หลายคนคงเคยเรียนเรื่องพีระมิดอาหารในวิชาสุขศึกษากันมาบ้างตอนเด็ก ๆ แต่น้อยคนนักที่จะสามารถนำพีระมิดอาหารมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง ซึ่งหลักการพีระมิดไม่ได้ผิดค่ะ เพียงแค่มันยากแก่การจดจำ และในเมื่อเราเรียนเรื่องนี้กันมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว ก็ต้องเวลาที่คนรุ่นใหม่ต้องเปลี่ยนอะไร ๆ ให้ง่ายขึ้น
โชคดีที่ปัจจุบันได้นักโภชนาการรุ่นใหม่ได้มีการคิดค้นหลักการทานอาหาร รวมทั้งสัดส่วนการทานแบบที่เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการจินตนาการถึงอาหารสัก 1 จาน ครึ่งจานเป็นสัดส่วนของผักและผลไม้ ขณะที่ในส่วนที่เหลือให้คุณแบ่งเนื้อที่ให้กับอาหารประเภทโปรตีนและธัญพืชอย่างละครึ่ง เคียงคู่ด้วยผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำอีกสักแก้ว เพียงเท่านี้ก็จะได้มื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพสักมื้อแล้วค่ะ
นอกจากนี้ นักโภชนาการรุ่นใหม่ยังฝากเคล็ดลับในการทานอาหารที่บางข้ออาจฉีกกฎหลักการเก่าๆ แต่ก็รับรองว่าดีต่อสุขภาพ แถมเข้าใจได้ง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อีกด้วยค่ะ
1. แบ่งสัดส่วนให้อาหารขยะ 260 แคลอรี่
โดยรวมแล้วมนุษย์เรามีความต้องการใช้พลังงานต่อวันอยู่ที่ประมาณ 2,000 แคลอรี่ ซึ่งตามหลักการ เราควรรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น ขณะที่สัดส่วนการกินขนมเป็นศูนย์ แต่เพื่อไม่เป็นการโหดร้ายกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่จนเกินไปที่อาจต้องการพักผ่อน สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง หลักการใหม่นี้จึงอนุญาตให้คุณทานตามใจได้บ้าง แต่ต้องไม่เกิน 260 แคลอรี่ต่อวันค่ะ
2. ระวังไขมันทรานส์และน้ำตาลแฝง
กระแสต่อต้านไขมันทรานส์ซึ่งไขมันที่มีมากในอาหารประเภทเนย มาการีน และไขมันสัตว์ กำลังมาแรง เนื่องจากไขมันดังกล่าวอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เช่นเดียวกับน้ำตาลแฝงมักมีอยู่ในอาหารเกือบทุกประเภท ดังนั้น ควรเน้นการทานอาหารจากธรรมชาติที่มีการปรุงและแปรรูปน้อยที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงจากอาหารอันตรายเหล่านี้ค่ะ
3. ทานซีฟู้ดให้มากขึ้น
อาหารซีฟู้ดมักอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อหัวใจและสมองอย่างกรดโอเมก้า 3 โดยหลักการทานอาหารแบบใหม่นี้ แนะนำให้ผู้บริโภคทานอาหารทะเลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 8 ออนซ์ โดยมีการศึกษาพบว่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ค่ะ
4. ทานพืชผักสีแดงเป็นประจำ
ปกติแล้วนักโภชนาการมักแนะนำให้รับประทานผักใบเขียว แต่ปัจจุบันมีการศึกษาพบว่า ผักสีแดงอย่างมะเขือเทศหรือพริกหยวกสีแดง เป็นแหล่งอาหารสำคัญที่อุดมไปด้วย วิตามินซี , ไลโคบีน และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ โดยแนะนำให้รับประทานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ถ้วยตวง
5. กินผลไม้เป็นประจำทุกวัน
ถึงแม้จะไม่ใช่ความรู้ใหม่ แต่การตระหนักถึงความสำคัญของการรับประทานผลไม้เป็นเรื่องสำคัญ จากการสำรวจพบว่ามีผู้บริโภคเพียง 42% เท่านั้นที่รับประทานผลไม้ได้ถึง 2 ถ้วยตวงต่อวัน ซึ่งถือเป็นปริมาณขั้นต่ำที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ นอกจากนี้ การรับประทานผลไม้เป็นของว่างให้มากขึ้น จะช่วยลดพฤติกรรมการทานขนมหวานลงได้ด้วยค่ะ
6. หาโอกาสทานมังสวิรัติบ้าง
หลายคนกังวลว่าการรับประทานมังสวิรัติจะทำให้ได้สารอาหารไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะโปรตีน แต่ความจริงแล้ว โปรตีนที่ได้จากไข่ นม และถั่วต่างๆ นั้น มีสารอาหารเพียงต่อความต้องการของร่างกาย แถมการรับประทานมังสวิรัติจะทำให้เราได้ทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น พร้อมกับลดการนำเข้าไขมันจากสัตว์อีกด้วย
แม้หลักทฤษฎีของนักโภชนาการสมัยใหม่อาจไม่ใช่ความรู้ใหม่เสียทีเดียว แต่ก็มีการเพิ่มเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย พร้อมกับปรับให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น ซึ่ง UndubZapp แนะนำว่า คนรุ่นใหม่อย่างเราต้องคอยอัปเดตข่าวสารเรื่องสุขภาพอยู่เสมอ จะได้สุขภาพดีแบบไม่ตกเทรนด์ค่ะ
*กดติดตาม ADD Line @UndubZapp *
แซ่บกันต่อ…
>> อาการ “อยากอาหารบางชนิด” บอกปัญหาสุขภาพ หาใช่ตะกละไม่
>> สุขภาพดีเข้าเส้น!! 4 วิธีกินอาหาร “ตามกรุ๊ปเลือด” ลดอ้วน สาวกรุ๊ป A B AB O
---
อัปเรื่องแซ่บ ฟีดเรื่องมันส์ เม้าท์ทันเพื่อน
Facebook: @UndubZapp
Instagram: @UndubZapp