โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ร้านอาหาร ถ้าอร่อย-ไม่แพง-บรรยากาศดี ไกลแค่ไหนก็ต้องมีคนไปกิน

เส้นทางเศรษฐี

อัพเดต 21 ก.พ. 2562 เวลา 12.29 น. • เผยแพร่ 21 ก.พ. 2562 เวลา 06.15 น.
ร้านลิตเต้ลทรี-2

ร้านอาหาร ถ้าอร่อย-ไม่แพง-บรรยากาศดี ไกลแค่ไหนก็ต้องมีคนไปกิน

ผมยังมีความเชื่อว่า…ร้านอาหาร ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหน ถ้าอร่อย ราคาไม่แพง และบรรยากาศดี อย่างไรก็ต้องมีคนไปกินทั้งนั้น

เพราะตลอดชีวิตผ่านมา ผมอาจเดินทางไปทั่ว ไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด จึงมักพบเห็นร้านอาหารเหล่านี้ซุกซ่อนอยู่ตามชานเมืองต่างๆ

ทั้งๆ ที่อยู่ไกล แต่ยังมีคนเดินทางไปรับประทาน ยิ่งถ้าร้านอาหารนั้นๆ มีคอนเซ็ปต์ของตัวเองชัดเจน มีสไตล์การตกแต่งร้านที่ไม่เหมือนใคร แถมยังมีเมนูซิกเนเจอร์ที่มิควรพลาดด้วยประการใดๆ ทั้งปวง

ร้านอาหารนั้นๆ ก็จะได้รับความนิยม เพราะต้องโท.รสั่งจองล่วงหน้าถึงจะมีโต๊ะรับประทาน ประเภทวอล์กอินเดินดุ่มๆ เข้าไปคงต้องรอนานเสียหน่อย ดีไม่ดีอาจไม่มีที่นั่งก็ได้

ผมกำลังพูดถึงร้านอาหารในสวนของหลายๆ แห่งในต่างจังหวัดครับ อย่างร้านแรกที่ผมอยากแนะนำให้ท่านผู้อ่านรับรู้คือ “Little Tree Garden” ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร เพราะอยู่ลึกเข้าไปในซอยวัดนักบุญเปโตร ตรงข้ามกับซอยหมอศรี ใกล้ๆ กับโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

ร้านนี้อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่กว่าๆ ภายในร้านนอกจากจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมจนให้ความรู้สึกรื่นรมย์ หากยังตกแต่งร้านสไตล์วินเทจ บรรยากาศคล้ายๆ กับนั่งอยู่ในสวนของประเทศอังกฤษ

อาหาร และเบเกอรี่ของที่นี่เป็นโฮมเมดทั้งหมด ทำวันต่อวัน นอกจากนั้น ยังมีกาแฟ ชา และน้ำผลไม้อร่อยๆ อีกหลากหลายชนิด สำหรับโซนที่นั่งจะมีอยู่ 2 ลักษณะคือ ที่นั่งภายในสวนด้านนอก ซึ่งจะมีอยู่หลายโซนด้วยกัน เนื่องเพราะแต่ละโซนมีการออกแบบแตกต่างกัน ทั้งยังให้ความรู้สึกแตกต่างด้วย

ขณะที่อีกโซนหนึ่งจะเป็นห้องอาหารภายในสวนติดแอร์ แต่ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ที่ไม่เพียงจะให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในสวนของยุโรป หากยังทำให้โซนนี้กลายเป็นจุดเช็กอิน และกลายเป็นจุดถ่ายรูปของเหล่าบรรดาเซเลบรุ่นเยาว์ที่ต้องการอวดรูปของตัวเองในเฟซบุ๊กด้วย

ส่วนอีกร้านหนึ่ง แม้จะอยู่ไกลถึงอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าลูกค้าส่วนใหญ่กลับเป็นคนกรุงเทพฯ เพราะจุดเด่นของร้านนี้นอกจากอาคารร้านอาหารสีขาวสไตล์วินเทจที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนบ้านทรงยุโรป

หากเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ห้องน้ำ สวนภายนอก และสวนภายใน รวมไปถึงมุมต่างๆ ของอาคารร้านอาหาร ล้วนต่างทำให้ลูกค้ารู้สึกดุจเดียวกับว่าเรากำลังนั่งอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่งของยุโรปเป็นแน่

มิหนำซ้ำ อาหารคาวหวาน ชา กาแฟ และน้ำผลไม้ต่างๆ ล้วนถูกจัดวางในภาชนะสไตล์ยุโรปทั้งสิ้น ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่ร้านอาหารสไตล์ยุโรปที่ชื่อ “ร้านชีวิตธรรมดา” จึงเป็นร้านอาหารที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

เพราะอาหารที่นี่เป็นโฮมเมดทั้งสิ้น แม้จะอยู่ไกลออกจากตัวเมืองพอสมควร แถมยังเข้าไปค่อนข้างลึก ที่จอดรถก็ไม่ค่อยกว้างขวาง แต่เชื่อไหมว่า “ร้านชีวิตธรรมดา” กลับกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญของจังหวัดเชียงราย ที่ทุกคนมิควรพลาดอย่างยิ่ง

ถามว่าทำไมผมถึงยกตัวอย่างร้านอาหาร 2 ร้านนี้มาเล่าให้ฟัง?

