วันที่ 16 ต.ค. 62 กรณีตำรวจ สภ.เสลภูมิ รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตภายในอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ที่บ้านดงกลาง ต.เกาะแก้ว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านขายของชำริมถนน ภายในห้องครัวชั้นล่าง พบร่างนายสมบัติ ราณีเวช อายุ 77 ปี ถูกแทงด้วยของมีคม มีผ้าห่มนวมคลุมร่างไว้ 2 ผืน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ชั่วโมงก่อนเจ้าหน้าที่พบศพ
ล่าสุดนายปัญญาวุฒิ ราณีเวช หรือ โต อายุ 52 ปี ลูกชายของผู้ตาย เปิดใจว่า ในวันที่ 12 ต.ค. ญาติ ๆ ยังคงติดต่อกับพ่อได้ปกติ ซึ่งพ่ออาศัยอยู่ที่ร้านขายของชำ ไม่ได้เดินทางกลับที่บ้านใน จ.ยโสธร จากนั้น ก็ไม่ได้มีการติดต่อกับพ่อระหว่างวันที่ 13-14 ต.ค. จนกระทั่งเช้าของวันที่ 15 ต.ค. แม่ได้โทรหาแต่ไม่มีคนรับสาย จึงได้ให้เพื่อนบ้านไปเคาะประตู แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับ จนกระทั่งแม่ตัดสินใจเดินทางมาจาก จ.ยโสธร เพื่อมาดูด้วยตนเอง เมื่อมาถึงก็ยังพบว่าประตูล็อกไว้ เปิดไม่ได้ จึงได้ไปขอปีนระเบียงหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน เมื่อเข้ามาถึงภายในบ้านก็พบว่าพ่อนอนเสียชีวิต ส่งกลิ่นเหม็นทั่วบ้าน ซึ่งสภาพขึ้นอืดแล้ว มีบาดแผลถูกแทงข้างละ 3 แผล และบริเวณคออีก 2 แผล แต่ตนเองไม่แน่ใจว่าอาวุธที่ใช้คืออะไร สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเป็นกรรไกรตัดผ้าที่วางอยู่ภายในบ้าน เพราะมีลักษณะถูกใช้งาน
ทั้งนี้ ทรัพย์สินภายในบ้านไม่ได้ถูกรื้อค้นหรือสูญหาย มีเพียงเงินสดในลิ้นชัก 2-3 หมื่นบาทที่หายไป แต่ตนตั้งข้อสังเกตว่าคนร้ายจะต้องทราบความเคลื่อนไหวภายใน และเป็นคนที่พ่อรู้จัก เนื่องจากคนร้ายรู้ว่าในวันดังกล่าวพ่ออยู่อาศัยเพียงคนเดียว โดยวันนี้ความรู้สึกของครอบครัวค่อนข้างช็อก พูดไม่ออก พฤติกรรมคนร้ายโหดเหี้ยมมา
ส่วนความคืบหน้าทางคดี วันนี้ตำรวจได้ลงพื้นที่ค้นหาเบาะแสเชื่อมโยงตัวคนร้าย โดยพบกล้องวงจรปิดในพื้นที่เห็นพฤติกรรมชายต้องสงสัยไม่สวมใส่เสื้อ เดินผ่านรั้วหลังบ้าน จึงเชื่อว่าอาจเป็นคนร้าย เพราะมีการถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดออก โดยแนวทางการสืบสวนยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่เร่งค้นหาเบาะแสเพิ่มเติม และเชื่อว่าคนก่อเหตุคือคนใกล้ตัว เพราะคนร้ายลงมือก่อเหตุแบบใจเย็น หลังจากแทงเสียชีวิตแล้วยังมีพฤติกรรมหยิบผ้านวม 2 ผืน มาคลุมให้กับศพ โดยวันนี้ตำรวจได้เรียกสอบบุคคลต้องสงสัยทั้งหมด แต่ยังไม่ฟันธงว่าเป็นใคร เพราะต้องรอหลักฐานและผลชันสูตรศพจากนิติเวชมาประกอบ
นอกจากนี้ พฤติกรรมคนร้ายหลังก่อเหตุแล้วยังได้เปิดตู้เย็นหลังบ้านที่มีเบียร์แช่ไว้อยู่เอาออกมาดื่มอยู่ข้างศพแบบใจเย็น และทิ้งกระป๋องเอาไว้ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ตำรวจเก็บไปตรวจสอบลายนิ้วมือแล้ว โดยญาติให้การว่าผู้ตายไม่ใช่คนดื่ม จึงไม่ใช่ของผู้ตายแน่นอน
https://youtu.be/Vj2yereZDkM