จากกรณีวันที่ 25 ม.ค. 63 นายไพบูลย์ ส่างสาร อายุ 56 ปี อาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ ก่อเหตุขับรถเก๋งพุ่งชน นายสุพรรณ์ ญาติบรรทุง อายุ 57 ปี เพื่อนบ้าน จนเสียชีวิตคาที่ หลังมีเรื่องบาดหมางจากราวตากผ้า โดยหลังก่อเหตุได้ขับรถไปทิ้งไว้หน้าสนามฟุตบอล ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดในหมู่บ้าน จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุด ตำรวจออกหมายจับข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” (อ่าน : เปิดนาทีเก๋งพุ่งชนอัดเพื่อนบ้านตายคาที่ ไหว้คนในรถก่อนเผ่น เมียยันตากผ้าไม่ขวางบ้าน)
วันที่ 26 ม.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวนายไพบูลย์มาดำเนินคดี เบื้องต้น มีรายงานว่านายไพบูลย์โทรศัพท์ติดต่อไปหาพี่ชายที่ภาคใต้ ซึ่งพี่ชายก็ได้เกลี้ยกล่อมให้มอบตัว เเต่นายไพบูลย์ก็ปิดโทรศัพท์ เเละติดต่อไม่ได้อีก
นางปาณกมล รัศมี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ พนักงานสอบสวนก็ได้หลักฐานครบถ้วนชัดเจน ซึ่งตนเองก็อยากให้ผู้ที่พบเห็นคนก่อเหตุ ช่วยกันแจ้งตำรวจ เพราะจะได้จับกุมตัวได้เร็วขึ้น เพื่อที่ผู้ตายจะได้นอนตายตาหลับ เพราะผู้ตายตายโดยไม่รู้ตัว
นายชาติ เพื่อนที่ขับวินมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน เปิดเผยว่า ตั้งเเต่เกิดเรื่องก็ไม่เห็นนายไพบูลย์อีกเลย เนายไพบูลย์ก็ไม่ได้ติดต่อมาหาเพื่อน ๆ ที่วิน นิสัยของนายไพบูลย์ก็เป็นคนดี บุคลิกจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เมื่อขับรถมาจอดที่วินเพื่อรอรับลูกค้า นายไพบูลย์ก็จะปลีกตัวไปนั่งคนเดียว จึงทำให้ไม่สนิทกับใครในวิน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นนายไพบูลย์มีเรื่องบาดหมางกับใคร กระทั่งมาเห็นคลิปดังกล่าว จึงรู้สึกว่าการกระทำโหดร้ายมาก ตอนนี้อยากให้นายไพบูลย์เข้ามอบตัวกับตำรวจ เเละรับผิดในสิ่งที่ทำ โทษหนักจะได้เป็นเบา
นายวิศูต รัศมี อายุ 59 ปี พี่ชายของภรรยาผู้ตาย เล่าว่า หลังเกิดเหตุ พี่ชายของผู้ก่อเหตุได้โทรมาหาตนเพื่อขอโทษ และกล่าวเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยืนยันกับตนว่าจะรับผิดชอบทั้งหมด จากเหตุการณ์ดังกล่าว ครอบครัวผู้ตายก็ขาดเสาหลัก ตนเองและญาติพี่น้องทุกคนก็จะคอยช่วยเหลือ สิ่งที่สะเทือนใจมากที่สุดก็คือลูกชายวัย 11 ขวบของผู้ตาย ที่เมื่อวานญาติทุกคนยังไม่กล้าบอกความจริง จึงพาไปอยู่บ้านญาติอีกหลัง แล้วโกหกว่าพ่อกำลังรักษาตัวอยู่ เเต่เเล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกชายของผู้ตายเห็นข่าวพ่อตัวเองทางโทรทัศน์ จึงทราบความจริงทั้งหมด และร้องไห้ไม่หยุด ญาติต้องช่วยกันปลอบใจ
