ด้วยยอดขายเกือบ 3,000 คันของ "ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์" คงจะตอบคำถามของใครหลายคนได้ว่าข้อมูลข่าวสารที่ผ่านมาในแง่ลบที่ออกสู่สาธารณชนเป็นช่วง ๆ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการขายรถรุ่นนี้แต่อย่างใด เฉกเช่นเดียวกับราคาที่ตั้งไว้สูงถึง 1.7 ล้านบาท ก็ไม่ใช่ปัญหาของคนต้องการรถกระบะเทพ ที่พร้อมด้วยหน้าตา เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ที่คู่แข่งไม่มี..ทำให้วันนี้ของ "เรนเจอร์ แร็พเตอร์" ยังคงเป็นรถที่ใครหลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของ
เมื่อความแรงของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังคงอยู่ ทางฟอร์ด ประเทศไทย เดินหน้าจัดกิจกรรมให้ทุกคนได้เห็นถึงความโดดเด่นไม่เหมือนใครผ่านสื่อมวลชนถึงความสามารถของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ คันนี้
ล่าสุด ฟอร์ด ประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนขับ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ สัมผัสธรรมชาติอันสวยงามที่แฝงตัวอยู่บนเส้นทางชายฝั่งทะเลอันดามัน โดยการทดสอบครั้งนี้จะเน้นไปที่ระบบ Terrain Management System (TMS) ทีมีทั้งหมด 6 โหมดให้เลือกตามเส้นทางที่ต้องเผชิญ โดยเฉพาะโหมด SAND และ โหมด BAJA ได้มีการทดลองกันอย่างเต็มอิ่ม เพราะเส้นทางที่ฟอร์ดจัดให้เป็นสถานที่ unseen ต่างๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพังงา ติดกับทะเลและมีหาดทรายอันสวยงาม พร้อมให้ลุยรูปแบบ
Terrain Management System (TMS) มีทั้งหมด 6 โหมด ประกอบไปด้วย
-NORMAL MODE โหมดปกติ
- เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน , จะให้ทั้งความสมดุลของการขับที่ตื่นเต้น นุ่มนวล และความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างลงตัว, ประหยัดน้ำมัน , พวงมาลัยไฟฟ้าอยู่ในโหมด Normal ,ใช้กับการขับเคลื่อนแบบ 2H , 4H และ 4L
-SPORT MODE โหมดสปอร์ต
- เหมาะสำหรับการขับบนถนนแบบใช้ความเร็วสูง ขับสนุกสนาน, โหมดนี้จะเพิ่มการตอบสนองของคันเร่งและพวงมาลัยให้มีความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้น, ระบบเกียร์จะเปลี่ยนเกียร์และค้างที่รอบเครื่องสูงขึ้น เพื่อช่วยให้เครื่องตอบสนองได้เร็วกว่าเดิม, พวงมาลัยไฟฟ้าอยู่ในโหมดสปอร์ต, ใช้กับการเคลื่อนแบบ 2 H เท่านั้น
-SNOW/GRAVEL/GRASS MODE โหมดหญ้า/กรวดหินและหิมะ
- เหมาะสำหรับการขับบนทางที่มีพื้นผิวลื่น เช่นมีหญ้า กรวด หรือหิมะปกคลุมบนพื้นผิวถนน , ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีเพิ่มการทำงานไวขึ้น และเพิ่มการเกาะถนนทุกความเร็วเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับบนพื้นผิวที่ลื่น, เกียร์เปลี่ยนอย่างนุ่มนวลที่รอบเครื่องต่ำลง คันเร่งมีการตอบสนองที่ช้าลง , พวงมาลัยไฟฟ้าอยู่ในโหมด Normal , ใช้กับการขับเคลื่อนแบบ 4H เท่านั้น
-MUD/SAND MODE โหมดโคลน/ทราย
- เหมาะกับการขับออฟโรด ในเส้นทางพื้นผิวที่หน่วงล้อ หรือขับข้ามสิ่งกีดขวาง , ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีมีความไวน้อยลงและถูกปรับให้รถรักษาโมเมนตัมขณะขับ, เกียร์เปลี่ยนที่รอบเครื่องที่สูงขึ้นเพื่อรักษาแรงบิดที่สูงไปที่ล้อในการขับเคลื่อน ,พวงมาลัยไฟฟ้าอยู่ในโหมด Comfort ,ใช้กับการขับเคลื่อนแบบ 4H , และ 4L
-BAJA MODE โหมดบาฮา
- เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง เพิ่มความสนุกและตื่นเต้นในการขับออฟโรด , ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกลดการทำงานลงเพื่อให้เครื่องทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุด, เกียร์จะเปลี่ยนที่รอบสูงกว่าปกติและค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นเพื่อให้ได้กำลังเครื่องสูงสุด, พวงมาลัยไฟฟ้าอยู่ในโหมด Comfort , ใช้กับการขับเคลื่อนแบบ 2H, 4H และ 4L
-ROCK MODE โหมดหิน
- เหมาะกับการขับปีนป่ายหินที่ความเร็วต่ำ, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวจะถูกปิดและเน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้า ๆ เพื่อเพิ่มการควบคุมรถในการปีนหินได้ดีขึ้น, TMS จะปรับการทำงานของเกียร์ให้อยู่ในเกียร์ 1 เท่านั้น, พวงมาลัยไฟฟ้าอยู่ในโหมด Comfort , ใช้กับการขับเคลื่อนแบบ 4L เท่านั้น
ที่สำคัญในทุกที่เราไปเราสามารถพิสูจน์สมรรถนะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้ดี ทั้งกำลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ทำงานผสานกันได้อย่างลงตัว และแรงบิดที่ตอบสนองต่อการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม บวกกับโหมด Terrain Management System (TMS) ทีมีทั้งหมด 6 โหมดดังกล่าวข้างต้น ก็ได้มีการสลับปรับเปลี่ยนโหมดไปตามถนนบนเส้นทางท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้การขับขี่บนพื้นทราย กรวด หิน และทำ high-speed off-road กันอย่างสนุกสนาน รวมถึงการทดสอบระบบช่วงล่างและเสถียรภาพของรถกันอย่างไม่ยั้ง
ทันที่ที่เดินทางถึงสนามบินภูเก็ต คาราวาน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มุ่งหน้าไปยังเขาหน้ายักษ์ อุทยานแห่งชาติหาดท้ายเหมือง-เขาลำปี อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา จุดหมายแรกอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามเงียบสงบ มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใสตลอดชายหาดยาวกว่า 13 กิโลเมตร ทั้งยังมีโขดหินขนาดใหญ่ที่ถูกทับถมสะสมมาเป็นเวลานับล้านปี ปรากฏร่องรอยลวดลายสวยงามแปลตา ด้วยรูปร่างของภูเขามีหน้าผาคล้ายใบหน้ายักษ์ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ สำหรับการเดินทางมาเขาหน้ายักษ์ ต้องใช้การขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะถนนที่เราเข้าไปเป็นถนนทรายหมด ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้ลองใช้ระบบ 4x4 Terrain Management System (TMS) โดยเลือกใช้โหมดโคลน/ทรายกับ 4x4 High หรือ 4x4 Low ทำให้การขับขี่บนทรายได้อย่างง่ายดาย และสนุกสนาน
หลังจากนั้นคณะสื่อมวลชนได้เดินทางไปลงเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม เพื่อข้ามไปยังเกาะคอเขา ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน ที่สำคัญเกาะคอเขา ถือเป็นไฮไลต์จของทริปนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเกาะคอเขาได้ชื่อว่า “Forgotten Island” หรือเกาะที่ถูกกลืน เพราะที่นี้มีนักท่องเที่ยวน้อยมาก คนไทยไม่ค่อยเห็น มีแต่ฝรั่ง บวกกับเราพักที่นี้ 2 คืน ทำให้ทุกคนได้มีโอกาสพักผ่อนไปด้วย ทุกอย่างบนเกาะสงบ เงียบ เรียบง่าย วิวก็สวยงามตามธรรมชาติ
