จากกรณีผู้เสียหายแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34 โดยระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 18 ส.ค. 62 เวลาประมาณ 20.00 น. นางสาวอรอนงค์ วิบูลพันธ์ทิพย์ หรือ ออน อายุ 27 ปี และนายวีระพงษ์ มาเยอ อายุ 28 ปี แฟนหนุ่ม ถูกรถชนระหว่างรอข้ามถนน ก่อนรถที่ชนจะขับหนีไป บริเวณเอกชัยสนามกอล์ฟ วัดโพธิ์แจ้ จ.สมุทรสาคร ก่อนออกถนนเอกชัย พร้อมฝากผู้ที่มีกล้องหน้ารถเหตุการณ์ดังกล่าว ให้ช่วยส่งหลักฐานให้ด้วย
วันที่ 23 ส.ค. 62 ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ นายธรรมรัตน์ จันทร์สุทร อายุ 62 ปี เจ้าของหอพักของผู้เสียหาย ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า น.ส.อรอนงค์ และนายวีระพงษ์ ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาจากตลาด มาจอดกลางถนนเพื่อรอที่จะเลี้ยวเข้าซอยหอพัก จังหวะนั้นมีรถมอเตอร์ไซค์อีกคันที่ขับตามมา คาดว่าจะถูกเฉี่ยวจากรถ 6 ล้อที่ตามมาด้านหลัง เสียหลักพุ่งชนรถมอเตอร์ไซค์ของ น.ส.อรอนงค์และนายวีระพงษ์ ทำให้น.ส.อรอนงค์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายวีระพงษ์บาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในวันถัดมา
ทั้งนี้ ตนได้สอบถามข้อมูลจากคนเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้ยินเสียงรถชนกันที่หน้าซอยหอพัก มีลูกค้าที่นั่งกินอาหาร 3 คนหน้าร้านค้ากันวิ่งไปดู เห็นน.ส.อรอนงค์นอนทับร่างของนายวีรพงษ์ และรถมอเตอร์ไซค์ล้ม พบรถ 6 ล้อส่งของ ป้ายทะเบียนสีเขียว ด้านหลังเป็นตู้ทึบคล้ายบรรทุกของเย็นจอดอยู่
หลังจากนั้น ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ช่วยผู้หญิงมานั่งที่ริมทาง ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้สติ ส่วนนายวีระพงษ์นอนแน่นิ่ง ขณะชาวบ้านหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้ แต่คนขับรถส่งของ เป็นผู้ชายอายุประมาณ 25 ปี ลงจากรถมาแล้วพูดภาษาอีสานว่า “ไม่ต้องถ่าย ผมไม่ผิด” พลเมืองดีบอกว่า “ไม่ผิดก็ต้องถ่าย เพราะอยู่ในเหตุการณ์” หลังจากนั้น เมื่อมีคนมามุงดูมากขึ้น คนขับรถอาศัยช่วงชุลมุนแล้วขับรถออกไป
นางสาวอรอนงค์ วิบูลพันธ์ทิพย์ หรือ ออน อายุ 27 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ และแฟนผู้เสียชีวิต เปิดใจเล่าว่า ตนเองไปตลาดข้างวัดโพธิ์แจ้ ไปซื้อกับข้าวแฟน ขับมอเตอร์ไซค์กำลังจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าหอพักในซอย แต่มีรถมาชน แล้วตนเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นรถอะไร แฟนมีเลือดเต็มหน้า ตนเองคิดว่าแฟนตายแล้ว หลังจากนั้นตนเองก็สติแตก แล้วร้องไห้ ได้ยินชาวบ้านพูดว่า “รถสิบล้อชน รถพ่วงชน”
นางสาวอรอนงค์ ยืนยันว่า รถมอเตอร์ไซค์ของตนเองเปิดไฟเลี้ยว แต่ยังไม่ทันได้เลี้ยวก็มาเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่ง 5 วันที่ผ่านมา คดียังไม่มีความคืบหน้า ตำรวจบอกว่า คนขับรถหกล้ออ้างว่ารถมอเตอร์ไซค์อีกคันที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นคนชนตนเองและแฟนหนุ่ม แต่ก็เกิดข้อสังเกตว่าเมื่อขอกล้องหน้ารถจากรถหกล้อ ทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือ
ส่วนอาการบาดเจ็บขณะนี้ ตนเองยังเจ็บขา ใช้วีลแชร์และต้องมีคนช่วยเหลืออยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม ตนและแฟนหนุ่มคบหากันมากว่า 13 ปี ทำงานอยู่ที่โรงงานในซอยที่เกิดเหตุทั้งคู่ วางแผนว่าปีหน้าจะแต่งงานกัน แต่ตอนนี้ตนยังไม่รู้เลยว่าชีวิตจะอยู่อย่างไร ถ้าไม่มีแฟน นอกจากนี้ ฝากผ่านสื่อว่าหากใครที่มีกล้องหน้ารถ ได้โปรดออกมาแชร์ ตนเองไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่อยากให้คนผิดมาขอโทษ และรับผิดชอบ
https://youtu.be/glzsJh3LewI