ลูกเขยรุ่นเยาวชนท้าชนแม่ยาย ในศึกลอตเตอรี่ 12 ล้านบาท เข้ากราบสาบานต่อหน้าย่าโม ว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จริง ขณะที่แม่ยายและญาติก็ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง หลังสาบานผ่านไปแล้ว 3 วัน ก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
ศึกลอตเตอรี่ 12 ล้านบาท จ.นครราชสีมา
นายชาติชาย พลเทพ ทนายความ พาเยาวชนชายและหญิง พร้อมแม่ ไปจุดธูปสาบานต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเยาวชนชายยังคงยืนยันว่าตนเองถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล 2 ใบ ของงวดวันที่ 1 เมษายน 2561 จริง และนำไปฝาก นางมานิตย์ เต็มปักษี แม่ของภรรยาที่บ้านจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ถูกแม่ยายและญาติฝ่ายภรรยายักยอกไว้ จึงขอบารมีย่าโม ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ในเร็ววัน
ทั้งนี้ คู่สามีภรรยาเยาวชน บอกว่า รู้สึกโล่งใจที่ได้มาสาบานต่ออนุสาวรีย์ย่าโม เพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ โดยมั่นใจว่าจะชนะคดีในที่สุด ซึ่งเยาวชนหญิงได้ฝากบอกแม่ผ่านสื่อว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ตนเองอยู่บ้านสามีมีความสุขดี แต่จะติดต่อแม่อีกหรือไม่ ขอคิดดูก่อน
นางบัวตัน เลาะกลาง แม่ของเยาวชนชาย บอกว่า เชื่อในสิ่งที่ลูกชายยืนยัน เพราะสอบถามหลายครั้ง ทั้งลูกชายและลูกสะใภ้ก็พูดตรงกันเหมือนกันทุกครั้ง ก็อยากให้สังคมอย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าใครถูกใครผิด ขอให้รอดูผลจากการวินิจฉัยของศาลก่อน
ด้าน ทนายชาติชาย บอกว่า รับทำคดีเพราะมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนแล้ว ไม่ใช่เชื่อในคำพูดของเด็ก ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งคลิปเสียงที่เด็กบอกว่าได้พูดคุยกับแม่ และหลักฐานจากทางกองสลากฯ
ฝั่งแม่ยายและญาติก็ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองเช่นกัน พร้อมกล่าวอ้างถึงความศักดิ์สิทธิ์ของย่าโม ที่เคารพศรัทธาของคนทั่วไป โดยเฉพาะคนในภาคอีสาน หลังจากไปสาบานต่อหน้าย่าโม เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ตามคำท้าของลูกเขยให้มีอันเป็นภายใน 3 วัน 7 วัน นี่ก็ผ่านมาแล้ว 3 วัน ก็ยังอยู่ปกติดี ไม่เป็นอะไร ส่วนลูกสาวที่ไปเข้าข้างสามีกล่าวหาแม่ ก็ไม่ถือโทษ หวังว่าเมื่อลูกสำนึกได้แล้วจะกลับมาขอโทษเอง
ทั้งนี้ นางปราณี ลูกจันทร์ พี่สาวนางมานิตย์ และเป็นแม่ของนางสาวฉวีวรรณ ลูกจันทร์ ที่ถูกฝ่ายลูกเขยกล่าวหาว่า เป็นผู้ที่แม่ยายไหว้วานให้นำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินรางวัล ก็มั่นใจในตัวของลูกสาวและน้องสาว พร้อมย้ำว่าใครที่พูดโกหกก็ต้องรับผลการกระทำของตัวเอง โดยส่วนตัวให้อภัยหลานสาวได้ แต่หลานเขยกับแม่ของหลานเขย ที่มาใส่ร้ายคนในครอบครัวของตนเอง คงไม่อาจให้อภัยได้
ยกคำร้องทนายครูปรีชา ละเมิดอำนาจศาล จ.กาญจนบุรี
อีกหนึ่งคดีลอตเตอรี่อลเวงที่ยังไม่จบลงง่าย ๆ คือคดีของครูปรีชา ใคร่ครวญ กับหมวดจรูญ วิมูล ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งที่ 5 คดีที่ครูปรีชายื่นฟ้องหมวดจรูญ ข้อหายักยอกทรัพย์ลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ในวันที่ 24 กันยายนที่จะถึงนี้ แต่ระหว่างคดียังไม่สิ้นสุด ก็มีการฟ้องร้องกันไปมาของทั้ง 2 ฝ่ายหลายคดีด้วยกัน
ซึ่งเมื่อวานนี้ ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้ยกคำร้องของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ที่ยื่นฟ้องครูปรีชา พร้อมพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของครูปรีชา, นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา เจ้าของเพจวิหคนิวส์ และนายบุญถาวร ปัญญามณีโชติ ร่วมกันนำสำเนาในสำนวนหลักฐานคดี ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนผ่านโลกออนไลน์ ว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล แต่ศาลเห็นว่าสำเนาดังกล่าวไม่ใช่เอกสารที่คัดสำเนามาจากสำนวนการพิจารณาของศาล อีกทั้งยังเป็นข้อเท็จจริง จึงไม่ถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล พร้อมทั้งออกข้อกำหนดเพิ่มเติม ไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนำข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณา ไปพูดในสื่อและรายการต่าง ๆ อีก เพื่อไม่ให้เป็นการชี้นำสังคม
ขณะที่ ทนายตั้ม บอกว่า มีขบวนการจ้องทำลาย พยายามสร้างเรื่องมาบั่นทอนให้เกิดความท้อแท้ และหมดกำลังใจในการทำคดี และเชื่อว่าจะมีเรื่องอื่น ๆ ตามมาอีก แต่ขอให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรทำให้หวั่นไหว หรือเลิกทำคดี และจะต่อสู้เพื่อให้ หมวดจรูญ ได้รับความยุติธรรม ซึ่งหมวดจรูญเองก็ยืนยันว่า ทนายตั้มไม่เคยเรียกร้องเงินค่าว่าความทำคดี ที่ผ่านมายังไม่เคยพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว
โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์
เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด
