โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ล่องใต้ ปั่น 3 ทะเล(จบ) : จาก“ทะเลน้อย”สู่“อ่าวไทย” อะเมซิ่งควายน้ำ ชมวิวงามสะพานยาวที่สุดในไทย/ปิ่น บุตรี

Manager Online

อัพเดต 17 ก.พ. 2562 เวลา 08.15 น. • เผยแพร่ 17 ก.พ. 2562 เวลา 08.15 น. • MGR Online

โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)

Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน

“ทะเลน้อย” ย่อมไม่ใช่ทะเลใหญ่ ทั้งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน หากแต่เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ของภาคใต้(แต่ว่ามีขนาดเล็กกว่า “ทะเลสาบสงขลา”อยู่ไม่น้อย) ที่ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความหลากหลายและความสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

ทะเลน้อย เป็นทะเลลำดับที่ 2 ในเส้นทาง“ปั่น 3 ทะเล” ซึ่งทางบริษัท “Octo Cycling” ได้จัดทริปปั่นจักรยานท่องเที่ยวเปิดมุมมองใหม่ในเส้นทาง “ตรัง-พัทลุง-สงขลา” (4 วัน 3 คืน) เพื่อสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งทะเลใต้ คือ “อันดามัน-ทะเลน้อย-อ่าวไทย” โดยมีทะเลสาบสงขลาเป็นอีกหนึ่งของแถม (อาจจะใช้ว่าทริปปั่น 4 ทะเล หรือ ทริปปั่น 3+1 ทะเล ก็ได้เช่นกัน)

ทะเลน้อย

สำหรับกิจกรรมในวันแรกพวกเราปั่นเที่ยวใน อ.กันตัง จ.ตรัง ก่อนมุ่งหน้าปักค้างยัง “หาดปากเมง” แห่งทะเลตรัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอันดามัน ทะเลแรกของทริป(ปั่นวันแรกประมาณ 65 กม.)

ต่อจากนั้นในวันที่ 2 พวกเราปั่นยาวจากหาดปากเมงขึ้นไปพักค้างบน “เขาพับผ้า”บริเวณรอยต่อจังหวัดตรัง-พัทลุง (ปั่นวันที่ 2 ประมาณ 85 กม.)

ส่วนวันที่ 3 พวกเราปั่นลงจากเขาพับผ้าข้ามเขตจังหวัดตรังเข้าสู่จังหวัดพัทลุง มุ่งหน้าสู่ “ทะเลน้อย” ทะเลลำดับที่ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของทริป(ปั่นวันที่ 3 ประมาณ 75 กม.)

ทะเลน้อย ตั้งอยู่ใน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง มีพื้นที่ประมาณ 281,250 ไร่ โดยมีพื้นน้ำประมาณ 17,500 ไร่ ทะเลน้อยเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก จนได้รับการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลก หรือ “แรมซาร์ ไซด์” (Ramsar Site) แห่งแรกในเมืองไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2541

สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ทะเลน้อยก็คือการล่องเรือชมทะเลน้อย ซึ่งหากไปในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ก็จะได้สัมผัสกับความงดงามของ“ดอกบัวสาย” หรือ “ดอกบัวแดง” ที่พากันออกดอกบานสะพรั่งดุจดัง“ทะเลบัว”สีชมพูสดใสเต็มท้องน้ำ

ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์ที่จะได้พบเจอไปตลอดการล่องเรือก็คือ บรรดานกน้ำจำนวนมาก ทั้งนกประจำถิ่น นกอพยพ ที่มีรวมกันไม่ต่ำกว่า 150 ชนิด(บางข้อมูลระบุว่ามีมากถึง กว่า 287 ชนิด) และมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 100,000 ตัว นำโดยนกที่หาชมได้ไม่ยาก อย่างเช่น นกอีโก้ง นกกาน้ำ นกยาง นกเป็ดผี นกเป็ดแดง นกนางแอ่น นกนางนวล นกเป็ดคับแค นกกระสา อีกา เหยี่ยว เป็นต้น

ขณะที่นกหายากและนกใกล้สูญพันธุ์ในทะเลน้อยนั้นก็มี นกกาบบัว นกช้อนหอย นกกระสานวล นกฟินฟุท นกอ้ายงั่ว นกปากซ่อมพง เป็นต้น

นอกจากนี้ทะเลน้อยยังมี“ควายน้ำ” เป็นอีกหนึ่งสิ่งชูโรงสำหรับผู้มาเยือนทะเลน้อย

ควายน้ำ อันที่จริงก็คือ ควายเลี้ยงทั่ว ๆ ไปของชาวบ้านในละแวกทะเลน้อยและทะเลสาบสงขลา แต่พวกมันมีความสามารถพิเศษตรงที่สามารถปรับตัวในการออกหากินตามแหล่งอาหารของมัน

คือเมื่อน้ำในทะเลน้อยลดต่ำไปจนถึงแห้งขอดในบางช่วง จนมีสันดอนพื้นดินโผล่ มีทุ่งหญ้าขึ้น เจ้าควายพวกนี้มันก็จะขึ้นมาและเล็มหญ้ากินบนบก

แต่เมื่อยามหน้าน้ำ ทะเลน้อยมีปริมาณน้ำสูง ท่วมทุ่งหญ้า ท่วมแหล่งหากินของควาย เจ้าควายพวกนี้มันก็จะปรับตัว เปลี่ยนมากินพืชน้ำอย่างสายบัว ใบบัว หรือสาหร่ายแทน โดยจะพากันว่ายน้ำชูคอลงไปหากินในน้ำ หรือไม่ก็ดำลงไปกินสาหร่ายหรือสายบัว จนถูกเรียกขานให้เป็น “ควายน้ำ” อันแสนน่ารักและน่าทึ่ง

คลองปากประ

สำหรับการท่องเที่ยวทะเลน้อยหากอยากสัมผัสกับความงดงามให้ครบรส ควรจะเลือกมาพักค้างคืนบริเวณใกล้ ๆ กับทะเลน้อย ดังเช่นในทริปนี้ที่หลังจากพวกเราปั่นมาถึงที่ทะเลน้อย และออกปั่นเที่ยวชมวิวบริเวณรอบ ๆ ทะเลน้อยในยามเย็นแล้ว

หลังจากนั้นเราปั่นกันต่ออีกนิดเพื่อไปพักที่ “ศรีปากประ รีสอร์ท” ที่พักบรรยากาศดีที่ตั้งอยู่บริเวณปากคลองปากประ หรือ “บึงปากประ”(เรียกชื่อตามชาวบ้าน) ริมทะเลหลวงที่เป็นส่วนตอนบนของทะเลสาบสงขลา (เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของทะเลสาบสงขลา) ซึ่งอันที่จริงทริปนี้จะเรียกว่า ปั่น 4 ทะเล หรือ 3 ทะเล+1 ก็ได้ เพราะมี “ทะเลสาบสงขลา” รวมอยู่ในทริปด้วย

ศรีปากประ รีสอร์ท นอกจากจะเป็นที่พักชื่อดังบรรยากาศดีแล้ว ยังมีจุดชมวิวชั้นดี(ที่ร้านอาหาร) ภายใต้สโลแกน “มหัศจรรย์แห่งแสง แหล่งยกยอ” เนื่องจากเมื่อมองออกไปจะเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามกว้างไกลของบึงปากประ ที่เรียงรายไปด้วย “ยอยักษ์” ภูมิปัญญาการทำประมงพื้นบ้านของคนในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและทะเลน้อย

สำหรับที่คลองปากประ(บ้านปากประ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน) บริเวณสะพานข้ามคลองปากประ ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นชั้นดีที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

