โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ล้วงลึก “ชมพู ฟรุ๊ตตี้” รู้สึกเสียใจที่ทำให้ภรรยาร้องไห้ เพราะความเจ้าชู้

daradaily

อัพเดต 26 พ.ค. 2563 เวลา 11.02 น. • เผยแพร่ 26 พ.ค. 2563 เวลา 12.30 น.

ล้วงลึก “ชมพู ฟรุ๊ตตี้” รู้สึกเสียใจที่ทำให้ภรรยาร้องไห้ เพราะความเจ้าชู้
      เป็นอีกหนึ่งคู่รักมาราธอนของคนในวงการบันเทิงที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมายาวนานมากกว่า 30 ปี สำหรับ“ชมพู ฟรุ๊ตตี้” หรือ “สุทธิพงษ์ วัฒนจัง” และภรรยาสาว “บุ๋ม จุฑามาศ อิสสรานุกฤต” ที่ล่าสุดนักร้อง นักแต่งเพลงคนดัง "ชมพู ฟรุ๊ตตี๊" ได้มาเปิดใจผ่านรายการดังรายการหนึ่ง ถึงความเจ้าชู้ที่ไม่รู้ตัวว่าทำให้ภรรยาเสียใจมาตลอด 30 ปี พร้อมสารภาพทั้งน้ำตาว่ารู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองได้ทำในอดีตที่ผ่านมาว่า

อ่านข่าวต่อ : จุดเริ่มต้นในวงการดนตรีของ “ชมพู ฟรุตตี้” 

      ภรรยาเริ่มร้องไห้ให้เห็น เค้าบอกว่าให้เจ้าชู้มา 30 ปีแล้ว เลิกได้มั้ย เค้าถามมาเราตอบได้เลยว่าเลิกได้แบบตอบได้ตรงนั้นที่เค้าถามเลย เอาจริงๆเราเพิ่งคิดได้ว่าสิ่งที่เราทำมันผิด ในวันที่เค้ามาขอให้เราเลิกเจ้าชู้ในตอนนั้นเราก็ถามตัวเองว่าสิ่งที่เราต้องการจริงๆ คือ อะไรเราก็อยากมีความสุข ตอนนั้นเราก็เริ่มคิดว่าสิ่งที่เรามีความสุขมีอะไรบ้าง มันก็คือ การที่เราได้เห็นแก่ตัวไง การได้เห็นแก่ตัวมันเป็นความสุขของมนุษย์อยู่แล้ว แต่มันก็ต้องนึกถึงคนที่อยู่กับเราด้วยว่าด้วยความการได้เห็นแก่ตัวเค้ามีความสุขด้วยมั้ย เค้าได้เห็นแก่ตัวด้วยมั้ย ผมว่าแฟร์ๆ เลยคือ เราได้อยู่ฝ่ายเดียวคงอยู่ไม่นาน เดียวคงไม่ได้อยู่ด้วยกัน  แล้วเราก็รู้สึกว่าเค้าเป็นคนที่เราเลือกมาแล้ว และเลือกมาเป็นอย่างดีแล้วมันก็ดีจริงๆด้วย ตอนนี้เหลือแต่เราที่ไม่ดี เพราะเราเข้าใจเองมาตลอดว่าการที่เราเจ้าชู้เค้าโอเค เพราะเราก็บอกกับเค้ามาตลอด ว่าเราเจ้าชู้นะ แต่สิ่งที่เค้าจะได้หรือจะไม่มีปัญหาอะไรใดๆมา ไม่มีทางที่จะไปมีใจให้กับคนอื่น วิธีคิดของเราเป็นแบบนี้ไง ซึ่งนั่นแร่ะ พอเห็นเค้าร้องไห้ มันคือจุดเปลี่ยนถ้าเราไม่เปลี่ยนเรื่อง คงเปลี่ยนไปอีกแบบ นั้นก็เลยบอกว่านั่นเป็นการเหมือนโดนสิบล้อชนอีกแบบหนึ่ง ทำให้เราเลือกเจ้าชู้เลย ตอนนี้ไม่มีเลยเป็นศูนย์เลยครับ