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกสลดใจมาก มองว่าผู้ก่อเหตุไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ ทำเกินกว่าเหตุมาก รู้สึกเสียดายน้องเขย ที่อีกไม่กี่ปีก็จะเกษียณและจะได้พักผ่อนกับภรรยา ส่วนผู้ก่อเหตุก็อายุมากเเล้ว คงต้องติดคุกตอนแก่เพราะการกระทำของตัวเอง ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับตำรวจ เพราะตำรวจสมัยนี้เก่ง คงหนีไม่รอด
ที่วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร สถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมนายสุพรรณ์ ญาติอยู่ในอาการเสียใจ หลายคนร้องไห้ช่วงรถน้ำศพ นางปาณกมล รัศมี ภรรยาผู้ตาย นั่งอยู่ข้างลูกชาย 11 ขวบ ช่วงหนึ่ง ภรรยาและลูกสาวของนายไพบูลย์ ผู้ก่อเหตุ มาร่วมแสดงความเสียใจ โดยภรรยาของผู้ก่อเหตุ ระบุว่าสั้น ๆ ว่า ยังไม่สามารถติดต่อสามีได้ โดยไม่ทราบว่าสามีย้ายไปอยู่ที่ไหน และกราบขอขมากับเรื่องที่เกิดขึ้น
นางปาณกมล รัศมี ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ประเด็นเรื่องนายไพบูลย์กับสามีตน ตนเองไม่เคยทราบเรื่องที่เขามีปัญหากัน แต่เท่าที่ทราบ ตนไม่เคยเห็นทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะกันเรื่องราวตากผ้า ยอมรับว่าจะมีการนำไปตากหน้าบ้านทุกอาทิตย์ แต่ไม่ได้ตากขวางหน้าบ้านคนอื่น จะขวางแค่หน้าบ้านตัวเอง และพื้นที่ถนนก็ยังสามารถใช้รถได้อยู่
ทั้งนี้ ยังมีปัญหาที่ตนสงสัย คือสามีตนและคนก่อเหตุเคยเป็นคณะกรรมหมู่บ้านร่วมกัน อาจจะเคยบาดหมางกันหรือไม่ ส่วนตอนนี้อยากให้คนร้ายมอบตัว หากมีกราบขมาศพหรือมาขอโทษตน ส่วนตัวคิดว่าคงไม่มีทาง ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด โดยวานนี้ช่วงเช้า ตนได้คุยกับสามีตอนตื่นนอน สามีพูดว่า “เมื่อคืนนอนหลับสบายจัง” ตนก็ไม่คิดว่าจะเป็นคำพูดสุดท้าย
นายเอ (นามสมมติ) ญาติผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางไปร่วมงานศพ และได้ขอโทษครอบครัวคนตายแล้ว ครอบครัวผู้ตายเองก็เข้าใจว่าเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลในส่วนของครอบครัวก็จะช่วยเหลือและรับผิดชอบเท่าที่จะทำได้ ส่วนสภาพจิตใจลูกสาว และภรรยาของผู้ก่อเหตุ ตอนนี้ย่ำแย่มาก จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ตนเองอยากให้ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับตำรวจ เนื่องจากขณะนี้ครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างหนัก ครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย
หญิงที่อยู่บนรถยนต์คันก่อเหตุ ให้ข้อมูลว่า ปัญหาที่นายไพบูลย์ก่อเหตุขับรถชนนายสุพรรณ์ เนื่องจากไม่พอใจที่นายสุพรรณ์ชอบนำราวตากผ้ามาตากด้านหน้า บางครั้งจะขวางทางเข้าบ้านตน ซึ่งบ้านตนก็ไม่เคยต่อว่า แต่นายไพบูลย์มีท่าทีที่ไม่พอใจ เคยมาบอกแม่ตนกับเรื่องที่ตากผ้า แต่แม่ตนไม่ได้จัดการ ส่วนตัวครอบครัวตนไม่เคยมีปัญหากับคนตาย