โดยในช่วงเช้ามืด ชาวบ้านที่คลองปากประจะพากันออกมายกยอยักษ์ ท่ามกลางท้องฟ้าแสงเรื่อเรือง ก่อนที่พระอาทิตย์ดวงกลมโตจะค่อยๆลอยโผล่เหนือผืนน้ำดูสวยงามน่าประทับใจกระไรปานนั้น

นอกจากนี้เรายังสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวจากคลองปากประไปออกยังทะเลน้อยได้ ซึ่งในระหว่างทางก็จะมีภาพความงามหลากหลายรูปแบบให้สัมผัสกัน ไม่ว่าจะเป็น ภาพวิถีชีวิตการจับปลาด้วยยอยักษ์(คลองปากประ) ครั้นพอเรือมาถึงทะเลน้อยก็จะได้สัมผัสกับความงามของ ทะเลบัว นกนานาพันธุ์ ควายน้ำ 3 สิ่งไฮไลท์แห่งทะเลน้อย

และนี่ก็คือกิจกรรมต้อนรับยามเช้าของคณะเรา ก่อนจะปิดทริปกันด้วยการปั่นส่งท้ายจากทะเลน้อยสู่อ่าวไทย ในเส้นทางปั่นที่ได้ชื่อว่าสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย

สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

หลังอิ่มอร่อยกับมื้อเช้าหลากหลายเมนู(นำโดยอาหารพื้น)ที่ ศรีปากประ รีสอร์ท จุดหมายสุดท้ายในทริปของเราวันนี้คือการปั่นมุ่งหน้าสู่ทะเลที่ 3 คือ“ทะเลอ่าวไทย” ในเส้นทางปั่นข้าม “สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” หรือที่คนนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ” ซึ่งเป็นเส้นทางสาย “ถนนบ้านไสกลิ้ง-บ้านหัวป่า” ที่สร้างเชื่อมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ บ้านไสกลิ้ง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และบ้านหัวป่า อ.ระโนด จ.สงขลา

เส้นทางสายนี้มีความยาวกว่า 17 กม. แบ่งเป็น 3 ช่วง โดยช่วงที่ 2 ที่สร้างเป็นสะพานยกระดับอยู่เหนือพื้นที่ทะเลน้อย หรือ “สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา” นั้น มีความยาวถึง 5.450 กิโลเมตร นับเป็นสะพานที่ยาวที่สุดของไทยในปัจจุบันนี้

เนื่องจากสะพานและถนนสายนี้ สร้างผ่านทั้ง ทะเลน้อย และ ทะเลสาบสงขลา สองข้างทางมีวิวทิวทัศน์สวยงามน่ายลเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวิวของทะเลสาบทะเลน้อยอันกว้างไกล ซึ่งในช่วงน้ำหลากจะเห็นควายน้ำออกหากินเป็นจำนวนมาก ขณะที่ในช่วงน้ำแล้ง เหล่าควายน้ำก็จะกลายมาเป็นควายบก เดินหากินตามท้องทุ่งหญ้า ที่ช่วงหน้าน้ำถูกน้ำท่วมจมมิด

นอกจากนี้ก็ยังมีนกอีกหลากหลายชนิดให้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน ภาพของท้องทุ่งนาริมทางอันเขียวขจีทั้งฝั่งพัทลุงและสงขลา ภาพวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน โดยเฉพาะที่“คลองนางเรียม”ที่ตั้งอยู่ช่วงปลายสะพาน(ในเส้นปั่นไปจากพัทลุง)

คลองนางเรียม-หาดปากแตระ

คลองนางเรียม (อ.ระโนด จ.สงขลา) เป็นคลองที่มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ มีสายน้ำไหลเชื่อมระหว่างทะเลน้อยกับทะเลสาบสงขลา และเป็นที่มาของตำนาน