       ถามว่าเขาเสียใจไหมที่ผมไปมีคนอื่น อันนี้ถ้าในช่วงก่อนหน้านั้น ตอนแรกๆ ไม่มีนะ เพราะเราถามเค้ามาแล้ว เค้าไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะช่วงเวลาเค้าไปบินเค้าอยู่ต่างประเทศ เค้าก็จะอยู่กับเพื่อน เที่ยว ช้อปปิ้ง ผมไม่ได้บอกว่าผมใช้เวลาที่บุ๋มไปบินเจ้าชู้นะ ถ้าจะเจ้าชู้เราเจ้าชู้ได้ทุกวัน แต่งานที่เราทำเนี่ย ไม่มีเวลาให้ไปเจ้าชู้ได้ทุกวัน เพราะงั้นเวลาที่ บุ๋ม ไปบินผมทำงาน แต่ถ้ามีเวลาบ้างผมก็ออกไปบ้าง และถ้าเค้ากลับมาจากบินเวลาที่เค้าอยู่เมืองไทย คือ เวลาของเค้าทั้งหมด เค้าเลยไม่รู้สึกอะไรกับความเจ้าชู้ของเรา เพราะชีวิตมีภาระรับผิดชอบ แต่มารู้เอาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว รู้ว่าเค้าไม่แฮปปี้มาตลอด คือ เราทั้งสองคนคิดเองกันว่าเราแฮปปี้กันแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย

        ในช่วงที่เรามีชื่อเสียง โด่งดังต้องมีคนเข้ามามากมาย มีหญิงๆมากกมาย แต่ ณ เวลานั้นก็คือ พอเค้าเรียกเราไปนั่งคุยขอบอกตามตรงนะว่าเราจะหาประโยชน์จากเค้านะ ไม่ใช่ผมได้เปรียบแต่เราแบบยังไง แฟร์ๆกัน คือแบบว่าคุณได้แต้มผม ผมได้แต้มคุณ เพราะความสัมพันธ์แบบคืนเดียว ไม่ได้นัดกันไปคบกันแบบยาวอะไรแบบนี้ ปีแรกผมจดไว้ 44 คน ผมจดชื่อนามสกุล เจอกันที่ไหน วันไหน จะได้ระลึก ใน 44 คนนี้ ผมไม่ได้เรียกใครว่าแฟน แต่พอเราอายุมากขึ้นเพิ่มขึ้น ช่วงชีวิตวันนั้นที่คิดว่าต่างคนต่างได้มันอาจจะมีความคิดของเราคนเดียวก็ได้ เพราะมาร็ทีหลังผ่านไปหลายปี มีเพื่อนมาบอกว่าคนนั้นเค้าเสียใจนะตอนนั้น เราก็บอกว่าอ้าวเสียใจทำไมอ่ะ ต้องบอกว่ามิติการใช้ชีวิตของผมคือ ผมได้ออกจากบ้านมาใช้ชีวิตของผมเองคนเดียวเรียน เล่นดนตรี มันเลยทำให้ความคิดของเราอยู่ในโลกของเรา แบบโลกของเราถูกปฎิบัติมาแบบนี้เค้านึกอยากจะเลิกกับเราเค้าก็ตอบว่าเลิกเราก็ต้องจบ  เราก็เข้าใจว่าการที่เราจะต้องจบกับใครก็แค่บอกเค้าเท่านั้นเองเราก็เข้าใจแบบนั้น พอเราอายุมากขึ้นหลายปีต่อมา มันก็ได้เจอกันอยู่ ขอบอกก่อนนะครับ ว่าที่เราเล่าให้ฟังไม่ได้มาด้วยความภาคภูมิใจนะครับ แค่เล่าให้ฟัง วันนี้เป็นความรู้สึกสำนึกเสียใจก็ว่าได้ เพราะในตอนที่เราเป็นวัยรุ่น พอเราก็อย่างที่บอกว่าช่วงอายุแต่ละช่วงคิดตามช่วงอายุ คือ อย่างอายุพอเพิ่มขึ้นช่วงละ 10 ปี ความคิดมันก็ค่อยๆเปลี่ยน เราโตขึ้นเราก็รู้สึกผิดในสิ่งที่เราได้ทำลงไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0