โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ลิเวอร์พูลต้องแข่งกับใครในฤดูกาลหน้า...?

TNN ช่อง16

อัพเดต 04 ก.ค. 2563 เวลา 18.07 น. • เผยแพร่ 04 ก.ค. 2563 เวลา 18.07 น. • TNN Thailand
ลิเวอร์พูลต้องแข่งกับใครในฤดูกาลหน้า...?
หลังการได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ของลิเวอร์พูล พวกเขายังมีภารกิจสำคัญในปีหน้าคือการป้องกันแชมป์ ซึ่งต้องบอกเลยว่า มันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากกว่าการคว้าแชมป์เสียอีก

แม้ว่าฟุตบอล “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ในฤดูกาลนี้(2019/2020) จะได้บทสรุปแล้วว่า “ลิเวอร์พูล” สามารถเข้าป้ายคว้า “แชมป์” มาครองได้สำเร็จ หลังจากผ่านการแข่งขันไป 31 นัด และถือเป็น “แชมป์ลีก” ครั้งแรกในรอบ 30 ปีของ “หงส์แดง” รวมทั้งยังเป็นการลบฝันร้ายใน “พรีเมียร์ลีก” ที่พวกเขาเคยทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ “รองแชมป์” เท่านั้น 

แต่จากผลงานนัดล่าสุดของ “หงส์แดง” ที่บุกไปพ่ายต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบสิ้นสภาพ “แชมป์ใหม่” ในเกมที่ 32 ของซีซั่น(0-4) หลายๆคนเริ่มสงสัยว่า ลิเวอร์พูล จะยิ่งใหญ่เกรียงไกรบนเวที “พรีเมียร์ลีก” ได้ยาวนานแค่ไหน หรือว่าจะสวมบท “ยอดทีม” ได้เพียงแค่ฤดูกาลเดียว เหมือนกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยทำไว้ในอดีต

การคว้าแชมป์ของ “หงส์แดง” เป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว แต่การรักษาแชมป์ของ “หงส์แดง” ดูจะยิ่งหนักหนาสาหัสขึ้นไปอีก ปัญหาหลักๆของ ลิเวอร์พูล คือการจัดการ “ขุมกำลัง” ให้สมบูรณ์พร้อมที่สุดเพี่อฤดูกาลใหม่ เนื่องจากทุกทีมมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มากนัก อย่างน้อยที่สุด ลิเวอร์พูล น่าจะต้องพยายามเก็บ “แข้งตัวหลัก” ไว้กับทีมให้ได้ทุกคน โดยเฉพาะ 3 ประสานแนวรุก ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ เพราะดูแล้วถ้าเสียใครคนใดคนหนึ่งออกจากไป “หงส์แดง” งานเข้าแน่นอน

ส่วนอีก 1 เรื่องที่ “หงส์แดง” จำเป็นต้องรีบจัดการโดยนด่วนคือ “แนวรับ” เพราะไปๆมาๆเหมือนจะหา “ใครสักคน” มาลงหลักปักฐานคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กำแพงเหล็กชาวดัตช์ แบบถาวรไม่ได้สักที ตัวเลือกแรก โฌเอล มาติป ผลงานดีแต่กลับถูกอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง ตัวเลือกที่ 2 โจ โกเมซ ปราการหลังเลือดผู้ดี ฟอร์มการเล่นดูยังไม่ค่อยสม่ำเสมอ เท่าที่ควร และถือว่าผลงานดร็อปลงไปพอสมควรถ้าเทียบกับช่วงก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บหนัก ส่วนอีก 1 ตัวเลือก(อันดับ 3) เดยัน ลอฟเรน แข้งดีกรี “รองแชมป์โลก” น่าจะเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุด รวมทั้งยังตกเป็นข่าวรายวันเกี่ยวกับการย้ายออกจากถื่น “แอนฟิลด์”

นอกจากจากปัญหาภายในทีมของ “ลิเวอร์พูล” ที่ต้องรีบจัดการโดยด่วนแล้ว “คู่แข่งระดับบิ๊กเนม” ก็ยังถือเป็น “กว้างขวางคอ” ที่อาจจะทำให้ “หงส์แดง” อกหักพลาดแชมป์ “พรีเมียร์ลีก” สมัยที่ 2 เพราะเท่าที่ดูตามทิศทางลมแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี เอาจริงแน่นอน คู่แข่งที่จะมาแย่งแชมป์กับ “หงส์แดง” ยังคงต้องยกให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่น่ากลัวที่สุด เพราะขนาดถูกทิ้งห่างถึง 20 แต้มในซีซั่นนี้ พวกเขาก็ยังถูกยกเป็น “เต็งแชมป์” ในฤดูกาลใหม่อยู่เช่นเคย ชนิดที่ว่ามองข้ามหัว “หงส์แดง” ไปแบบไม่ลังเล

