เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 21ก.ย.ุ62 ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬ ได้รับการเปิดเผยจาก นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวจังหวัดบึงกาฬ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10(อุดรธานี) ว่าหลังจากได้ทำการปล่อยลูกช้างป่าชบาแก้วเข้าโขลงไปเมื่อ 2 วันที่แล้วนั้น ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อติดตามดูความเคลื่อนไหวของโขลงช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ซึ่งคาดว่าเป็นโขลงช้างที่มีแม่ช้าง”ชบาแก้ว”อยู่ในนั้นด้วย แต่หลังจากเวลาผ่านไป 2 วันเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนได้ไปพบ”ชบาแก้ว”เดินหากินอยู่ตัวเดียวที่บริเวณป่าห้วยกินยา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ทำคอกชั่วคราวเอาไว้บริเวณให้อาหารเสริมช้างในวัดถ้ำพระระยะทางตรงประมาณ 1.37 กิโลเมตร ในสภาพที่แข็งแรงดี ไม่มีบาดแผล แต่ก็ผอมลงเล็กน้อยเพราะไม่ได้กินนม ซึ่งปกติจะให้กินนมผงผสมน้ำวันละ 3-5 ลิตร แล้วแต่วันไหนหิวน้อยหรือมาก หรือวันไหนพาออกฝึกหัดเดินตามป่ามากก็กินนมมาก
นายทวีป กล่าวต่อไปว่า หลังจากพบตัวลูกช้าง”ชบาแก้ว” จึงได้นำกลับมายังคอกช้างป่าชั่วคราวที่หน่วยพิทักษ์ป่าถ้ำพระ ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ ตรวจสุขภาพทั่วไปพบว่าสุขภาพยังดี จึงได้นำขึ้นรถกลับไปยังสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวบ้านขามเปี้ย ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อความสะดวกในการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด เดิมทีได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาไว้เพื่อการอนุบาลเตรียมความพร้อมเพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเพียงวันที่ 30 กันยายนนี้ จึงจะต้องขออนุญาตขยายเวลาออกไปอีกถึงวันที่ 31 ตุลาคม เพื่อฝึกร่างกายให้”ชบาแก้ว”ได้แข็งแกร่งมากกว่านี้อีก
ส่วนสาเหตุที่ช้างน้อย”ชบาแก้ว”ถูกทิ้งระหว่างทางคาดว่า จะเดินตามฝูงไม่ทัน เพราะช้างน้อยที่เกิดและโตมากับโขลงตามธรรมชาติจะแข็งแกร่งอึดอดทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าชบาแก้ว ดังนั้น จึงต้องขอเวลาเตรียมความพร้อมเพื่อฝึกให้ชบาแก้วได้เดินป่า ลงห้วย หรือขึ้นเขาได้ดีกว่าที่ผ่านมาเสียก่อน จึงจะได้วางแผนปรึกษาหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อปล่อยคืนสู่โขลงให้หากินเองตามธรรมชาติต่อไป
ขอบคุณภาพจาก//ดร.สุชาติ โภชฌงค์ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จังหวัดบึงกาฬ