คำตอบคือ ผมเห็นเทรนด์ร้านอาหาร และร้านกาแฟของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันล้วนต่างนำสวน นาข้าว หรือร่มไม้ใหญ่มาเป็นจุดขายสำหรับผู้บริโภคคนเมือง เพราะไม่เพียงจะทำให้ตื่นตาตื่นใจ หากยังทำให้จิตใจสงบ เพราะสวนเขียว นาข้าว หรือร่มไม้ใหญ่ของสถานที่เหล่านั้น ต่างทำให้ลูกค้ารู้สึกเบิกบานใจ

ยิ่งเมื่ออาหารคาวหวานต่างเป็นเมนูซิกเนเจอร์ ทุกอย่างทำจากครัวโฮมเมด ทั้งยังใช้วัตถุดิบชั้นดีที่มาจากแปลงผักอินทรีย์ของตัวเอง ยิ่งทำให้อาหารมื้อนั้นๆ เป็นที่ถูกอกถูกใจ จนทำให้ลูกค้าต้องกลับมาทานซ้ำแล้วซ้ำอีก

ที่สำคัญ หากร้านอาหาร แอนด์ กาแฟ ตกแต่งร้านน่ารัก มีธีมคอนเซ็ปต์ชัดเจนเหมือนกับทั้ง 2 ร้านนี้ยิ่งจะเพิ่มเสน่ห์ให้กับร้านมากขึ้นด้วย

สำคัญไปกว่านั้น หากร้านดังกล่าวมีสตอรี่เทลลิ่ง (Storytelling) ที่บอกกล่าวถึงที่มาที่ไปของเจ้าของร้านว่าเคยเป็นสถาปนิกมาก่อน หรือเป็นแอร์โฮสเตสมาก่อน

หรือไม่ก็เคยเปิดร้านอาหารอยู่เมืองนอกมาก่อน ยิ่งจะทำให้ลูกค้าอยากคุยกับเจ้าของร้านมากขึ้น เพราะการคุยกับเจ้าของร้าน ถ่ายรูปกับเจ้าของร้าน ถือเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งของผู้บริโภคที่อยากจะสื่อสารออกไปสู่ภายนอก

จนทำให้สื่อมวลชนแขนงต่างๆ อยากมาสัมภาษณ์ต่อในภายหลัง กระทั่งกลายเป็นการบอกต่อแบบปากต่อปาก เพราะใครๆ ต่างรู้สึกอยากมา

ใครๆ ต่างอยากมาเช็กอินเพื่อถ่ายรูป และใครๆ ต่างรู้สึกอยากมาลองเมนูซิกเนเจอร์ต่างๆ เหล่านั้นว่าอร่อยสมคำร่ำลือหรือไม่

แต่ทั้งหลายทั้งปวงราคาจะต้องไม่แพงเกินไป เพราะอย่างที่ทราบ การที่เขาเดินทางเข้ามารับประทานอาหารในร้านถือว่าค่อนข้างลำบากอย่างหนึ่งแล้ว หากที่จอดรถไม่มากพอ บริกรพูดจาไม่ดี บริการไม่ประทับใจ ต่อให้อาหารคุณจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่มาซ้ำอีก

แต่สำหรับทั้ง 2 ร้านนี้ตรงกันข้าม ทุกอย่างล้วนจัดอยู่ในเกรดเอทั้งสิ้น จนทำให้ผมรู้สึกว่าหากใครพอมีที่มีทาง ก็ลองออกแบบภูมิสถาปัตย์ดู กำหนดแปลนออกเป็นเฟสๆ ว่าเฟส 1 ปลูกอะไร เฟส 2 ปลูกอะไร โดยให้มีไม้ผลบ้าง พืชสวนครัวบ้าง ไม้ยืนต้นบ้าง และแปลงเกษตรบ้าง

เผื่อบางทีเมื่อต้นไม้เติบโตขึ้น จนกลายเป็นสวนสีเขียว และหากอยากจะเปิดร้านกาแฟ ร้านอาหารให้แทรกตัวอยู่ภายในการ์เด้นเหล่านี้ ความเป็นสีเขียว จากสิ่งที่เราปลูกจะกลายเป็นจุดขายที่ทำให้ลูกค้าอยากมา

ยิ่งหากใครมีเงินลงทุนมากพอ ก็ออกแบบโครงสร้างสถาปัตยกรรมให้ออกมาดูดีมีสไตล์ พร้อมกับออกแบบหน้าร้าน ครัวเปิด ให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เท่านั้นก็จะทำให้ร้านอาหารของเรามีเสน่ห์ขึ้นทันที

ยิ่งถ้าที่ดินของใครติดริมน้ำด้วย ถือว่าโชคดีอย่างมาก เพราะอย่างร้านชีวิตธรรมดาอยู่ติดกับริมน้ำกก เขาจึงตั้งโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งดื่มกินอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติ กระทั่งเป็นจุดขายหนึ่งของร้าน โดยเฉพาะยามเย็นที่ใครๆ ก็ล้วนต่างอยากมานั่งชิกชิลชิลกันตรงนี้

ผมจึงนำมาบอกเล่าให้คุณผู้อ่านฟัง เผื่อบางทีจะได้นำไอเดียไปปรับใช้กับการทำธุรกิจบ้าง

 หรือถ้าใครอยากเห็นรูปมากกว่าที่ลง ก็ลองเสิร์ชกูเกิ้ลหารูปจากทั้ง 2 ร้านได้เลย และจะเห็นว่า

ร้านของพวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0