เมืองไทย 360 องศา
เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกรำคาญไม่น้อยเวลาได้เห็นหรือได้ยิน "ลุงป้อม"ตอบว่า"ไม่รู้" หรือยังไม่มีใครมาทาบทามเลย รวมไปถึงบอกว่ายังไม่รู้ว่าเขาจะเชิญหรือเปล่า หลังจากถูกรุมเร้าตั้งคำถามจากบรรดานักข่าวถึงเรื่องการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่หรือไม่โดยอ้างเหตุผลว่าสุขภาพไม่แข็งแรงและอายมากแล้วอะไรประมาณนี้ เพราะในความเป็นจริงหากลองไม่ถามไถ่ ไม่สนใจจริงรับรองว่าจะต้องมีแง่งอนหรือต้องกรี๊ดกันบ้านแตกแน่
อย่างไรก็ดีอีกมุมหนึ่งก็อาจพอเข้าใจได้เนื่องจากในทางกฎหมาย เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากปัญหาบรรดา"นักร้อง"ทั้งหลายที่จ้องจะเล่นงานเสี่ยงที่จะถูกร้องเรียนในเรื่อง"ครอบงำพรรคการเมือง"จากคนนอกในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลก็ได้
เพราะหากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วในรัฐบาลใหม่ของ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่มีชื่อของ "ลุงป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ติดอยู่ในโผตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญได้อย่างไร เพราะหากไม่อยากไปต่อจริงๆ ก็ต้องเอ่ยปากพูดชัดตั้งแต่แรกแล้วว่า "อยากพักผ่อน"หรือไม่ก็บอกว่า"มีปัญหาสุขภาพ"อายุมากไม่ไหวแล้ว อะไรประมาณนี้คงไม่ใช่แบบอมพะนำอย่างที่เป็นอยู่ เพราะทุกโผที่ปูดออกมาล้วนมีชื่อ "ลุงป้อม"จองเก้าอี้ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเหมือนเดิม หรือล่าสุดมีโผใหม่เปลี่ยนแปลงเหลือแค่นั่งเก้าอี้รองนายกฯตำแหน่งเดียว โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเอง แต่ถึงอย่างไรเมื่อพิจารณาจากท่าทีและอารมณ์ของ พล.อ.ประวิตร ก็ยังเก็บงำแบบอารมณ์ดีและยืนยันคำเดิมว่าไม่รู้ แล้วแต่นายกฯ หรือยังไม่ได้เชิญ เป็นต้น ดังนั้นหากให้เดารับรองว่า "ลุงป้อม"ไปต่อแน่นอน ส่วนจะควบสองตำแหน่งเหมือนเดิมหรือไม่ต้องรอดูอีกทีหนึ่ง
ที่ต้องการันตีแบบนี้เพราะมั่นใจได้เลยว่า "ลุงตู่"ยังขาด"ลุงป้อม"ไม่ได้ ไม่ว่าสังคมจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม โดยเฉพาะบารมีในฐานะ"พี่ใหญ่"ยังมีความจำเป็นอยู่ในช่วงของสถานการณ์ที่"ไม่นิ่ง"และมีโอกาสออกได้ทุกหน้าแบบนี้ ยิ่งขาดไม่ได้ เพราะรับรู้กันดีว่างานในด้านความมั่นคง ในบรรดากองทัพ และตำรวจ ลุงป้อมได้จัดวางตำแหน่งต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง วางเคริอข่ายเอาไว้อย่างแน่นหนา หากขาด"ลุงป้อม"หรือทำให้เกิดอาการ"งอน"ขึ้นมาอาจมีรายการ"กระเพื่อม"ขึ้นมาได้ และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงมองเกมขาด
ขณะเดียวกันหากพิจารณากันด้วยกลางๆ ผลงานในด้านความมั่นคงของ "ลุงป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ถือว่าใช้ได้ หากไม่นับเอาเรื่อง"นาฬิกาเพื่อน"มากล่าวถึง ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็ยังไม่มีหลักฐานแบบเค้นให้ตายได้ เพียงแต่ว่าหากเอาความรู้สึกด้าน"มาตรฐานทางจริยธรรมมาจับแล้วมันก็ทำให้เกิดภาพติดลบ รวมไปถึงภาพลักษณ์ของเขาที่ออกมาในแบบ"สีเทา"ติดตัวมานานแกะไม่ออก ก็ยิ่งกระหน่ำซ้ำเติม แต่ถ้าถามว่ามีเรื่องทุจริตแบบจะแจ้งสำหรับลุงป้อมสักเรื่องหรือไม่ ก็ยังไม่ปรากฏออกมาให้เห็น
ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้สึกของสังคมที่พิจารณาจากบุคลิก มีเครือข่ายรอบตัวมากมาย ถูกมองภาพลักษณ์แบบ"ขาใหญ่ยุคโบราณ"เป็นหลัก
อย่างไรก็ดีหากพิจารณากันตามความเป็นจริง โดยเฉพาะในวงการย่อมรับรู้กันดีว่า "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังขาด "ลุงป้อม"ไม่ได้หรือยังต้องการพึ่งพาเครือข่ายของ"พี่ใหญ่"ไปอีกพักใหญ่ โดยเฉพาะ"คอเนกชั่น"ในทุกวงการ ทั้งทุนการเมือง และทุนใหญ่ในทางธุรกิจ ที่ต้องเข้ามาเกื้อหนุนทั้งวันนี้และในวันหน้า หากต้องการทำงานการเมืองกันยาวๆ
นอกเหนือจากนี้อีกด้านหนึ่ง การมีอยู่ของ "ลุงป้อม" ยังทำให้ "ลุงตู่"ลดแรงกระแทกลงไปได้มาก เพราะเป้าหมายแบบตำบลกระสุนจะเบนไปทางนั้น ทำให้ลอยตัวขึ้นมาได้อย่างปลอดโปร่ง
ดังนั้นหากพิจารณาจากความเป็นจริง และความจำเป็นตามสถานการณ์แล้ว "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะยังต้องมีอยู่ในรัฐบาล "ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาในด้านความมั่นคงอยู่ต่อไป ส่วนจะมาแบบนั่งควบเหมือนเดิมหรือจะเหลือแค่รองนายกฯตำแหน่งเดียวก็ตาม
เพราะนาทีนี้แม้ว่าอาจจะขัดใจบรรดา"ติ่ง"ทั้งหลายที่ขวางทางก็ตาม แต่ถึงอย่างไรมันขาดไม่ได้ ขาดแล้วเป็นเรื่องแน่ !!
