า ในวันเกิดเหตุทราบว่ามีเหตุการณ์ยิงกันในศาล ไปนำปืน .45 เข้ามาในศาล ก่อนถูกนายธนากรแย่งปืนไปก่อเหตุ กระบวนการตรวจสอบจะดำเนินการคู่ขนานไปกับสำนวนคดีการเสียชีวิตของอดีตตำรวจ
ส่วนที่สถาบันนิติเวชวิทยา ญาติของนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ โทรศัพท์ประสานเจ้าหน้าที่ว่า ยังไม่สะดวกมารับศพ เนื่องจากทางครอบครัวต้องดูแลนางสุภาพรที่ถูกยิงบาดเจ็บจากเหตุการณ์เดียวกัน ขอฝากศพไว้ที่นิติเวชฯชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่แจ้งสิทธิและระเบียบการรับฝากศพ ใน 4 คืนแรก จะไม่มีค่าธรรมเนียมฝากศพ แต่เข้าคืนที่ 5 จะเสียค่ารับฝากศพคืนละ 300 บาท ญาติต้องส่งเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรทำเรื่องต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอฝากศพภายใน 7 วัน มิฉะนั้นต้องนำศพไปฝังที่สุสานของมูลนิธิต่างๆใน จ.ชลบุรี หรือ จ.สมุทรสาคร ตามระเบียบ
ที่วัดป่ามัชฌิมวงศ์รตนาราม บ้านเหล่าใหญ่ ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ญาติๆนำศพนายวิจัย สุขรมย์ ทนายความที่ถูก พล.ต.ต.ธารินทร์ยิงตาย มาตั้งบำเพ็ญกุศล นางธนินท์ธร ผัสดี อายุ 51 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น ผู้ตายเป็นนักกฎหมายจริงๆ หลังเลิกงานกลับมาบ้าน ยังตั้งใจทำงานต่ออดหลับอดนอนเจตนาอย่างอื่นไม่มี นอกจากนี้ยังได้เปิดร้านอาหารเหนือชื่อ“อู่ข้าว อู่น้ำ” วิภาวดีรังสิต 16 ได้ 5 ปี แต่เพิ่งปิดร้านไปเนื่องจากเจ้าของพื้นที่ต้องการขาย ก่อนเกิดเหตุร้าย ตนฝันเป็นลางเห็นร้านอาหาร มีโต๊ะปูผ้าสีแดง และมีขาคนข้างเดียววางอยู่บนโต๊ะ ตนตกใจตื่นก็ได้สวดมนต์หวังให้ฝันร้ายกลายเป็นดี และตอนให้จัดกระเป๋าสามีสั่งให้เอาเฉพาะสูทสีดำเท่านั้น ไม่ต้องเอาสูทสีเทา คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบกะทันหันเช่นนี้
ที่สำนักงานศาลยุติธรรม นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงการวางมาตรการความปลอดภัยบริเวณศาล 1.ด้านอาคารสถานที่ ปรับปรุงห้องควบคุมตัวต้องมีลูกกรงกั้น 2 ชั้น มีระยะห่าง 10-15 เมตร การสื่อสารระหว่างญาติที่มาเยี่ยมสามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารที่ศาลเตรียมไว้ ป้องกันการลักลอบส่งอาวุธหรือของต้องห้าม 2.เรื่องอุปกรณ์ที่สนับสนุนด้านความปลอดภัย ต้องเพิ่มให้เพียงพอ หากไม่พอก็จะพิจารณาของบประมาณต่อไป 3.ส่วนอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ มีเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือคอร์ทมาแชล ขณะนี้ยังไม่ครบตามอัตรา 309 คน ที่กำหนดไว้สำนักงานศาลฯจะสรรหาให้ได้ภายในปีหน้า เพราะตั้งเป้าที่จะให้มีคอร์ทมาแชลประจำศาลต่างๆทั่วประเทศ 275 แห่ง มีแห่งละ 1-2 คน ยอดรวมที่คาดไว้คือราว 1,000 นาย จะมีการเสนอคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมหรือ ก.ศ.ของบประมาณดำเนินการให้ได้ภายในปีหน้า
ที่รัฐสภานายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมถึงการวางมาตรฐานรักษาความปลอดภัยในศาล ว่า ที่ประชุม กมธ.มีมติเชิญ 6 หน่วยงาน 1.เลขาธิการศาลยุติธรรม 2.รมว.ยุติธรรม 3.อธิบดีกรมราชทัณฑ์ 4.สำนักงานอัยการสูงสุด 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6.สภาทนายความ มาชี้แจงถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในศาล ในการประชุม กมธ.วันที่ 28 พ.ย. เพราะอยากทราบว่าตำรวจศาลที่มีการฝึกอบรมไปบางส่วน และในปีงบประมาณ 2563 ที่มีการตั้งงบฯส่วนนี้ด้วย จะรักษาความปลอดภัยประจำศาลได้หรือไม่ รวมถึงการจ้างบริษัทเอกชนมารักษาความปลอดภัย มีความหละหลวมหรือไม่ ทั้งนี้ กมธ.มีข้อเสนออยากให้ศาลทั่วประเทศประกาศเขตพื้นที่ให้ชัดเจน เช่น โซนที่ 1 ตั้งแต่รั้วประตูศาลเข้ามา ระบบรักษาความปลอดภัยแบบใด โซนที่ 2 ในอาคารศาลควรจะตรวจอาวุธตามช่องทางการเข้าออกศาลอย่างไร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอาคารศาลทั่วประเทศแต่ละที่ไม่เหมือนกัน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- วงจรปิดเผย พล.ต.ต.แอบเอาปืนเข้าศาลตอน 8 โมง รปภ.จุดตรวจอาวุธไปเคารพธงชาติ
- รวบคาโรงแรม
- รวบเสมียนทนาย ข้อหายิงพล.ต.ต.ดับ หลังถล่มฆ่าในศาล
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
