จากข้อมูลของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่าในปี 2561 คนไทย 76.4% วางแผนจะออกมาลอยกระทง เฉลี่ยใช้จ่ายต่อคนอยู่ที่ 1,442 บาท คิดเป็นเงินสะพัดมูลค่าราว 9,699 ล้านบาท เพื่อรับเทรนด์การใช้จ่ายดังกล่าว ล่าสุด ทรูมันนี่คว้าร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมแหล่งช็อปปิ้งเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาในย่าน 3 ท่าเรือ ได้แก่ ตลาดวังหลัง (ท่าพรานนก) ท่ามหาราช และท่าพระจันทร์ ให้เตรียมรับการจ่ายเงินด้วยอีวอลเล็ตกันแล้ว
สำหรับร้านค้าที่สามารถจ่ายด้วยอีวอลเล็ตได้ในย่านท่าพระจันทร์ ได้แก่ ร้านท่าพระจันทร์, Seventy Nine (Coffee & Restaurant), หลุยส์ ท่าพระจันทร์, โรตีมะตะบะ, เฉลิมขวัญ, ดอยช้าง (กาแฟ) และเอกอ้วนกาแฟโบราณ
ส่วนร้านในท่ามหาราชได้แก่ ครีมเมอรี่, โนอะ โนอะคาเฟ่, ร้านขนมปังป้าแดง, สุกัญญากล้วยปิ้ง รวมถึงจ่ายค่าที่จอดรถผ่าน QR Code ได้ด้วย
สุดท้ายในย่านวังหลัง มีร้านที่จ่ายเงินด้วยอีวอลเล็ตได้ เช่น บ้านแซ่บ (ขายส้มตำ), ก๋วยเตี๋ยวคนไทย, ชวนอร่อย (อาหารตามสั่ง), ก๋วยเตี๋ยวอร่อยเหาะ, ราดหน้ายอดผักศิริราช, จีน่าน้ำปั่น, คอฟฟี่ดีไทม์, ล็อกเคอร์คอฟฟี่, ชอบชา วังหลัง และอำนวยไอศกรีม ซึ่งนอกจากร้านค้าเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกราว 200 ร้านค้าที่สามารถรับชำระผ่านอีวอลเล็ตได้เช่นกัน โดยปัจจุบัน ทรูมันนี่มีผู้ถือหุ้นหลักสองราย คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (หรือ ซีพี) และบริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิเซส กรุ๊ป บริษัทลูกของอาลีบาบา
ส่วนผลประกอบการที่ผ่านมาของ TrueMoney Wallet ช่วงเดือน มกราคม – สิงหาคม 2561 พบว่ามีการทำธุรกรรมกว่า 70,000 ล้านบาท ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการกว่า 7 ล้านราย และมีผู้ใช้บริการเป็นประจำเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ซึ่งทางบริษัทอยู่ระหว่างการขยายช่องทางการชำระเงิน และเดินหน้าจับมือร้านค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อยเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายยุคสังคมไร้เงินสดกว่า 100,000 จุดรับชำระ
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น (0)