ในทางกลับกันยังมีความสนิทสนมกัน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นคาดว่าเป็นความอคติส่วนตัวของคนก่อเหตุ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนั้นตนเองอยู่ในรถ ฝ่ายคนก่อเหตุได้พูดขึ้นมาในรถว่า “ไอเ-ี้ย ไอ-ัตว์ กูจะไม่ทนแล้วนะ” จากนั้นก็เหยียบคันเร่งชนผู้ตายทันที
พันจ่าอากาศเอกสงคราม ศุภศรี ประธานหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองยืนยันได้ว่านายไพบูลย์ และนายสุพรรณ์ ไม่มีปัญหาเรื่องการเป็นกรรมการชุมชน ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมีใครทะเลาะกันในงานของหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ทั้ง 2 คนจะไม่ได้เจอกันมากกว่า เพราะต่างคนต่างทำงาน ว่างไม่ตรงกัน แต่นายสุพรรณ์ลาออกจากกรรมการมาราว 1 ปีแล้ว จึงคิดว่าไม่เกี่ยวกัน ส่วนเรื่องการขัดแย้งส่วนตัว ตนเองไม่ทราบว่าเรื่องอะไร แต่คิดว่า 2 คนคงมีปัญหาส่วนตัวกัน ส่วนภรรยากับลูกของทั้ง 2 ฝ่ายก็ดีกันตามปกติ
ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นคนดี และช่วยเหลืองานหมู่บ้านเป็นประจำ ถึงแม่ผู้ตายจะลาออกแล้ว แต่ก็ยังให้ความร่วมมือกับงานหมู่บ้านอย่างดี
นางจิ๋ว (นามสมมติ) ชาวบ้านในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้าน ตนได้ยินเสียงคล้ายรถชนเสียงค่อนข้างดัง เหมือนว่ามีการชนอยู่หน้าบ้านตน ตนเองออกมาดูพบว่านายสุพรรณ์ถูกรถชนแล้ว
ทั้งนี้ มีครั้งหนึ่งเมื่อต้นปี 2562 มีผู้หญิงอายุราว 30 ปี มาจอดรถอยู่บริเวณข้างบ้านของนายจ้างผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่หัวมุม มีพื้นที่ข้างบ้านที่มีที่จอดรถได้ราว 4 คัน ผู้หญิงคนดังกล่าวมาหาเพื่อน และจอดรถไว้ที่จุดนี้ จากนั้นก็ไปทำธุระ ซึ่งไม่ได้จอดขวางหน้าบ้านใคร เมื่อผู้หญิงคนดังกล่าวกลับมาที่รถ ปรากฎว่านายไพบูลย์ได้เข้าไปต่อว่า ซึ่งตนได้เจอกับผู้หญิงคนดังกล่าว ถามว่านายไพบูลย์เป็นใคร ใช่เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวหรือไม่ ตนเองก็ตอบไปว่าไม่ใช่ นายไพบูลย์เป็นเพียงลูกจ้างที่ขับรถให้กับบ้านหลังที่สาวรายนั้นไปจอดรถเท่านั้น
โดยผู้หญิงคนดังกล่าวมีท่าทีที่ดูตกใจ คล้ายจะร้องไห้ และบอกว่า “คุณลุงคนนั้นเขาด่าหนู” อย่างไรก็ตาม ที่จอดรถดังกล่าวไม่ใช่ที่จอดประจำของใคร มีรถของเจ้าของบ้านที่อยู่หัวมุมมาจอดบ้าง กับส่วนใหญ่คือคนที่มาว่ายน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดนี้เพียงตึก 4 คูหา ตนมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นโหดร้ายมาก ตนเองเห็นคลิปแล้วยังรับไม่ได้ ดูแล้วขนลุกทุกครั้ง
https://youtu.be/EmCH9ZM3hxI