 “เรือใบสีฟ้า” อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร หากว่าพวกเขาโดนแบนในเวทียุโรปเป็นเวลา 2 ปี(ตัดสินกลางเดือนนี้) เพราะว่า “แข้งตัวหลัก” น่าจะขอย้ายทีมแน่นอน นำโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ที่เคยออกมาพูดแล้วว่า ตนเอง พร้อมจะอยู่ต่อหากทีมโดนแบนแค่ 1 ปี แต่ถ้าการอุทธรณ์ของ “เรือใบสีฟ้า” ไม่เป็นผล เดอ บรอยด์ คงต้องขอโบกมือลา 

ส่วนในกรณีที่ แมนฯ ซิตี้ แคล้วคลาดปลอดภัยและโดนแบนเพียง 1 ปี “สตาร์ดัง” น่าจะถูกรั้งตัวไว้กับทีมได้เกือบหมด และคงมีอีกหลายคนที่ย้ายเข้ามาเพิ่มแน่นอน เพราะว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยอดโค้ชชาวสเปน น่าจะเห็นชัดแล้วว่าพวกเขากำลังเจอกับปัญหาอะไร รายชื่อ “แข้งใหม่” ที่มีข่าวพัวพันกับ แมนฯ ซิตี้ ล้วนแล้วแต่ “บิ๊กเนม” แทบทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะเป็น เลออน ไบลีย์ ปีกตัวจี้ดของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, คาลิดู คูลิบาลี่ หลังจอมแกร่งของ นาโปลี, รูเบน ดิอาส แนวรับเนื้อหอมจาก เบนฟิก้า, อัชราฟ ฮาคิมี แบ็คดาวรุ่ง(เรอัล มาดริด) หรือแม้แต่ ดาวิด อลาบ้า แบ็คจอมบุกของ บาเยิร์น มิวนิค นี่ยังไม่รวมกลุ่ม “สตาร์ทีมเล็ก” อย่างพวก แจ็ค กรีลิช(แอสตัน วิลล่า), อดาม่า ตราโอเร่(วูล์ฟฯ), ละ เอเซเกล บาร์โก้(อตาลันต้า) ซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหน “เรือใบสีฟ้า” ก็ไม่มีทางยุบแน่นอน      

ขณะที่อีก 1 คู่แข่งของ “หงส์แดง” ที่ไม่จับตามองคงไม่ได้ คือ “สิงห์บลูส์” เชลซี เพราะว่ากำลัง “บ้าระห่ำ” เสริมทัพเหมือน “สามล้อถูกหวย” พร้อมปิดดีล 2 สตาร์ดังอย่าง ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกเป้าหมายหลักของ ลิเวอร์พูล และ ฮาคิม ซีเย็ค จอมเทคนิคชาวโมร็อคกัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เชลซี ยังเป็น “เต็งจ๋า” ที่จะคว้า เบน ชิลเวลล์ แบ็คตัวเก่งของ เลสเตอร์ ซิตี้ มาเสริมเกมรับ รวมทั้งพัวพันกับทั้ง จาดอน ซานโช่(ดอร์ทมุนด์), ไค ฮาเวิร์ตซ์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) และ ดีแคลน ไรซ์(เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) สุดท้ายแล้วหาก “สิงห์บลูส์” ปิดดีลเพิ่มได้อีกสัก 2-3 คน พวกเขาก็พร้อมชน “หงส์แดง” แบบเต็มตัว 

ทั้งหมดที่กล่าวมา! ยังไม่รวม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ หรือแม้แต่ อาร์เซนอล ที่กำลังวุ่นกันอยู่กับการลุ้น “พื้นที่ยุโรป” ซึ่งหากทุกทีมมีการขยับตัวกันขึ้นมา “หงส์แดง” ก็อาจจะอยู่เฉยๆไม่ได้เหมือนกัน 

                   ปลั๊ก ภุมเรศ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0