เดิมทะเลน้อยและพื้นที่บริเวณคลองนางเรียมมีจระเข้อาศัยอยู่ชุกชุม(ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ที่นี่จึงเป็นที่มาของตำนาน “ทวดนางเรียม” หรือ “ทวดคลองนางเรียม” ซึ่งเป็นพญาจระเข้ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจึงยกย่องเคารพบูชาพร้อมกับเรียกขานว่า “ทวด”

ที่คลองนางเรียมเมื่อผมปั่นจักรยานไปถึง จึงจอดแวะลงถ่ายรูป เพราะได้เห็นภาพอันชวนสะดุดตาของวิถีชาวประมงพื้นบ้าน ชาวบ้านบางคนกำลังลอยเรือหาปลา บางคนกำลังเหวียงแห โดยมีขนำเล็ก ๆ สำหรบชาวประมง ปลูกสร้างเรียงรายอยู่ใน 2 ฟากฝั่ง ส่วนเมื่อปั่นถัดไปอีกหน่อยก็เป็นภาพของสายน้ำลำคลองกับวิถีการยกยอใหญ่แบบดั้งเดิมอันน่ายล

สำหรับเส้นทางนับจากนี้ไป ผมกับคณะได้ปั่นข้ามจังหวัดจากพัทลุงเข้าสู่เขตจังหวัดขลาที่ อ.ระโนด อย่างเต็มตัว

ระโนดได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่ง “โหนด-นา-เล”

-“โหนด” คือต้นตาลโตนดที่มีปลูกอยู่มากมาย 2 ข้าง ซึ่งที่นี่ถือเป็นแหล่งทำน้ำตาลโตนดและแหล่งปลูกต้นตาลโตนดขนาดใหญ่ในลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย

-“นา” คือท้องทุ่งนาที่ปลูกด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน จากน้ำในทะเลสาบสงขลา

-“เล” คือ ทะเลสาบสงขลา แหล่งสรรพชีวิตสำคัญแห่งดินแดนด้ามขวาน

จาก อ.ระโนด เราปั่นผ่านวิวทิวทัศน์อันสวยงามใน 2 ฟากฝั่ง มุ่งหน้าสู่จุดสุดท้ายคือทะเลอ่าวไทยที่ “หาดปากแตระ” ที่ตั้งอยู่ที่ ต.ปากแตระ อ.ระโนด จ.สงขลา

หาดปากแตระ เป็นหาดอันสงบงามที่เหมาะแก่การพักผ่อน นั่งรับประอาหาร จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ริมทะเล โดยพวกเราปั่นปิดทริปกันที่ “ร้านป้าสุคนธ์” ร้านอาหารบรรยากาศบ้าน ๆ ริมหาดปากแตระที่ทำอาหารรสชาติอร่อยจัดจ้านไม่ธรรมดา(ปั่นวันที่ 4 ระยะทางประมาณ 50 กม.)

นับเป็นการอิ่มอร่อยส่งท้ายทริปปั่น 3 ทะเล คือ “อันดามัน-ทะเลน้อย-อ่าวไทย”(โดยมีการโฉบผ่านทะเลสาบสงขลาด้วย) ในเส้นทาง 3 จังหวัด ตรัง-พัทลุง-สงขลา ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งบทบันทึกแห่งความทรงจำ ที่ทำให้ผมพบว่า ในหลายต่อหลายครั้งของการเดินทาง เรื่องราวระหว่างนั้นมีเสน่ห์สวยงามไม่ต่างไปจากจุดหมายปลายทางแต่อย่างใด

………………………………………………………………………………………..

Octo Cycling เป็นบริษัทที่มุ่งเชิญชวนผู้ชื่นชอบการปั่นจักรยานออกไปผจญโลกกว้างด้วยการปั่นจักรยานท่องเที่ยวสัมผัสกับสถานที่ต่างๆ ทั้งใน กทม. ในเมืองไทย อาเซียน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรป เป็นต้น ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2181-2088 หรือที่ www. Octocycling.com หรือ www.facebook.com/octocycling

……………………………………………………………………………………….

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0