ลูกกตัญญู ดูแลแม่ป่วยติดเตียง จนตัวเองเป็นอัมพฤกษ์ ลำบากไม่มีคนดูแลแม่

วันที่ 5 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเทียนชัย มานันชัย อายุ 54 ปี ผู้ประสานงานคณะกรรมการกองทุนโลงศพวัดนาไม้แดง ว่ามีเพื่อนบ้านป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เส้นในสมองตีบ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ นอนพักรักษาตัวอยู่บ้านโดยมีหลานสาวเป็นคนดูแลคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ ทางกองทุนฯได้เข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ยังไม่เพียงพอ จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

จากนั้นผู้วื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับ นายสมคิด นันทะวิชัย อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย นางศรีมอย บุญยืน อายุ 71 ปี ที่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 2 บ้านสบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งก็ได้รับเปิดเผยว่า นางศรีมอย เป็นพี่สาวคนโต อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 2 บ้านสบปราบ ต.สบปราบ อ.สบปราบ จ.ลำปาง เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ แต่เดิมปกติ นายศรีมอย ต้องเป็นคนที่คอยดูแลแม่ชื่อ นางน้อย นันทะวิชัย อายุ 90 ปี ที่ป่วยเป็นโรคชราและเส้นเลือดในสมองตีบเป็นอัมพาต นอนเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองมาเป็นเวลากว่า 2 ปี โดยมีบ้านอยู่ห่างกันเพียง 50 เมตร ต้องเทียวไปเทียวมาดูแล โดย นางศรีมอย ในฐานะเป็นลูกสาวคนโต ต้องคอยดูแลช่วยเหลือแม่ตลอดเวลา ทั้งต้มข้าวต้มอาหารเหลวป้อนข้าวป้อนน้ำทางสายยางและอาบน้ำแต่งตัวให้แม่ จนไม่มีเวลาพักผ่อน

จนเมื่อเดือน ธ.ค.62 ขณะตื่นเช้าขึ้นมาลุกจากที่นอนจะเดินเข้าห้องน้ำ เกิดอาการวูบและล้มลงที่บ้าน ลูกหลานที่อยู่ด้วยเห็นจึงเข้าช่วยพยุง และเรียกเพื่อนบ้านช่วยนำส่ง รพ.สบปราบ หมอตรวจพบว่า เป็นเพราะการพักผ่อนน้อยและเส้นเลือดในสมองตีบ จนทำให้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ต้องนอนพักรักษาตัวที่ รพ.สบปราบ เป็นเวลากว่า 2 เดือน ก่อนที่จะออกจาก รพ. มารักษาฟื้นฟูอาการและทำกายภาพที่บ้านกว่า 6 มาแล้ว ทำให้แม่ที่ป่วยเป็นอัมพาตไม่มีใครดูแล เนื่องจาก นางศรีมอย ก็ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไปอีกคน

นายสมคิด กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนต้องมาดูแลแม่และ นางศรีมอย โดยมีหลานสาว มาช่วยดูแล ทุกคนก็ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ซึ่งเดิม นางศรีมอย ทำงานรับจ้างทั่วไป ต่อมาสามีเสียชีวิตมาแล้วกว่า 20 ปี มีลูกสาว 2 คน ลูกชาย 1 คน ทำงานต่างจังหวัด ต่างคนต่างหางานทำรับจ้างทำงานทั่วไปเลี้ยงครอบครัวเนื่องจากครอบครัวยากจน และตนในฐานะน้องชาย ก็ต้องมาดูแลแม่ที่ป่วยเป็นอัมพาต และพี่สาวป่วยเป็นอัมพฤกษ์ทั้งคู่ พาไปหาหมอก็ลำบาก เนื่องจากเดินไม่ได้เพราะไม่มีรถเข็นหรือวิลแชร์ ทำให้มีชีวิตอยู่แบบลำบาก ต้องอาศัยเบี้ยยังชีพคนชรา เดือนละ 800 บาท บัตรสวัสดิการฯ คนละ 300 บาท รวม 2 คน 2,200 บาท

แต่ต้องมีรายจ่ายเยอะ เฉพาะค่าน้ำประปา เดือนละ 400 บาท ก็หมดแล้ว ยังมีค่าอาหารเหลว นม แพมเพิร์ส ค่ารถไป รพ.และค่าอื่น ๆ ก็ไม่พอ ค่าไฟฟ้าเดือนละ 2,000 บาท เนื่องจากแม่ต้องนอนเตียงลม ต้องเปิดปั๊มลมตลอดเวลาและบางครั้งก็ต้องให้ออกซิเจนด้วย รวมทั้งอาหารการกินก็หากินตามมีตามเกิด เนื่องจากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ขยับเขยื้อนตัวเองไม่ได้ ต้องคอยดูแลตลอดเวลา ส่วนนางศรีมอย ก็มีหลานมาช่วยดูแทน ป้อนข้าวป้อนน้ำ อาบน้ำเช็ดตัว ล้างแผลกดทับ

ด้าน พระปลัดทนงค์ศักดิ์ ปัญญาพหุโล เจ้าอาวาสวัดนาไม้แดง และประธานกองทุนโลงศพวัดนาไม้แดง หมู่ 6 ต.นายาง อ.สบปราบ จ.ลำปาง กล่าวว่า ทราบเรื่องของ นางศรีมอย ที่ดูแลแม่จนตัวเองล้มป่วย ถือว่าเป็นผู้มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณจนตัวเองต้องมาป่วยพิการไปอีกคน ทางวัดนาไม้แดงและคณะกรรมการกองทุนโลงศพวัดนาไม้แดง ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงได้จัดโครงการ ปันน้ำใจช่วยเหลือวีลแชร์สู่ผู้ป่วยพิการ ผู้ป่วยติดเตียง จัดซื้อรถเข็นมอบให้ สำหรับของวีลแชร์ของ นางศรีมอย ได้รับบริจาคจากลูกศิษย์ ชื่อนายพิเษฐ์ กรุงเกตุ นักกีฬาพาราโอลิมปิกทีมชาติไทย พร้อมด้วยโยมต่ายและผู้ใจบุญในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ทราบข่าว จึงได้นำรถเข็นมาช่วย ยังความปลาบปลื้มให้กับนางศรีมอยจนร้องไห้น้ำตาไหล

นอกจากนี้ ทางวัดนาไม้แดงและกองทุนโลงศพวัดนาไม้แดง ยังมอบข้าวสาร ไข่ไก่ แพมเพิร์สให้กับนางศรีมอยและแม่เป็นประจำทุกเดือนด้วย ซึ่งปัจจุบันทางวัดนาไม้แดงและกองทุนฯได้รับดูแลผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง โดยมากจะเป็นผู้สูงอายุมอบแพมเพิร์สให้เป็นประจำทุกเดือนในเขตพื้นที่ อ.สบปราบ จำนวน 17 ราย นอกจากนั้นยังได้จัดกิจกรรมมอบข้าวสาร ไข่ไก่ หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำ สบู่ ยาสีฟัน นมกล่อง จากผู้ใจบุญที่บริจาคนำไปแจกจ่ายให้ผู้ป่วยดังกล่าวเป็นประจำทุกเดือนด้วย โดยล่าสุดมีผู้ขอรับและบริจาค รถวีลแชร์มาแล้ว 2 ราย ที่ อ.แม่ทะ จ.และ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางวัดนาไม้แดงและคณะกรรมการกองทุนฯจะได้นำไปมอบให้ผู้ป่วยต่อไป

ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือ นางศรีมอย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร.093-5619778