ลุยงานจนชิน "ตุ้ย"ไร้แพลนฉลองวันเกิด"แอนนา"

ทำเอาหลายคนรอลุ้นภาพโรแมนติกครอบครัวของพระเอกหนุ่ม"ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุล" ที่ใกล้ถึงวันสำคัญของ"แอนนา-นาตาชา สัจจกุล" ในวันเกิดภรรยา 29 ก.พ. ที่จะถึงนี้ งานนี้พอเจอหนุ่มตุุ้ยเลยสอบถามถึงเรื่องนี้ได้ความว่า

ปกติไม่ได้ฉลองอะไรครับ ปีนี้ไม่มี เดี๋ยวไว้รออีก3 ปี ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีอะไร
ให้ความสำคัญเรื่องวันเกิดมากน้อยแค่ไหน?
ก็น่าจะปกติ แต่ก็ไม่ได้เฉลิมฉลองอะไร อย่างปีนี้แพลนถูกกองละครจองไว้แล้ว ตอนนี้คิวงานค่อนข้างจะแน่นมากถึงเดือนหน้า แต่ของเดือนหน้าน่าจะหนักกว่า เรื่องนี้ก็ถ่ายไปเยอะแล้วเหมือนกันนะ แล้วก็จะมีเรื่องศรีอโยธยาอีกเรื่องหนึ่ง คิวงานก็แน่นอยู่ เรื่องนี้ยังดีที่อยู่กรุงเทพ แต่ศรีอโยธยาอยู่ต่างจังหวัด
ทางบ้านเข้าใจใช่ไหม?
ก็เป็นแบบนี้มานาน คงจะชินแล้ว (ยิ้ม)
ตอนนี้กลับมารับงานเยอะขึ้น?
ถ้าเป็นงานละครวงจรชีวิตก็จะเป็นแบบนี้แหละครับ

ลูกกำลังโตแบบนี้เรากลัวเขาน้อยใจไหม?
คือทุกอย่างค่อนข้างเป็นธรรมชาติ เราก็ทำงานของเราเต็มที่ เราก็เชื่อว่าเขาน่าจะซึมซับวิธีการคิด วิธีการทำงานได้
แต่วันสำคัญเราก็อยู่กับครอบครัวตลอดใช่ไหม?
คือวันสำคัญมันก็ผ่านมาเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่เราเจอกันก็ให้เป็นเวลาของครอบครัวมากที่สุดครับ
เห็นช่วงหลังพาลูกชายไปตีแบทบ่อยมาก?
นั่นน่ะสิ มันมีตั้งแต่ ตีแบท ว่ายน้ำ ตีเทนนิส คือผมสงสัยทำไมลูกผมไม่ชอบฟุตบอล อยากจะบอกว่าทั้งยัดเยียดให้เขาลองเล่นลองเตะ แต่เขาไม่เอาเลย คือผมเชื่อว่าถ้าเขาชอบอะไรเขาต้องอยากจะรู้อยากจะพัฒนาและฝึกฝน ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราค่อยๆ สังเกตไป เราก็ไม่อยากบังคับถ้าเขาไม่ชอบ ถ้าเขาชอบก็ต้องบังคับ เพราะการฝึกฝนเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา ถ้าเขาไม่ชอบ ฝึกให้ตายเดี๋ยวเขาก็เลิก

มีแววกีฬามาเต็มเลยใช่ไหม?
ถ้าถามเรื่องกีฬา ไตตันจะว่ายน้ำเยอะที่สุด ถ้าเป็นดนตรีก็จะเล่นเปียโน คือตอนนี้เป็นพื้นฐาน การว่ายน้ำก็จะทำให้สูงขึ้น แข็งแรงขึ้น ส่วนเปียโนก็เป็นพื้นฐานทางด้านดนตรี วันหนึ่งถ้าเขาไม่อยากเล่นเปียโนไปเล่นอย่างอื่น มันก็จะต่อยอดได้ง่ายกว่า
คือมีแววเป็นศิลปินแบบคุณพ่อมากกว่าใช่ไหม?
ก็แล้วแต่เขาเลย จะเป็นศิลปินหรือไม่มันขึ้นกับความชอบของเขาความรักของเขา มันคือชีวิตเขา ส่วนงานในวงการยังตอบไม่ได้เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเขาชอบการแสดงหรือเปล่า ตอนนี้ลองให้กินข้าวให้เร็วขึ้นยังทำไม่ได้เลย แล้วใครจะไปบังคับเขาได้ (หัวเราะ)
จะมีส่งลูกไปเรียนต่างประเทศไหม?
อันนี้ก็ตอบไม่ได้ เพราะการไปเรียนต่างประเทศ หนึ่งคือเรื่องภาษา สองคือประสบการณ์ชีวิต ตอนนี้เราก็ค่อยๆ สังเกตุไปก่อน เพราะว่าในที่สุดเขาก็ต้องเรียนรู้จากการเติบโตของตัวเขาเอง จากจริต วิธีคิดและความชอบ ก็ต้องค่อยๆ ดูกันไป ถามว่าเป็นไปได้ไหมก็เป็นไปได้หมด แต่คงต้องดูลูกตัวเองก่อนว่าจะไปทรงไหน เขาพร้อมแค่ไหน วิธีการใช้ความคิดของเขาเป็นอย่างไร เขาสนใจอะไรมากกว่า ถ้ารู้ว่าเขาชอบอะไรแล้วจะง่ายกว่าตอนนี้ยังไม่รู้อะไร ก็ต้องถอดรหัสกันต่อไป