วันนี้ (11 ธ.ค.2562) มีรายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจมีมติเกี่ยวกับคดีเงินกู้ 191 ล้านบาท ของพรรคอนาคตใหม่ หลังจาก กกต.ไม่อนุญาตให้พรรคอนาคตใหม่ขยายเวลาการยื่นเอกสารชี้แจงคดีดังกล่าว
คดีเงินกู้ 191 ล้านบาท เริ่มต้นจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยระหว่างการบรรยาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ว่าให้พรรคยืมเงิน 110 ล้านบาท ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เผยว่าพรรคได้ทำสัญญากู้เงินจากนายธนาธรจริง 250 ล้านบาท
ส่วน ป.ป.ช. ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯ นักการเมือง พบว่า นายธนาธร ปล่อยกู้ให้พรรค 2 ครั้ง
ครั้งที่ 1 จำนวน 161.2 ล้านบาท ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี
ครั้งที่ 2 จำนวน 30 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2 % ต่อปี
รวมเป็นจำนวนเงิน 191 ล้านบาท
ต่อมา นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นร้องต่อ กกต. เพื่อพิจารณาคดีดังกล่าว โดยอ้าง มาตรา 62 พ.ร.ป.พรรคการเมือง "ไม่มีข้อความระบุว่าพรรคสามารถกู้ยืมเงินได้"
ซึ่งมีความผิดตาม มาตรา 66 วรรค 2 และมาตรา 125 พ.ร.ป.พรรคการเมือง มีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี และให้เงินส่วนที่เกิน 10 ล้านบาทตอเป็นของกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทิศทางการพิจารณามี 2 ประเด็น โดยเฉพาะดุลยพินิจของ กกต. ที่มีต่อ "เงินกู้" 191 ล้านบาท ซึ่งหากเห็นว่าไม่สามารถกู้ยืมได้ จะมีความผิดกฎหมายดังนี้
1. มาตรา 66 พ.ร.ป.พรรคการเมือง กรณี บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคเกินกว่า 10 ล้านบาท มีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิ 5 โดยเงินส่วนที่เกิน 10 ล้านบาท ต้องตกเป็นของกองทุนพัฒนาการเมือง
2. มาตรา 62 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ถ้า กกต.มองว่าเป็น "เงินที่ได้มาโดยมิชอบ" ซึ่งอาจเข้าข่ายนิติกรรมอำพราง โดย กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคได้
