ลุ้น!! เงินบาทแข็งค่าทำสถิติใหม่

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า มีโอกาส 45% ที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าทำสถิติใหม่ แข็งค่าหลุด 31 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากประเทศไทยยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูง บวกกับยังเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้มีเม็ดเงินท่องเที่ยวจากต่างชาติมาเที่ยวไทยต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายจะไหลออกจากสหรัฐกลับมาลงทุนในไทย รวมทั้งตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2562 จนถึงปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าสุดในอาเซียน โดยแข็งค่าขึ้น 4.6% เงินหยวน จีน แข็งค่า 2.6% เงินรูเปียะห์ อินโดนีเซีย แข็งค่า 2.4% เงินริงกิต มาเลเซีย แข็งค่า 1.6% เงินเปโซ ฟิลิปปินส์ แข็งค่า 1.1% และเงินดอลลาร์สิงคโปร์ แข็งค่า 0.8%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางไตรมาส 2/2562 เงินบาทมีโอกาสกลับมาอ่อนค่า เนื่องจากเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นด้านท่องเที่ยว บวกกับเป็นช่วงการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะมีการจ่ายเงินปันผลให้บริษัทแม่ที่อยู่ต่างประเทศ ทำให้มีเงินทุนไหลออก ซึ่งคาดว่าบาทจะอ่อนค่าลงประมาณ 5 – 10% โดยธนาคารกสิกรไทยยังคงเป้าหมายเงินบาทปลายปีนี้ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเงินบาทจะกลับมาอ่อนค่า เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐจะกลับมาแข็งค่าจากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ – จีน ที่น่าจะมีทางออกที่ดี ขณะที่สถานการณ์การแยกตัวออกจากยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) น่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) ให้ชะลอตัวลงอีก ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐจะกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุน

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยยังคงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปีนี้โต 4% การส่งออกโต 4.5% แม้ว่าขณะนี้การส่งออกของไทยจะเริ่มได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ความสามารถด้านการแข่งขันของไทยลดลง โดยสัดส่วนการส่งออกไทยในตลาดโลกเริ่มปรับลงเล็กน้อยจาก 1.54% มาอยู่ที่ 1.50% ประกอบกับจะรอความชัดเจนเรื่องสงครามการค้า Brexit และ สถานการณ์การเมืองไทยหลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ว่ารัฐบาลใหม่จะเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ การลงทุน รวมทั้งเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อย่างไร คาดว่าจะปรับประมาณการณ์ใหม่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้