วันนี้ ( 11 กรกฎาคม 63 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 35 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "เดอะ คลาเร็ตส์" เบิร์นลีย์ ลงทำการแข่งขันเวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
31/08/19 เบิร์นลี่ย์ 0-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
10/03/19 ลิเวอร์พูล 4-2 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีก)
06/12/18 เบิร์นลี่ย์ 1-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
01/01/18 เบิร์นลี่ย์ 1-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
16/09/17 ลิเวอร์พูล 1-1 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล
08/06/20 ชนะ ไบรท์ตัน 3-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
05/07/20 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
03/07/20 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-4 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
25/06/20 ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
22/06/20 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
เบิร์นลี่ย์
08/06/20 ชนะ เวสต์แฮม 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
05/07/20 เสมอ เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
30/06/20 ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
26/06/20 ชนะ วัตฟอร์ด 1-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
23/06/20 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-5 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
ความพร้อมล่าสุด
ลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ "หงส์แดง" พาทีมชนะมา 2 เกมรวดล่าสุดชนะ ไบรท์ตัน 3-1 ในเกมที่แล้วทำให้ต้องการอีก 9 แต้ม จาก 4 เกมที่เหลือเพื่อได้แต้มทะลุ 100 คะแนน
ความพร้อมเกมนี้ตจ้องขาด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมที่มีอาการเอ็นตึงบริเวณกลางเข่าขวาจากเกมล่าสุดมีโอกาสปิดเทอมยาว เมเติมจาก โฌเอล มาติป ปราการหลังเจ็บนิ้วเท้า
การจัดทัพน่ากลับมาใช้ ซาดิโอ มาเน่ ที่สำรองเกมที่แล้วเป็นตัวจริงร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ อีกครั้งพร้อมขยับอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ไปยืนแทนกัปตันเฮนโด้
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
เบิร์นลี่ย์
ฌอน ไดช์ กุนซือ เบิร์นลี่ย์ พาทีมทำผลงานช่วงรีสตาร์ตได้ดีล่าสุดบุกไปเอาชนะ เวสต์แฮม 1-0ทำให้เก็บ 10 แต้มจาก 4 เกมล่าสุดขยับขึ้นมามีลุ้นตั๋วยูโรปาลีกเมื่อตามหลังเชฟฯ ยูไนเต็ดเพียง 2 แต้ม
ความพร้อมเกมนี้ยังคงชวดใช้งานสองกองหลังตัวหลีกอย่าง เบน มี ที่เจ็บต้นขา และ แม็ทธิว ลอว์ตัน เจ็บเท้า รวมทั้ง ขาด แอชลี่ย์ บาร์นส์ กองหน้าตัวเก่ง และ แจ็ค คอร์ก กองกลางที่เจ็บยาว
การจัดทัพยังคงยึดแกนหลักเดิมๆทั้งนิค โป๊ป นายด่านจอมหนึบ,เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, ดไวท์ แม็คนีล, เจย์ โรดริเกซ และ มาเตจ์ วีดร้า
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-4-2) : นิค โป๊ป ; ฟิล บาร์ดสลี่ย์, เควิน ลอง, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, ชาร์ลี เทย์เลอร์ ; เอริก ปีเตอร์ส, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, จอช บราวน์ฮิลล์, ดไวท์ แม็คนีล ; เจย์ โรดริเกซ, มาเตจ์ วีดร้า
TNNSPORTS ชี้ขาดผลการแข่งขัน
ลิเวอร์พูลกลับมาทำผลงานได้ดีต่อเนื่องแม้มีการหมุนนักเตะบ้างบางตำแหน่งเกมนี้เจอเบิร์นลี่ย์ที่กำลังเล่นได้เพียงแต่เกมรับมีช่องโหว่พอสมควรโดยเฉพาะเกมที่แล้วที่ได้ นิค โป๊ป เซฟอุตลุตจึงเชื่อว่าหากเกมรุกไม่ใช่โอกาเปลืองน่าจะอัดเอาชนะได้ไม่ยาก
ลิเวอร์พูล ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฟอร์มดีตรงเงื่อนไข!อับราฮัมขยายสัญญาเชลซีอีก1ปี
พรีเมียร์สองคน! "ฟาน เพอร์ซี่" เลือก 3 นักเตะลุ้นคว้ารางวัลบัลลงดอร์ปีนี้
"เฮนเดอร์สัน" เข่าเดี้ยงปิดเทอมแล้วคาดพัก 8 วีคอาจชวดช่วยลิเวอร์พูลถึงต้นซีซั่นหน้า
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline