เป็นที่รู้กันดีว่า การแข่งขันในแวดวงธุรกิจของยุคปัจจุบันนั้น มีความท้าทายมากขึ้นในทุกขณะ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้นเรื่อย ๆ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด จึงทำให้เราได้เห็นแบรนด์หน้าใหม่ที่เกิดขึ้นมามากมาย และก็มีหลายเจ้าที่หายไปในเวลาอันสั้น
นอกจากผู้เล่นหน้าใหม่แล้ว ความท้าทายดังกล่าวก็มีผลต่อแบรนด์เก่าแก่มากมายที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องตอกย้ำภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือที่สร้างมาอย่างยาวนานให้ได้ด้วย เป็นโจทย์ที่ฟังดูยากใช่ไหม? ในวันนี้ เราขอยกตัวอย่างแบรนด์เก่าแก่ที่สามารถปรับตัว พัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าและภาพลักษณ์เข้าสู่ความทันสมัย โดยที่ยังคงยึดมั่นในจุดยืนดั้งเดิมของตนได้ วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับแบรนด์เครื่องสำอางค์เก่าแก่ของไทยที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2514 กับชื่อคุ้นเคย ดร.สมชาย
ดร.สมชาย แบรนด์เวชสำอางของไทยรายแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2514
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ ดร.สมชาย ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2514 ดร.สมชาย เรืองวัฒนสุข ได้ก่อตั้งคลินิกผิวหนังแห่งหนึ่ง ณ ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดค้นผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลและรักษาปัญหาผิวพรรณหลากหลายประเภท ตามความต้องการของคนไข้ และลูกค้าทั่วไป โดยต่อมาไม่นาน สินค้าจากคลินิกของ ดร.สมชาย ก็ได้กระจายวางจำหน่ายไปทั่วประเทศ และมีการร่วมคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ กับแพทย์และเภสัชกรมากมาย รวมถึงขยายตลาดไปในประเทศพม่า ลาว กัมพูชา และตะวันออกกลาง
แผนก Deep Biotechnology Department กับผลงานวิจัยขั้นสูงที่น้อยคนจะรู้ว่า ได้ตีพิมพ์ในระดับสากล
แม้แบรนด์ ดร.สมชาย จะเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า ที่บริษัทของแบรนด์ ดร.สมชาย สนใจด้านนวัตกรรมยุคใหม่ เพื่อตอบสนองกับ Disruptive technology จนมีแผนก Deep Biotechnology Department ที่วิจัยสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และทำผลงานวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง จนได้ตีพิมพ์ และได้รับการยอมรับในระดับสากลมากมาย เช่น ความสำเร็จจากการใช้ “จีโนมอีดิทติ้ง” เปิดมิติใหม่ของการรักษาโรคถึงระดับพันธุกรรม ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมที่ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค
เจาะกลุ่ม Gen M ด้วยโฆษณาทันสมัยภายใต้แนวคิดSmall is good
นอกจากการวิจัยพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ แล้วนั้น อีกหนึ่งเรื่องทางแบรนด์ ดร.สมชาย ปรับตัวตามยุคสมัยได้ดีนั่นก็คือ ภาพลักษณ์และการสื่อสารกับผู้บริโภค ที่ทันสมัย สนุก และจดจำได้ง่าย เช่น โฆษณาชุด Stranger Things ของเมื่อปีที่แล้วนั้น ก็ได้ไปแข่งขันและได้เข้ารอบสุดท้าย รับรางวัล Finalist จากเวทีประกวดโฆษณาสร้างสรรค์ระดับนานาชาติอย่าง Spikes Asia มาแล้วนั่นเอง
ทฤษฎีจีบสาว ได้ผลหรือไม่ มาดูกัน
โพสต์โดย Dr Somchai เมื่อ วันอังคารที่ 23 เมษายน 2019
และในปีนี้ทางแบรนด์ก็ยังคงมุ่งเน้นในการสื่อสารเจาะตลาดกลุ่ม Gen M (Millennials) หรือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ในเขตเมืองมากขึ้น ด้วยการทำโฆษณาที่ทันสมัยตรงกับไลฟ์สไตล์ และสนุกสนาน ด้วยแนวคิด “Small is good” และเลือกใช้ Platform ที่เป็นที่นิยมของยุคสมัยนี้ offline เช่น Digital Billboards, ใน CBD และ online platform
โฟมล้างหน้าที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ MST ที่ทำความสะอาดได้ลึกถึงระดับโมเลกุล
ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เราเห็นในโฆษณาว่า สามารถรักษาสิวได้ลึกสุด ๆ นั้น ทางแบรนด์ไม่ได้โฆษณาเกินจริงแต่อย่างใด เพราะ Dr.Somchai Acne Double Whip Foam นั้น เป็นวิปโฟมหนานุ่ม สูตรลดสิว เร่งผิวใส ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม เทคโนโลยี MST (Micronized Salicylic Treatment) และ Micelle Whip นวัตกรรมเอกสิทธิ์ของ ดร.สมชาย ที่ทำครีมโฟมล้างหน้ารุ่นใหม่นี้ มีสารสำคัญที่มีขนาดเล็กระดับโมเลกุล ทำความสะอาดล้ำลึกถึงร่องขุมขน จัดการต้นตอของสิว และทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก มีประสิทธิภาพ
ซึ่ง CEO ของ ดร.สมชาย ได้กล่าวไว้อย่างมั่นใจว่า “เราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรา Dr.Somchai Acne Double Whip Foam ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม MST (Micronized Salicylic Treatment) สามารถทำให้เราไปถึง target ที่เราตั้งไว้มากกว่า 2 digit ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ facial cleanser *ในไตรมาสนี้” *
ก็ต้องรอดูกันว่า ดร.สมชาย จะทำได้ตามเป้าที่หวังหรือไม่ และในอนาคต ทางแบรนด์จะทำแคมเปญโฆษณาหรือมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อะไรให้เราได้ตื่นเต้นกันอีก
อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com
