(19 ก.ย. 62) เวลาประมาณ 13.00น. ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ และครอบครัว เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสภาทนายความ เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ ทนายวรยุทธ บุญวงใส ทนายของครูปรีชา หลังทนายวรยุทธ ได้โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาคุณลุง กับภรรยา ในทางที่ไม่เหมาะสม
โดยทนายษิทรา กล่าวว่า วันนี้มาสภาทนายความ ซึ่งคุณลุงจรูญ ต้องการที่จะมายื่นหนังสือถึงท่านนายกสภาทนายความ ในเรื่องการใช้สื่อออนไลน์ การโพสต์เฟซบุ๊กของ ทนายวรยุทธ ทนายของครูปรีชา ซึ่งค่อนข้างที่จะไม่เหมาะสม เหยียดทั้งคุณลุงจรูญ และภรรยา
โดย ทนายวรยุทธ ได้โพสต์ในบัญชีเฟซบุ๊ก ตอบคอมเม้นในเชิงเหยียด คุณลุงจรูญ และคุณป้าลาวัลย์ว่าเป็น "ไอ้เบี้ยว" "อีเข" และพูดในเชิงที่ทั้ง 2 คน เป็นโจร ซึ่งทำให้สังคมเข้าใจว่า คุณลุงและคุณป้า เป็นคนไม่ดี
จุดประสงค์วันนี้ ก็เลยมายื่นหนังสือให้ทางนายกสภาทนายความตรวจสอบ และเรียกทนายวรยุทธ มาว่ากล่าวตักเตือน ว่าสิ่งที่ทนายความทำ เป็นเหมือนกับว่า ทนายเป็นตัวความเสียเอง องค์กรทนายความเป็นองค์กรที่มีเกียรติและน่าเชื่อถือ การที่มาโพสต์แบบนี้ มันสมควรหรือไม่
ด้าน คุณลุงจรูญ กล่าวว่า พอเห็นข้อความตรงนี้ ก็รู้สึกไม่สบายใจ เหมือนโดนดูถูกเหยียดหยาม ก็เลยมีการคุยกับทนายสิทธาว่า น่าจะให้ผู้ใหญ่ทางฝ่ายคุณครูปรีชาได้รับรู้บ้าง แต่ว่ากล่าวตักเตือนบ้าง
แน่นอนว่าความรู้สึกของคนที่ไม่ได้ก่อมันมีอยู่แล้ว เรื่องมันเลยเถิดมาจะ 2 ปีแล้ว
ทนายษิทรา กล่าวทิ้งท้ายว่า พรุ่งนี้ (19 ก.ย. 61) จะเดินทางไปศาลจังหวัดกาญจนบุรี จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีทนายของครูปรีชา ในคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 2 กรรม ไม่รวมกับกรรมล่าสุดวันนี้ และมีเรียกค่าเสียหายจำนวน 300,000 บาท เป็นการฟ้องดำเนินคดี กรณีที่ฝ่ายคุณครูปรีชาให้สัมภาษณ์ที่กองบังคับการปราบปราม ในทำนองว่า มีการวางแผนที่จะถอนเงินออกมา ซึ่งมันทำให้เข้าใจว่าคุณลุงจรูญ ทำผิดกฎหมาย ทั้งที่จริงแล้ว คุณลุงทำตามคำสั่งศาล
รวมถึงการที่ไปให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง ว่าการที่ คุณลุงจรูญ ไม่ให้การอะไรเลย จำอะไรไม่ได้ เป็นการกระทำของอาชญากร แม้จะบอกว่า ไม่ได้หมายถึงคดีนี้ แต่คนก็รู้ว่ากำลังพูดถึงคดีนี้อยู่ ซึ่งก็ต้องรอให้ศาลตัดสินว่า การกระทำแบบนี้มันผิดหรือไม่ผิด
