โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ลูกรองผู้กำกับ" ค้าปืน แบบไทยประดิษฐ์ 2 ปีนับ 100 กระบอก ผลิตจากอุทัยธานี

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 11 ธ.ค. 2562 เวลา 00.49 น. • เผยแพร่ 10 ธ.ค. 2562 เวลา 22.17 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ตำรวจ 191 ล่าขบวนการค้าปืนเถื่อนในโซเชียล วางแผนยาว 6 เดือนล่อซื้อปืนจากผู้ค้ามาแล้ว 8 กระบอก จนเชื่อสนิทใจถึงขนาดขี่รถ จยย.มาส่งเองถูกล็อกตัว พร้อมปืนสั้นไทยประดิษฐ์ .38 ของกลาง สอบเค้น พบเป็นลูกชายของ พ.ต.ท.หญิง ระดับรองผู้กำกับหน่วยงานหนึ่ง รับซื้อปืนมาจากในโซเชียลเช่นกัน ราคา 3,500 บาท มาขาย 5,500 บาท ทำมาแล้ว 2 ปี ปล่อยของไปแล้วกว่า 100 กระบอก ชุดสืบสวนเชื่อปืนมาจากแหล่งผลิตดังใน จ.อุทัยธานี เตรียมขยายผลทลายเครือข่ายแล้ว

ที่ห้องประชุมชั้น 1 อาคาร 4 ชั้น กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ธ.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ฤทธิเดช อนันตโสภณ และ พ.ต.ท.จามร ทองพรรณ รอง ผกก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ร่วมกันแถลงจับกุมคดีที่น่าสนใจ 3 คดี ผู้ต้องหา 3 คน ของกลางยาไอซ์ 64 กก. ยาบ้า 42 เม็ด ปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 10 กระบอก ปืนปากกา 1 กระบอก กระสุนปืน .22 จำนวน 9 นัด ถังสเตนเลสสำหรับทดลองยิง 1 ใบ รถยนต์ 1 คัน และรถ จยย.อีก 1 คัน

คดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 จับกุมนายสุรัติ เสี่ยงตรง อายุ 28 ปี พร้อมของกลางปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 9 กระบอก ถังสเตนเลสสําหรับทดลองยิง 1 ใบ และรถ จยย. 1 คัน จับกุมบริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์สถานีขนส่งหมอชิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ.ติดตามการซื้อขายอาวุธปืนผ่านโซเชียลมีเดีย จนทราบว่ามีผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อสุรัติ (ทราบชื่อภายหลัง) มีพฤติกรรมจำหน่ายปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ใช้กับกระสุนปืนขนาดต่างๆทั้ง .38 และลูกซอง วิธีการสั่งซื้อให้ผู้ต้องการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารและแจ้งใบเสร็จการโอนเงิน แล้วจะนำอาวุธปืนตามที่ตกลงไปส่งให้ตามสถานที่นัดหมาย ก่อนหน้านี้ชุดจับกุมวางแผนสั่งซื้อปืนมานานกว่า 6 เดือนแล้วรวมทั้งหมด 8 กระบอก ก่อนจับกุมติดต่อสั่งซื้อปืนไทยประดิษฐ์ .38 จากนายสุรัติอีก 1 กระบอก นัดหมายส่งของที่ สถานีขนส่งหมอชิต เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 8 ธ.ค.

ถึงเวลานัดหมายนายสุรัติขี่รถ จยย.ฮอนด้า ฟอร์ซ่า สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามายังลานจอดรถ จยย.ภายในสถานีขนส่งหมอชิต หยิบถุงใส่อาวุธปืนจากใต้เบาะรถ จยย.ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำพรางเป็นลูกค้า ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุมได้พร้อมของกลางปืนไทยประดิษฐ์ .38 นำตัวมาสอบสวนที่ บก.สปพ. นายสุรัติรับสารภาพว่า ซื้อปืนจากกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆราคากระบอกละ 3,500 บาท นำมาขายให้ลูกค้าวัยรุ่นในกลุ่มไลน์ราคากระบอกละ 5,500 บาท ขายมานานกว่า 2 ปี ประมาณ 100 กระบอกแล้ว และยังรับอีกว่าที่บ้านในซอยวิภาวดี 27 มีถังทดสอบยิงอยู่ เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบพบของกลางดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนขยายผล

สำหรับปืนไทยประดิษฐ์ที่จับได้ครั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้สมัยก่อนเป็นปืนที่มีฐานการผลิตอยู่ใน จ.อุทัยธานี แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่เลิกผลิตไปแล้ว แต่ยังคงมีการลักลอบผลิตอยู่บ้าง ผู้ค้ากลุ่มนี้จะติดต่อซื้อมาขายอีกทอด ส่วนใหญ่ใช้วิธีส่งไปรษณีย์เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ ล่าสุดการจับกุมเพิ่มอีก 1 กระบอก ขณะลักลอบส่งทางไปรษณีย์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นปืนแบบเดียวกับที่จับได้ 9 กระบอกคดีนี้ คาดว่าผลิตมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน อยู่ระหว่างการขยายผลไปยังผู้ส่งและผู้ผลิต

เบื้องต้นแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหาพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ข้อหามีหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสําหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินคดี มีรายงานด้วยว่า นายสุรัติ ผู้ต้องหารายนี้เป็นบุตรชายของนายตำรวจหญิงระดับรอง ผกก. จากการตรวจค้นบ้านพบปืนอีกจำนวนหนึ่ง แต่ตรวจสอบแล้วเป็นปืนที่ครอบครองถูกต้อง

คดีที่สองเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บชน. จับกุมนายชัยณรงค์ หรือกุ๊ก อินทะ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 64 กก. รถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีเทา หมายเลขทะเบียน 8 กด 3753 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมพร้อมของกลางที่ชุมชนซอยเสนานิเวศน์ซอย 120/3 ถนนเสนานิคม 1 แขวงและเขตลาดพร้าว เมื่อเวลา 05.10 น. วันที่ 8 ธ.ค. คดีนี้ขยายผลมาจากการจับกุมวัยรุ่น 5 คนลักลอบขนยาเสพติดบริเวณถนนอิสรภาพ ของกลางยาไอซ์ 11.5 กก. และยาบ้า 1.5 แสนเม็ด เมื่อ 20 พ.ย. เนื่องจากวิธีการขนส่งยาคล้ายกัน ทําให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีต่อไป

คดีสุดท้าย เจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 จับกุมนายวันชิด มูปากาส อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 4 ถุงเล็ก น้ำหนัก 2.9 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 ถุง รวม 42 เม็ด ปืนปากกา 1 กระบอก และกระสุน .22 จำนวน 9 นัด จับกุมได้หน้าเอ็มเอสแมนชั่น ซอยอนามัย ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจงานสายตรวจ 3 รับแจ้งจากสายลับผ่านเพจ “นักสืบพระนคร” ว่า มีชายชื่อเล่นว่า นายมืด ลักษณะรูปร่างผอม ผิวดําแดง มีพฤติการณ์นํายาเสพติดมาจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่ อ.คลองหลวง และพกอาวุธปืนติดตัวเป็นประจำ ส่งชุดสืบสวนไปจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดี

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0