โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ลองมาทาน 10 อาหารบำรุงผมแข็งแรง เงางาม ตามธรรมชาติ 🍴 เลิกเพลีย เพราะผมเสียไปได้เลย!

SistaCafe

อัพเดต 22 ก.ย 2562 เวลา 02.57 น. • เผยแพร่ 20 ก.ย 2562 เวลา 08.53 น. • chollychon

สวัสดีค่าสาวซิสส
ไหนใครที่กำลังประสบปัญหาหนังศรีษะและเส้นผมแบบเราบ้างคะ แบบว่าปกติผมก็บางอยู่แล้ว แต่ยังมาเกิดปัญหาผมร่วงเอา ๆ สางผมออกมาทีหลุดติดมือมาเป็นกระจุก ไม่พอนะคะซิสยิ่งเราเครียดมาก ๆ ความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมก็ยิ่งร่วงเข้าไปใหญ่ ปล่อยให้เป็นแบบนี้คงไม่ไหวต้องหาทางรักษาด่วน ๆ แล้วล่ะค่ะ ซึ่งนอกจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมต่าง ๆ แล้ว
การเลือกทานอาหารก็สามารถช่วยบำรุงผมได้ด้วยนะ!
เพราะในอาหารบางประเภทจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารที่ช่วยบำรุงหนังศรีษะและเส้นผมของเราด้วย ในบทความนี้เราเลยมาแนะนำ 10 อาหารบำรุงผมแข็งแรง เงางาม ตามธรรมชาติกันค่ะ และเราควรทานอาหารประเภทไหนเพื่อบำรุงผมกันบ้าง ลองตามไปดูกันดีกว่า!

 
•*´¨\*•.¸¸.•\*´¨*•.¸¸.•*´¨\*•.¸¸.•\*´¨*•.¸¸.••*´¨\*•.¸¸.•\*´¨*•.¸¸.•*´¨\*•.¸¸.•\*´¨*•.¸¸.•

1. ปลาแซลมอน

 
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังเจอกับปัญหาผมแห้งเสีย อยากจะเพิ่มสารอาหารให้กับเส้นผมให้ดูเงางาม ขอแนะนำให้ลองทาน" ปลาแซลมอน " ดูค่ะ เพราะนอกจากปลาแซลมอนจะเป็นอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเยอะมาก ๆ ยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผมของเราด้วย
เพราะในปลาแซลมอนมีทั้งโปรตีน วิตามิน D ซึ่งเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญในการบำรุงสุขภาพผม และนอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะให้ชุ่มชื่น แถมยังเป็นตัวช่วยขจัดรังแคได้ด้วย และการทานแซลมอน 100 กรัมสัปดาห์ละ 2 ครั้งจะช่วยให้เส้นผมดูเงางามขึ้นด้วยค่ะ

 

2. เนื้อไก่

สำหรับใครที่เบื่อทานปลา ลองทาน" เนื้อไก่ " แหล่งอาหารโปรตีนสูงก็สามารถช่วยบำรุงเส้นผมของเพื่อน ๆ ได้ด้วยเหมือนกัน และด้วยความที่เนื้อไก่ไร้มันมีโปรตีนสูงมากนี่แหละค่ะ เนื้อไก่จึงเป็นอีกหนึ่งอาหารที่สำคัญต่อการบำรุงผมด้วยเหมือนกัน ยิ่งใครที่กำลังประสบปัญหาผมบางอยากเร่งให้เส้นผมขึ้นใหม่ได้เร็วขึ้น ลองทานเนื้อไก่แบบไร้มันดูค่ะ เพราะโปรตีนจากเนื้อไก่จะช่วยให้เส้นผมไม่เปราะแตกและขาดหลุดร่วงง่ายนั่นเองค่ะ

  

3. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

จากอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผม ทางฝั่งของผลไม้ก็มีอยู่ชนิดที่ช่วยบำรุงเส้นผมด้วยเหมือนกัน ซึ่ง" ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ " ก็เป็นผลไม้ตระกูลหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพผมของเพื่อน ๆ เพราะอย่าที่เรารู้กันว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามิน C สูงมาก
ซึ่งเจ้าวิตามิน C ตัวนี้ก็มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างโปรตีนและนำออกซิเจนไปเลี้ยงเส้นผม โดยเฉพาะการทานสตรอว์เบอร์รี่และบูลเบอร์รี่จะช่วยให้ผมและหนังศรีษะแข็งแรงทำให้ผมไใ่ขาดง่ายด้วยค่ะ

 

4. ลูกพรุน

อีกหนึ่งผลไม้ที่เป็นประโยชน์และช่วยบำรุงเส้นผมนั่นก็คือ" ลูกพรุน " หรือที่บางคนรู้จักในชื่อลูกไหน ผลไม้รสชาติหวานหอมที่หลายคนอาจจะเคยทานในรูปแบบที่แปรรูปมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของน้ำผลไม้หรือรูปแบบของผลไม้อบแห้งทานเล่น
และยิ่งถ้าเกิดว่าได้กินสด ๆ จะยิ่งเพิ่มประโยชน์มากขึ้นไปอีก เพราะในลูกพรุนที่ทั้งกรดนีโอคลอโลเจนิกและกรดคลอโลเจนิกที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แถมยังมีธาตุเหล็กสูงมาก ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยป้องกันปัญหาผมร่วง และปัญหาผมลีบแบนไร้น้ำหนักอีกด้วยค่า

 

5. ข้าวกล้อง

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากสุขภาพผมแข็งแรงและหุ่นดีไปด้วย เราขอแนะนำอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมายอย่าง" ข้าวกล้อง " หนึ่งในอาหารที่มีสารอาหารจำเป็นต่อเส้นผมอยู่เยอะมากเหมือนกัน ทั้งโปรตีน วิตามิน และไฟเบอร์ต่าง ๆ ที่นอกจากจะช่วยบำรุงสุขภาพผมและหนังศรีษะแล้ว สารอาหารในข้างกล้องยังช่วยให้เราอิ่มได้นาน เหมาะแก่การควบคุมน้ำหนักอีกด้วยค่า

 

6. เห็ด

สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาผมหงอก หรือกำลังกังวลว่าเมื่ออายุเยอะขึ้นผมหงอกจะแทรกซึมขึ้นมาบนหนังศรีษะทำให้กลายเป็นนางพญาผมขาวไปซะก่อน อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพื่อน ๆ สามารถป้องกันด้วยวิธีง่าย ๆ แแค่การเลือกทาน" เห็ด " นั่นเอง เพราะในเห็ดอุดมไปด้วยทองแดง
สารอาหารที่ช่วยยืดอายุสีผมให้เกิดผมหงอกช้าลง ถ้าทานเป็นประจำก็จะช่วยให้ผมดำสลวยได้ยาวนานขึ้นด้วยค่ะ และนอกจากเห็ดจะมีประโยชน์ต่อเม็ดสีในเส้นผมแล้ว การทานเห็น 3 อย่างยังเป็นการล้างพิษ ช่วยลดการก่อมะเร็งอีกด้วยนะเอ้อ

 

7. เมล็ดฟักทอง

ตามไปทานอาหารบำรุงผมแบบหนัก ๆ กันมาแล้ว คราวนี้เรามาดูอาหารบำรุงผมที่สามารถทานเล่นได้ด้วยกันบ้างดีกว่า อย่าง" เมล็ดฟักทอง " ก็เป็นอีกหนึ่งอาหารและธัญพืชที่เป็นประโยขน์ต่อเส้นสมของเพื่อน ๆ ด้วยเหมือนกัน เพราะว่าในเมล็ดฟักทองมีสังกะสีสูงมาก ซึ่งสังกะสีก็เป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงหนังศรีษะให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งง่าย เมล็ดฟักทองจึงถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ทานแล้วสามารถขจัดรังแคได้ดีอีกชนิดหนึ่งเลยล่ะค่ะ

