จากกรณีพระเด็จ คงกระพันธุ์ อายุ 56 ปี พระลูกวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หายตัวไปอย่างปริศนา หลังจากรับกิจนิมนต์ขึ้นไปนั่งสวดมนต์พิธีปักธง บนยอดเทือกเขาผาขี้ควาย เทือกเขาเขตติดต่อ 3 หมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าหน่วยเขาช้างล้วง อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ พร้อมชาวบ้านระดมกำลังออกตามหาแล้วแต่ไม่พบตัว เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 61
วันที่ 17 ม.ค. 62 นางบุญศรี ขำมี ภรรยา พร้อมลูกสาวพระเด็จ และนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ลงพื้นที่ผ่านป่าปาล์มบริเวณตีนเขาผาขี้ควาย โดยตลอดเส้นทางเป็นป่าที่มีต้นไม้สูงใหญ่สลับกับหญ้าค่อนข้างรก สภาพทางเดินค่อนข้างชัน เดินขึ้นไปได้ยาก พบก้อนหินขนาดใหญ่
นางบุญศรี ระบุว่า เป็นจุดที่พระเด็จยืนเป็นจุดสุดท้ายก่อนหายไป ตามคำให้การของนายอำนาจ อดีตพระลูกวัดบ้านพร้าวที่เป็นผู้ต้องสงสัย ซึ่งต้องเดินขึ้นเขาต่อไปอีกเกือบ 1 กิโลเมตรจึงจะถึงจุดปักธง
นางบุญศรี กล่าวว่า นายอำนาจได้ขับรถมาจอดที่ทางขึ้นเขาก่อนเดินต่อมายังจุดดังกล่าว แต่พระเด็จเดินต่อไม่ไหวจึงหยุดพัก โดยนั่งที่ก้อนหิน ส่วนตัวเองก็เดินต่อขึ้นไปบนผาแต่เพียงผู้เดียว และมีการตะโกนหากันก็ยังตอบรับ ขากลับเดินลงมาก็ไม่พบพระเด็จแล้ว ซึ่งเส้นทางนี้ชาวบ้านไม่ค่อยใช้เดินขึ้นเขา เพราะทางชันมาก มีเพียงกลุ่มพรานที่หาของป่าเท่านั้น โดยมีอีกเส้นทางที่เป็นทางชาวบ้านแต่อ้อมกว่า ซึ่งพระเด็จก็ไม่เคยใช้เส้นทางดังกล่าว
นางบุญศรี กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้เคยปูพรมหาทั้งหมดแล้วแต่ไม่เจอ มั่นใจว่าสามีไม่มีทางหลง เพราะหากขึ้นไปบนยอดก็สามารถมองลงมาเห็นหมู่บ้าน ประกอบกับทางเป็นเขา หากเดินไต่ลงมาถึงพื้นดินก็จะเจอบ้านคน โดยที่ตนตามหา เพราะคิดว่าอาจถูกฆ่าฝังดินไว้ ซึ่งตนก็ทำใจแล้วว่าอาจจะเจอแค่กระดูก ทั้งนี้ ตั้งแต่พระเด็จหายตัวตนก็ไม่ได้ฝันแต่อย่างใด แต่มีญาติฝันว่าพระเด็จมาบอกว่าโดนจับสึกและฆ่า โดยไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนฆ่า
ด้านน.ส.ช่อเพชร นวลวัน ลูกสาว มั่นใจว่าพระพ่อไม่ได้เดินขึ้นไปทางจุดเกิดเหตุอย่างแน่นอน เพราะทางชันมาก และสุขภาพของพระพ่อก็ไม่แข็งแรง โดยส่วนตัวคิดว่าหากมีการฆาตกรรมกันก็อาจจะไปทำนอกพื้นที่ โดยตนได้คุยกับนายอำนาจแค่ครั้งเดียว เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ช่วงที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ จากที่ตนสอบถามว่าเหตุใดจึงขึ้นเขาในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวระบุเพียงว่า เห็นว่าใกล้ดี
ส่วนพื้นที่ป่าปาล์มจุดทางขึ้นเขา ก่อนหน้านี้เห็นว่ามีใบปาล์มมาปิดไว้ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าหากพระพ่อถูกฆ่าอาจจะมีการนำศพมาทิ้งไว้ก่อน แล้วเอาใบไม้ปิด ก่อนจะเคลื่อนย้ายศพออกไปทีหลัง ซึ่งหลังวันเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นว่านายอำนาจเข้ามาที่เกิดเหตุแต่เช้า โดยขับรถเข้ามา จึงเป็นสิ่งที่เคลือบแคลงใจ
ส่วนเรื่องที่พระพ่อติดเหล้านั้น ก่อนหน้านี้ท่านติดเหล้าหนักจริง จึงแนะนำให้มาบวชเพื่อเลิกเหล้า หลังจากนั้นก็ไม่เห็นว่าท่านดื่มเหล้า ซึ่งหากพระพ่อดื่มเหล้าหนักจนหน้าแดงในวันเกิดเหตุ ตามคำกล่าวอ้างของพระในวัด ตนก็คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่พระพ่อจะมาขึ้นเขา ทั้งนี้ ตนก็ทำใจว่าพ่อน่าจะเสียชีวิตแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ฝันว่า พ่อมาบอกว่าถูกฆ่ารัดคอบนเนินหิน ไม่ต้องลำบากออกตามหาแล้ว
นอกจากนี้ ทีมข่าวเดินทางไปยังร้านขายขนมแห่งหนึ่งในตลาดนครไทย พบว่านายอำนาจ อดีตพระที่เคยบวชเป็นพระอยู่ที่วัดเดียวกันกับพระเด็จ กำลังนั่งทำงานอยู่ในร้าน ซึ่งเป็นร้านของนางโฉมถวิล พานทอง เป็นร้านของพี่สาว โดยพูดคุยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สั้น ๆ ว่า ตนไม่ได้กลัว หากจะมีการรื้อคดีสอบใหม่ เพราะหากกลัวคงจะหนีไปแล้ว รวมถึงไม่ทราบว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงสงสัยตน
