โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

รู้หรือไม่….เดิมทีหนังไม่ได้ชื่อ John Wick และเกือบจะไม่มีฉากหมาตาย

Beartai.com

อัพเดต 30 พ.ค. 2563 เวลา 12.54 น. • เผยแพร่ 30 พ.ค. 2563 เวลา 12.54 น.
รู้หรือไม่….เดิมทีหนังไม่ได้ชื่อ John Wick และเกือบจะไม่มีฉากหมาตาย
รู้หรือไม่….เดิมทีหนังไม่ได้ชื่อ John Wick และเกือบจะไม่มีฉากหมาตาย

วันนี้คงไม่มีคอหนังคนไหนไม่รู้จักชื่อ John Wick อีกแล้วละมั้ง จากโพรเจกต์หนังเล็ก ๆ ที่ทำกันในกลุ่มสตันท์แมนรุ่นเก๋าของวงการ ด้วยทุนสร้างภาคแรกเพียงแค่ 30 ล้านเหรียญ วันนี้หนังสานต่อมาได้ถึงภาค 3 แล้ว ทำรายได้รวมทั่วโลกทั้ง 3 ภาคแล้วสูงถึง 573 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างรวมที่ 110 ล้านเหรียญ ทำให้ชื่อของ John Wick กลายเป็นแฟรนไชส์ทรงคุณค่า ที่สานต่อโพรเจกต์อื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย ขยายกลายเป็นจักรวาล John Wick ไปแล้ว เพราะจะมีทั้ง Ballerina หนังภาคแยกที่ตามมา, Continental ทีวีซีรีส์ และ John Wick ภาค 4 ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติลงในภาคใด

ดีเร็ก โคลสแตด ผู้เขียนบทไตรภาค John Wick
ดีเร็ก โคลสแตด ผู้เขียนบทไตรภาค John Wick

ในวันนี้มีเกร็ดน่ารู้เบื้องหลังที่มาของชื่อหนัง John Wick ได้รับการเปิดเผยจาก ดีเร็ก โคลสแตด ผู้เขียนบทหนังทุกภาค ว่าเดิมทีนั้นหนังไม่ได้ชื่อนี้ แต่เป็นเพราะ คีอานู รีฟส์ เองนั่นแหละที่เป็นคนคิดชื่อหนังว่า John Wick

“เหตุผลเดียวที่เราได้ชื่อหนังว่า John Wick ก็เพราะ คีอานู เป็นคนเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา ทีมการตลาดเราได้ยินแล้วก็แบบว่า ‘โห นี่มันเหมือนกับได้โฆษณาฟรีมา 4 – 5 ล้านดอลลาร์เลยนะ งั้นเราใช้ชื่อ John Wick แทน Scorn เหอะ’ ซึ่งถึงตอนนี้ผมแทบนึกไม่ออกแล้วว่าถ้ายังใช้ชื่อ Scorn อยู่หนังจะเป็นยังไง”

ทีมการตลาดหมายถึง การขายชื่อตัวละครนำที่ได้ คีอานู รีฟส์ มารับบท ก็เหมือนข้อได้เปรียบในการโฆษณา ก็ต้องถือเป็นความดีความชอบอีกอย่างของ คีอานู รีฟส์ ที่เป็นผู้เสนอไอเดียให้หนังใช้ชื่อนี้ แล้วติดไปกับแฟรนไชส์หนังที่สืบทอดกันไปอีกยาว ๆ เรื่องนี้ก็ต้องถูกรวมเข้าไปอีกหนึ่งวีรกรรมของ คีอานู รีฟส์ ทีได้เคยสร้างสรรค์ไว้ก้บเพื่อนมนุษย์รอบตัวเขา

ว่าไปชื่อ Scorn(แปลว่า สบประหมาท, ดูหมิ่น, เหยียดหยาม) ก็ไม่ถือว่าแย่นักที่จะเป็นชื่อหนังแอ็กชันเรื่องหนึ่ง แต่อาจจะไม่ได้แรงเท่า John Wick ชื่อหนังแอ็กชันที่มีตัวเอกเป็นนักฆ่าจะต้องติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน ฉะนั้นชื่อ John Wick สามารถสื่อถึงคนดูได้ว่า เขาจะได้ดูเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร เรื่องราวของใคร แต่ชื่อ Scorn ยังไม่ครอบคลุมพอที่จะสื่อถึงตัวนักฆ่าคนหนึ่งที่แบกความแค้นจากการตายของหมาสุดที่รักของเขา ที่เป็นสาเหตุหลักให้อดีตนักฆ่าชื่อกระฉ่อนวงการผู้นี้ ได้หวนกลับคืนสู่วงการหลังจากเกษียณตัวเองไปแล้ว เรื่องการแก้แค้นให้หมานี่ก็เรียกได้ว่าเป็นตำนานที่ติดตัว จอห์น วิค ไปตลอด เป็นเรื่องราวที่แฟน ๆ ทุกคนของเขาจดจำกันได้ดี

