รู้แล้วอยู่ไหน! เงิน16ล้าน ‘บิ๊กทิน’ยันทำตามกม. สั่งกองปรามลุยต่อ
จากกรณีนายจ่อเฮง อายุ 50 ปี นักธุรกิจค้าน้ำมันชาวเมียนมาและอีกหลายธุรกิจในฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา พร้อมนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง
เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ หลังเกิดเหตุสองพนักงานชายหญิงของนายจ่อเฮง ได้เดินทางนำเงินสดจำนวน 16 ล้านบาท ข้ามชายแดนมาเพื่อจะไปโอนค่าซื้อขายน้ำมันที่ธนาคารกลางอำเภอแม่สอด แต่ถูกตำรวจหน่วยหนึ่้งจับตัวไปพร้อมรถยนต์อย่างไม่ทราบชะตากรรม
อ่านข่าว ตะลึง! ซุกเงินสดเต็มรถ16ล้าน หนุ่มสาวขนข้ามแดน สายลึกลับโผล่เคลียร์
อ่านข่าว นักธุรกิจน้ำมัน ร้อง ลูกน้องหายพร้อม เงิน16ล้าน พบกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างจนท.ค้นรถ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ได้รับการรายงานการจับกุมจากตำรวจทางหลวงแล้ว ตนได้สั่งการให้นำเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมผู้ต้องหาส่งให้ตำรวจกองปราบปราม ทำสำนวนการสอบสวน
เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
พร้อมสั่งการให้นำกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจพิสูจน์เงินดังกล่าว พร้อมประสาน ปปง. ตรวจสอบหาเส้นทางการเงิน ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทั้งนี้ตำรวจทางหลวงมีอำนาจจับกุมตามหน้าที่ เพราะการขนเงินดังกล่าวเข้ามาเป็นความผิดตามกฏหมาย พรบ.ศุลกากร ผู้ที่นำเข้ามาไม่สามารถนำเอกสารหรือหลักฐานมายืนยันได้ โดยกำชับให้ทำตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดด้วย
ด้านพ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4.บก.ป.กล่าวว่า ผบช.ก.ได้สั่งการให้กองปราบรับทำสำนวนคดีดังกล่าว หลังจากตำรวจทางหลวง นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางเงินสดมาส่งให้ เบื้องต้นได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ พร้อมทั้งประสานปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน
สำหรับเงินดังกล่าวนั้น เบื้องต้นผิดพรบ.ศุลกากร เพราะการนำเงินจำนวนขนาดนี้เข้ามาในประเทศไทย ต้องแจ้งให้ศุลกากรทราบ ส่วนผู้ต้องหาหลังสอบสวนเสร็จ จะนำตัวส่งศาลอาญา ฝากขังต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังการจับกุมได้มีนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการนายหนึ่ง พยายามที่จะเข้ามาขอเคลียร์คดี โดยบังคับให้ตำรวจทางหลวงปล่อยตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง และไม่ต้องดำเนินคดี
แต่ตำรวจชุดจับกุมไม่ยินยอมเพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และ พล.ต.ท.สุทิน สั่งให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยให้ กก.4 บก.ป. สืบสวนขยายผลเนื่องจากสงสัยว่าเงินน่าจะได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
พร้อมทั้งกำชับให้ดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าจะเป็นใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลัง และได้รายงานความไม่ชอบมาพากลให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบแล้ว
