จากกรณี นายพจน์ เปรมปรี ใช้อาวุธปืนลูกซองแบบไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 ก่อเหตุยิง นางกมลชนก ดวงพรกมล อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน เสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี สภาพศพนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นบ้าน ตรวจสอบสภาพศพพบว่าบริเวณหน้าอก มีรูกระสุนหลายรู ส่วนสาเหตุเกิดจากนายพจน์ตามชอบผู้ตายอยู่ระยะหนึ่ง แต่ผู้ตายไม่สนใจ
วันที่ 9 ธ.ค. 62 นางสมพร (นามสมมติ) นายจ้างของนายทุย แฟนของผู้ตาย เปิดเผยว่า นายทุยเป็นคนงาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ตนทราบว่าผู้ตายมาติดพันกับนายทุยได้ราว 2 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นหน้าฝ่ายหญิง ทราบเพียงว่าผู้หญิงจะขับรถมาหานายทุยถึงที่บ้านพัก ตนเองยังเคยพูดว่า “ผู้หญิงดี ๆ คงไม่มาหาผู้ชายเอง”
หลังจากนายพจน์ยิงผู้ตาย ก็โทรศัพท์หานายทุย พูดทำนองว่า “มึงอยู่ไหน มาดูเมียมึงหรือยัง กูยิงเมียมึงแล้วนะ คุมผ้าไว้เรียบร้อยแล้ว ไปดูนะ และมึงจะไม่ได้กรีดยางแล้ว เพราะกูจะไปฆ่ามึง” ซึ่งตอนนั้นนายทุยเปิดเสียงโทรศัพท์ให้ตำรวจฟังด้วย เพราะนายพจน์โทรศัพท์มาช่วงที่ตำรวจยังอยู่ในที่เกิดเหตุ ขณะนั้นนายทุยยังพยายามถามว่านายพจน์อยู่ที่ไหน จะเดินทางไปหา ซึ่งนายทุยปกติเป็นคนซื่อ นิสัยดี ไว้ใจได้
ที่ผ่านมาตนไม่เคยทราบว่าทุยไปมีปัญหากับนายพจน์ไหม ทราบเพียงว่าที่ผ่านมานายพจน์เคยมาถามนายทุย ถามผู้ตายว่า “จริงไหมที่มึงเป็นผัวเมียกันแล้ว” ซึ่งทุยก็พยักหน้าตอบไป จากนั้นเหมือนนายพจน์ คนก่อเหตุอาจจะไม่พอใจ นอกจากนี้ นายพจน์เคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงหมาที่เขารักมากตาย ก่อนเกิดเหตุประมาณ 10 วัน
นายทุย (สงวนชื่อจริง) แฟนของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนเองกับผู้ตายคบกันมาราว 3-4 ปี ตนไม่ได้มีปัญหากับผู้ตาย ผู้ตายมีเรื่อง มีปัญหาก็จะมาปรึกษา เล่าให้ฟังตามปกติ ส่วนตัวได้เจอผู้ตายครั้งสุดท้ายช่วงเที่ยงคืนวันเกิดเหตุ ตอนนั้นตนไปช่วยผู้ตายทำอาหารเจเพื่อขายที่บ้าน ซึ่งตนไปตั้งแต่ช่วงเย็น ตอนนั้นตนได้เจอกับนายพจน์ เห็นว่ามีปากเสียงกับผู้ตายอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะเดินออกไปหยิบอาวุธปืน พยายามยิงตน ยกกระบอกปืนเล็งมาที่หน้าตน แต่ผู้ตายเข้ามาขวางไว้ นายพจน์จึงยังไม่ยิงตน และเดินกลับไปที่หน้าบ้าน ก่อนจะยิงปืนขึ้นฟ้า และขึ้นรถยนต์ขับออกไป
จากนั้น ก่อนที่ตนจะโทรหาผู้ตายช่วง 04.00 น. พยายามโทรหาผู้ตายกว่า 10 ครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย สุดท้ายนายพจน์รับสายบอกตนว่ายิงผู้ตายแล้ว ให้มาดู ตนจึงประสานกู้ภัยให้เข้าไปช่วยดูที่เกิดเหตุ ต่อมาช่วงประมาณ 06.00น. นายพจน์โทรศัพท์หาตน บอกให้ไปหา ถามตนว่า “มึงอยู่ไหน กูยิงเมียมึงตายแล้ว ให้มึงออกมา มาที่ปากซอย กูรอยิงมึงอยู่” ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ผู้ตายยืนยันว่าไม่ได้มีความสัมพันกับนายพจน์ และเคารพกันเป็นญาติพี่น้อง
ยอมรับว่านายพจน์คิดกับผู้ตายในเชิงชู้สาว ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยชกต่อย หรือต่อว่านายพจน์ ใช้ชีวิตปกติ ต่างคนต่างอยู่ และตนไม่คิดว่านายพจน์จะกล้าทำเช่นนี้ ยอมรับว่ากังวลหากยังจับคนร้ายไม่ได้ ตนเองก็ห่วงเรื่อวความปลอดภัย
ด้าน นายแผน (นามสมมติ) ลูกชายผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อไม่ได้ติดต่อกับตน กระทั่งเช้าวันนี้ 07.00 น. หลังก่อเหตุ พ่อมาที่บ้าน เอาอาวุธปืนมาวางไว้ที่โซฟา ตะโกนบอกตนว่า “ฝากปืนไว้ด้วย” ซึ่งตนออกมาก็พบว่ามีปืนพร้อมกระสุน 3 นัด จากนั้นพ่อก็ออกจากบ้านไป พร้อมพูดทิ้งท้ายไว้ว่า “ยังเหลือผู้ชายอีกคน” ส่วนตัวไม่ทราบว่าพ่อไปฆ่าคนตายมา ตนเองก็เอาปืนไปเก็บตามที่พ่อสั่งไว้ ยังงงอยู่ส่งพ่อเอาปืนไปทำอะไรมา จนกระทั่งไม่นานตำรวจก็ตามมาที่บ้าน และขอค้น ตนจึงเอาอาวุธปืนออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้น ช่วงก่อนเที่ยงตนยังติดต่อกับพ่อได้ แต่พ่อก็พูดไม่รู้เรื่อง บอกว่าทำงานอยู่ กรีดยางอยู่ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีก ที่ผ่านมาพ่อเลิกกับแม่ตนไปนานแล้ว สมัยก่อนยอมรับว่าหากพ่อดื่มสุราจะมีอารมณ์ร้อน เคยทะเลาะกับแม่ถึงขั้นตบตี บางครั้งใช้อาวุธข่มขู่ จนบางทีตนเองก็ทนไม่ไหว จากนี้ไปตนไม่คิดปกป้องพ่อ อยากให้มอบตัว ทำผิดก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ
https://youtu.be/tQmjwsLS8Hc