ทางผู้เขียนเองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน เหตุการณ์ที่หมาของเขาถูกฆ่านั้น ดีเร็ก โคลสแตด ผู้เขียนบทก็คงเรื่องราวนี้ไว้ในบทภาพยนตร์ตั้งแต่ฉบับร่างแรก แม้ทีมเขียนบทจะช่วยกันพัฒนาเนื้อหาออกไปอีกกี่ร่าง แต่เรื่องราวหมาตายก็ยังต้องคงไว้ จนบทภาพยนตร์ไปถึงระดับผู้บริหารสตูดิโอ ซึ่งได้อ่านแล้วก็รู้สึกกังวลกับฉากหมาตาย เพราะเป็นธรรมเนียมที่รู้จักกันมาอย่างยาวนานในฮอลลีวู้ดว่า 2 เรื่องที่ควรหลีกเลี่ยงในหนังคือฉาก หมา กับ เด็ก ตาย การมีฉากนี้ในหนัง John Wick ก็เหมือนฝ่ากฏเหล็กของฮอลลีวู้ด ซึ่งทีมผู้บริหารแนะนำให้ตัดเรื่องหมาตายออกไป เพราะกลัวจะกระทบกระเทือนจิตใจคนดู

ฉากหมาตายสุดสะเทือนใจ
ฉากหมาตายสุดสะเทือนใจ

ฉากหมาตายนั้นมาจากไอเดียของ ดีเร็ก โคลสแตดเอง แต่ 2 ผู้กำกับ แชด สตาเฮลสกี และ เดวิด ลีตช์ ต่างก็พอใจแล้วพยายามโต้แย้งกับทีมผู้บริหารอย่างที่สุดเพื่อให้คงฉากหมาตายไว้
“ผมก็เข้าใจพวกเขานะว่าคงอยากจะทำสิ่งที่ถูกต้อง ตอนนั้นพวกเขาถึงกับเอ่ยปากว่า ‘ตัดฉากหมาตายออกไปเถอะ แล้วไปมุ่งเน้นเรื่องรวที่นักฆ่ากลับมาจากการเกษียณตัวเองแทน’ ประมาณนี้แหละ”
ดีเร็ก โคลสแตด เล่าเหตุการณ์ในวันนั้น

ดีเร็ก ยังเผยถึงความสำคัญของฉากหมาตายอีกว่า มันคือเหตุผลหลักที่ทำให้ จอห์น วิค หวนคืนสู่วงการและเป็นเรื่องราวสานต่อจนกลายเป็นแฟรนไชส์
“ถ้าไม่มีเรื่องหมาตาย ก็จะปราศจากเหตุที่อธิบายถึงจิตวิญญาณและตัวตนของจอห์น วิค ให้คนดูได้เข้าถึง มันคือแรงขับเคลื่อนของตัวละครหลัก มันคือกุญแจสำคัญเลยล่ะ”

แต่ทีมผู้บริหารก็ยังไม่ปลอดโปร่งใจที่จะปล่อยหนังไปแบบนี้ จนสรุปสุดท้ายให้มีการฉายหนังรอบทดลอง แล้วให้ปฏิกิริยาผู้ชมในรอบนี้เป็นตัวตัดสิน ซึ่งขณะนั้นทั้งสตูดิโอ และ ทีมงานต่างก็มั่นใจในเหตุผลของตัวเองว่าถูกต้อง
“แต่ถึงจุดนี้เราต่างต้องถอยหลังกลับไปกันคนละก้าวก่อน แล้วยอมรับมุมมองที่แตกต่างกัน จนมาถึงรอบทดลองฉาย พวกเราเฝ้ามองปฏิกิริยาผู้ชม พอถึงฉากหมาตาย เราก็สังเกตอาการผู้ชมแล้วก็ไปในทิศทางเดียวกันทั้งโรง พวกเราก็แบบว่า เย้ เรามาถูกทางแล้ว”

“สำหรับ John Wick นี่นับว่าเป็นหนึ่งในหนังน้อยเรื่องที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ พวกเราก็แค่อยากจะโต้แย้งไปตามสัญชาตญาณของพวกเรา แต่แล้วสุดท้ายมันก็ออกมาถูกต้อง”
ดีเร็ก โคลสแตด ทิ้งท้าย

ผู้อ่านคิดว่าอย่างไรบ้างล่ะครับ ถ้า จอห์น วิค ออกมาทวงรถคืนอย่างเดียว หนังจะดุเดือดประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ไหม

อ้างอิง
อ้างอิง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0