โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ลุงพลท้อทำดีไร้ค่าขอย้ายพ้นหมู่บ้าน-ทดสอบถ้าอุ้มเด็กถึงจุดนัดพบช้ากว่านี้ (คลิป)

Amarin TV

เผยแพร่ 12 ก.ค. 2563 เวลา 17.37 น.
ลุงพลท้อทำดีไร้ค่าขอย้ายพ้นหมู่บ้าน-ทดสอบถ้าอุ้มเด็กถึงจุดนัดพบช้ากว่านี้ (คลิป)
ทดสอบเส้นทางรับพระ ลุงพลตอบข้อสงสัยใหม่เอาศพซ้อนวัดภูหลวง ยันทำไม่ได้แม่ชมพู่ต้องเห็น พ้อทำดีไม่ได้ดี จะขอย้ายไปอยู่หมู่บ้านอื่น

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.63 นายไชย์พล วิภา ลุงน้องชมพู่ กล่าวว่า ขณะนี้ตนไม่เครียดอะไร เขาสงสัยอะไรตนก็ทำให้หมดแล้ว ตนปลงมาตั้งแต่ที่โกนหัว ตอนนี้มั่นใจมากขึ้นว่าจะไม่ถูกออกหมายจับ มันมีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าหมายจับจะไม่ออกที่ตน

คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่ 

จากที่ก่อนหน้านี้กังวลเรื่องดีเอ็นเอในรถกระบะ และเอากระเป๋าที่ตนสะพายขึ้นเขาไป ทำให้ตนกังวล หากมีการนำดีเอ็นเอดังกล่าวมาเทียบเคียง มันต้องมีดีเอ็นเอตนแน่นอน เป็นใครก็ต้องตกใจ ทำให้ตนต้องระแวง

ส่วนที่อยากบวชตลอดชีวิต ตนคิดว่าสังคมนี้ไม่หน้าอยู่ ซึ่งตนยังมีห่วง คือ ครอบครัว ตนเชื่อว่าพ่อคงไม่ห้าม หากตนจะย้ายหนีไปจากหมู่บ้านนี้ ตนทำเรื่องดี ๆ แต่ห่วงแค่ว่าลูกกับภรรยาจะอยู่อย่างไร ใครจะดูแล หากมีคนดูแลตนก็อยากบวชตลอดชีวิต เพราะคนเรา "ทำดีไม่ได้ดี ลิขิตชีวิตตนคงต้องไปทางนี้ (บวช)"

ส่วนที่พ่อแม่มาเมื่อวาน พ่อแม่อยากให้ตนกลับไปอยู่บ้านเกิด เพราะเห็นตนทำดีมาตลอด แต่กลับถูกมาสงสัย ไม่รู้ความดีที่ทำมันหายไปไหน ตนก็บอกว่ากลับยังไม่ได้ เพราะตนไม่ใช่คนหนีปัญหา หากตนยอมไปกับแม่ตั้งแต่เมื่อวาน ตนคงต้องถูกจับ เพราะตนไม่จัดการปัญหาให้เสร็จ ตำรวจคงมองว่าตนมีพิรุธ

ตอนนี้มีแนวคิดว่าหากจบคดีนี้ ตนอาจจะย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งคุยกับป้าแต๋นแล้ว แต่ต้องให้ป้าแต๋นทำใจเสียก่อน เนื่องจากครอบครัวที่ป้าแต๋นรักอยู่ที่นี่ ตอนนี้ยัง 50:50 ที่ตนอยากย้าย เพราะตนทำดีไม่ได้ดี เปรียบเหมือน“คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก”

ทีมข่าวเดินทางทดสอบในป่ายางตรงข้ามบ้านลุงพล ซึ่งลองทดสอบเดินจากป่ายาง ไปยังบ้านน้องชมพู่ ทีมข่าวถ่ายทำแบบ Long take ไม่มีการหยุดบันทึก และทีมข่าวใช้วิธีเดินตัดป่ามัน ของชาวบ้าน จนกระทั่งไปทะลุสวนมันของนางขวัญใจ จากนั้นเดินขึ้นมาที่เส้นทางจุดที่เจอรอยรองเท้าตามคำให้การของยายจำลอง

ระหว่างทางไม่พบอุปสรรคอะไร สามารถเดินได้ตามปกติ จากนั้นทีมข่าวก็เดินตามทาง จนกระทั่งไปทะลุที่ตรงข้ามบ้านน้องชมพู่ และออกไปที่หน้าบ้านน้าจุไรภรณ์ จุดสุดท้ายที่ชมพู่หายตัว ทั้งหมดใช้เวลา 6 นาที 43 วินาที ระยะทาง 350 เมตร

ทีมข่าวยังทดสอบอุ้มกระสอบหนัก 12 กิโลกรัม หากอุ้มน้องชมพู่จากเส้นทางป่ายางพารา ไปทางสวนมันสำปะหลัง จากนั้นเดินเลาะมาทางบ้านลุงพล จะสามารถทำได้หรือไม่ ทีมข่าวเริ่มเดินจากหน้าบ้านน้าจุไรภรณ์ จากนั้นได้เดินเลาะป่ามันสำปะหลัง ซึ่งสภาพรกกว่าวันที่เกิดเหตุ และจะมีเสียงหมาเห่าจากบ้านพ่อแบม ไล่เห่าอยู่นาน จนพ่อแบมเดินออกมาดู

แต่หากเดินไปได้โดยไม่มีคนเห็นจริง ก็จะสามารถทะลุออกเส้นทางนี้ จนออกไปฝั่งตรงข้ามบ้านลุงพลได้ รวมใช้เวลา 8.48 นาที

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ทดสอบการขับรถมาจากบ้านลุงพล ด้วยความเร็วที่สามารทำได้สูงสุด ซึ่งช่วงถนนในหมู่บ้าน ขับมาได้ ราว 50 กม./ชม.

จากนั้นเลี้ยวเข้าซุ้มวัด ก่อนจะขึ้นไปที่วัด เส้นทางเดียวกับไปกับลุงพล โดยเมื่อเข้ามาในวัด ใช้ความเร็วได้ราว 20 กม./ชม. เนื่องจากถนนเริ่มเป็นทางลูกรัง โดยใช้เวลารวม 4.34 น. ทีมข่าวไม่ได้จอดแวะทักทายคนตามที่ลุงให้การ

อย่างไรก็ตาม สมมติฐานนักข่าวอุ้มเด็ก สรุปได้ดังนี้ หากเดินตัวเปล่าจากบ้านนายไชย์พลไปที่บ้านน้องชมพู่ จะใช้เวลา 6.43 นาที และหากเดินแบกกระสอบ 12 กก. จะใช้เวลา 8.48 นาที และหากขับรถไปวัดภูผาแอก จะใช้เวลา 4.34 นาที รวมเวลา 20.05 นาที

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0