 

8. ถั่วที่สามารถกินได้ทั้งเปลือก หรือถั่วเปลือกแข็ง

นอกจากการทางเมล็ดฟักทองจะช่วยบำรุงหนังศรีษะให้ชุ่มชื้นและขจัดรังแคได้แล้ว การทาน " ถั่วและธัญพืช " ประเภทอื่น ๆก็สามารถบำรุงเส้นผมและหนังศรีษะของเพื่อน ๆ ได้ด้วยเหมือนกัน เพราะในธัญพืชอุดมไปด้วย ธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามิน B ที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผม
ส่วนถั่วแดง ถั่วเลนทิล มีธาตุเหล็ก สังกะสีและไบโอติน ที่ช่วยไม่ให้ผมเปราะขาดง่าย และอลนัทจะช่วยบำรุงเส้นผมเพราะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และถ้าใครผมขาดหลุดร่วงอย่างหนักควรทาน เม็ดมะม่วงหินมพานต์ ถั่วพีแกน และอัลมอนด์ค่ะ

 

9. ชาเขียว

ทานถั่วและธัญพืชเป็นของทานเล่น แถมดื่ม" ชาเขียว " ควบคู่ไปด้วยก็จะยิ่งเพิ่มการบำรุงเส้นผมและหนังศรีษะมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะในชาเขียวมีสารโฟลีฟีนอล ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสภาพหนังศีรษะให้แข็งแรง แถมยังช่วยบำรุงเส้นผมให้ดูเงางามอีกด้วย และแค่นั้นยังไม่พอนะคะเจ้าสารตัวนี้มีส่วนที่ช่วยลดปัญหารังแคได้อีกด้วย ต้องบอกเลยว่าแค่อื่มชาเขียวตัวเดียวก็สามารถบำรุงปัญหาหนังศรีษะและเส้นผมไปได้เยอะเลยนะคะเนี่ย

 

10. คอตเตจชีส

อีกหนึ่งอาหารที่ทานแล้วช่วยบำรุงหนังศรีษะ บางคนอาจจะไม่คิดว่า " คอตเตจชีส " ชีสสดที่ทำจากนมพาสเจอร์ไรซ์ หนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับใครที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ก็เป็นอาหารที่ช่วยบำรุงหนังศรีษะและเส้นผมได้ด้วยเหมือนกัน เพราะในคอตเตจชีสมีทั้งแคลเซียมสูงซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้ผมยาวขึ้นด้วย มีเวย์และเคซีนซึ่งเป็นโปรตีนคุณภาพสูงซึ่งเป็นประโยชน์ต่อหนังศรีษะและเส้นผมด้วย

 
•*´¨\*•.¸¸.•\*´¨*•.¸¸.•*´¨\*•.¸¸.•\*´¨*•.¸¸.••*´¨\*•.¸¸.•\*´¨*•.¸¸.•*´¨\*•.¸¸.•\*´¨*•.¸¸.•

เป็นยังไงกันบ้างคะซิส กับ10 อาหารบำรุงผมแข็งแรง เงางาม ตามธรรมชาติที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ สำหรับอาหารที่เราแนะนำในวันนี้ก็ถือเป็นวิธีการบำรุงหนังศรีษะและเส้นผมในอีกทางหนึ่ง ในแบบธรรมชาติที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีใด ๆ และเราก็หวังว่าคงจะพอเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ที่กำลังเจอกับปัญหาสุขภาพผมไม่แข็งแรงในตอนนี้อยู่บ้างนะคะ
แต่สำหรับบางคนที่เป็นหนักมาก ๆ พยายามทั้งการทานอาหารและบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่าง ๆ แล้วก็ยังคงเป็นเรื้อรังไม่หายสักที ลองไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาจากหมอดูน่าจะได้ผลมากกว่าค่ะ สำหรับวันนี้เราคงต้องตัวลาไปก่อนแล้ว แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า บ้ายบายค่า

  

ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0