เกาะคอเขา นอกจากจะมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่ทอดตัวทางทิศตะวันออกและหาดทรายขาวทางทิศตะวันตกแล้ว ยังมีร่องรอยความเจริญของวัฒนธรรมในอดีตจากการสันนิษฐานของนักโบราณคดี เดิมที่นี้เป็นเส้นทางการค้าคาบสมุทรของชาวอินเดีย จีน อาหรับ และมลายู เนื่องจากเป็นเมืองท่าค้าขายและที่จอดเรือหลบมรสุม บ่งบอกประวัติศาสตร์ ของเกาะแห่งนี้ที่มีมานานนับพันปี
ในวันถัดมาสื่อมวลชนได้รับฟังบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ แล้วก็ออกเดินทางไปทดสอบระบบ Terrain Management System (TMS) กันต่อ วันนี้จะใช้โหมดการขับขี่ออฟโรดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างจุใจ ทั้งโหมดหญ้า/กรวดหิน (Grass/Gravel) ซึ่งออกแบบมาให้ขับขี่บนออฟโรดที่เป็นกรวดและพื้นผิวลื่น การใช้โหมดหิน (Rock) พร้อมกับ 4x4 Low สำหรับการปีนป่ายหินในทางลาดชัน รวมถึงโหมด บาฮา (BAJA) การขับขี่ออฟโรดความเร็วสูง ที่มาพร้อมโช้กอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX Shock เพื่อซับแรงกระแทกเมื่อขับขี่บนเส้นทางที่เป็นกรวด หญ้า ทรายและหลุมบ่อ
ทุกเส้นทางที่ฟอร์ด ประเทศไทย พาสื่อมวลชนไปลุย เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พร้อมนำระบบTMS ทั้ง 6 โหมดที่มีอยู่มาใช้จนครบ เลยทำให้การขับขี่ผ่านทุกอุปสรรค ทุกด่าน ไปอย่างง่ายดาย สบาย ๆ ไม่ลำบาก ไม่ต้องลุ้น แต่อย่างไรก็ตามในชีวิตจริงคงไม่ได้ขับลุยอะไรขนาดนี้
วันที่สุดท้ายพวกเราเดินทางกลับไปยังท่าเรือบ้านน้ำเค็มข้ามเรือเฟอร์รี่เพื่อไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งระหว่างทางได้ไปเยี่ยมชม กะปง แกรนด์ แคนยอน ประติมากรรมธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงต่ำไม่เท่ากัน ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการทำเหมืองแร่ในสมัยก่อนที่มีการขุดหาแร่ดีบุก ด้วยระบบเหมืองฉีด จึงทำให้มีกองทรายอยู่จำนวนมหาศาล ต่อมาถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายเป็นพื้นที่รูปร่างแปลกตากว่า 50 ไร่ ทำให้เป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในดินแดนหินผาที่ดูคล้ายสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องลือในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสถานที่แห่งนี้การขับขี่ของเราใช้โหมดการขับขี่โคลน/ทราย อีกครั้งหนึ่ง
2 คืน 3 วัน กับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ในครั้งนี้ได้ทดลองระบบ Terrain Management System (TMS) กันอย่างจุใจและก็ต้องบอกว่าระบบดังกล่าวสามารถทำให้ การขับขี่โหมดออฟโรดในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนที่เป็นทราย เป็นกรวดหรือพื้นผิวที่ลื่น รวมถึงการปีนป่ายในทางลาดชัน หลุม บ่อ ผ่านมาได้อย่างสบาย ง่าย ๆ พร้อมได้ท่องเที่ยวในสถานที่ที่น้อยคนหนักจะได้มา ถือเป็นทริบที่น่าประทับใจ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวบนเส้นทางชายฝั่งอันดามันและรถกระบะที่เหนือรถกระบะอย่าง "ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์"
** ฟอร์ดได้รับอนุญาตจากเอกชนผู้ถือกรรมสิทธิ์พื้นที่หาดแห่งนี้ในการจัดกิจกรรม พื้นที่ดังกล่าวจะกลับสู่สภาพเดิมในไม่ช้า โดยเราได้เตรียมความพร้อมและระมัดระวังในทุกขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่าการจัดกิจกรรมนี้ไม่เป็นการรบกวนสิ่งมีชีวิตใด ๆ ระหว่างการขับขี่
-การทดสอบขับนี้อยู่ภายในสนามปิดและอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่การขับขี่โดยปกติ
