ศึกพรีเมียร์ลีกเกมที่ 6 ของฤดูกาล จ่าฝูงลิเวอร์พูล ไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ของเชลซี
การเจอกันในซีซั่นที่แล้ว ทั้งสองทีมเสมอกันไป 1-1 โดยหงส์มาได้ประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายจากลูกยิงของแดเนียล สเตอร์ริดจ์
นัดนี้หงส์แดงส่งชุดใหญ่เต็มสูบลงสนาม ขณะที่เชลซีวางแทมมี่ อับราฮัม ดาวเตะที่ยิงไปแล้ว 7 ลูก ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงตามเดิม
นาทีที่ 14 ลิเวอร์พูลขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะฟรีคิกที่หัวกะโหลกของเชลซี ก่อนโม ซาลาห์ เขี่ยบอลให้เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์วิ่งมาอัดเปรี้ยงเสียบเสาสองอย่างสวยงาม
จริงๆเชลซี น่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อแทมมี่ อับราฮัมได้จังหวะหลุดเดี่ยว แต่ยิงไปติดเซฟอาเดรียนอย่างน่าเสียดาย
รวมถึงในจังหวะต่อมาที่เซซาร์ อัซปิลิกวยต้ายิงเข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินมาดูวีเออาร์ย้อนหลัง ปรากฏว่าเมสัน เมาท์ ล้ำหน้าไปในจังหวะก่อนหน้านี้ จึงปฏิเสธการให้ประตู
นาทีที่ 30 ลิเวอร์พูลนำ 2-0 จากฟรีคิกด้านซ้าย เทรนต์ เขี่ยตอกส้นให้แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลเข้ากลางประตู ก่อนเป็นโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โหม่งจ่อๆเข้าไป
จบครึ่งแรกหงส์นำ 2-0
เข้าครึ่งหลัง เชลซีเริ่มจับจังหวะได้ และมีโอกาสเข้าทำบ่อยขึ้น จนนาทีที่ 70 ก็ได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กระชากเดี่ยวก่อนตะบันด้วยขวานอกเขตโทษเข้าไปเฉยเลย ให้สกอร์ขยับเป็น 2-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : เคป้า อาริซ่าบาลาก้า,เอเมอร์สัน (มาร์กอส อลอนโซ่ น.15),ฟิกาโย่ โทโมริ,อันเดรียส คริสเตนเซ่น (เคิร์ท ซูม่า น.42),เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า,เอ็นโกโล่ ก็องเต้,จอร์จินโญ่,มัตเตโอ โควาซิช,เมสัน เมาท์,วิลเลียน,แทมมี่ อับราฮัม
ลิเวอร์พูล : อาเดรียน,เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์,เวอร์จิล ฟาน ไดค์,โจเอล มาติป,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (อดัม ลัลลาน่า น.84),ฟาบินโญ่,จินี่ ไวจ์นัลดุม,ซาดิโอ มาเน่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.71),โม ซาลาห์ (โจ โกเมซ น.90+2),โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่