โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

รู้ยัง!! 7 สมุนไพรดีต่อผู้สูงอายุ

The Bangkok Insight

อัพเดต 13 ธ.ค. 2562 เวลา 01.54 น. • เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2562 เวลา 01.54 น. • The Bangkok Insight
รู้ยัง!! 7 สมุนไพรดีต่อผู้สูงอายุ

เมื่อประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างเต็มรูปแบบในปีหน้า และในอีก 20 ปีข้างหน้าจะโตเพิ่มสูงขึ้นอีกสองเท่า และไม่เพียงแต่ในประเทศไทย พอดีช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปดูงานที่ประเทศไต้หวัน บอกเลยว่า ประเทศไต้หวันในวันนี้เจริญแบบผิดตาไปมากกว่าที่เราคิด จะเห็นว่า ประเทศไต้หวัน เป็นจุดศูนย์กลางของเอเชียตะวันออก (จุดผ่านระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) อีกทั้งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิค กับทวีปเอเชียและยุโรป และยังติดอันดับเป็นประตูของ 4 มณฑลของประเทศจีนอีกด้วย อย่างที่เราเห็นภูมิประเทศ แม้ว่าไต้หวันมีพื้นที่ไม่มากก็จริงอยู่ แต่ก็มีความสำคัญในระดับนานาชาติไม่น้อยเลยค่ะ ด้วยความที่ตัวผู้เขียนเอง ชอบและทึ่งในความเจริญของประเทศนี้ ถ้าจะคุยเรื่องประเทศไต้หวัน สงสัยอาจต้องมีเปลี่ยนหัวข้อ (ไว้จะค่อย ๆ แชร์ให้อ่านกัน หรือติดตามได้ที่ Blog : http://bit.ly/38qfSUK อีกหนึ่งช่องทางได้เลยค่ะ)

คงจะปฏิเสธไม่ได้ที่ประเทศไต้หวัน เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ และยังมีระบบสวัสดิการทางสังคมที่ครอบคลุมเข้าถึง มีรายงานจาก Interior Affair Authority Taiwan จะสังเกตว่า คนจีนไต้หวันมีมาตรฐานชีวิตที่ดี และมีอายุยืนยาวมากขึ้น จากการที่ได้รับโภชนาการที่ดี และมียารักษาโรคที่ทันสมัย Bio Healthcare และแน่นอน อัตราเด็กเกิดใหม่ก็นับวันยิ่งน้อยลงและคงอยู่ในระดับต่ำ (เช่นเดียวกับประเทศไทยเลย) นี่คือเหตุผลว่า ทำไมประเทศไต้หวัน จึงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในเวลาอันรวดเร็ว!

จากความสามารถในการจับจ่ายของกลุ่มผู้สูงอายุในไต้หวันที่นับวันจะมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุจะเน้นในเรื่องการเลือกสรรสินค้าบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นยา ส่วนใหญ่เน้นเลือกที่ผลิตจากสมุนไพรไบโอเทคโนโลยี และเลี่ยงยาที่เป็นเคมี เฉกเช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่นญี่ปุ่น เกาหลี และไทย เป็นต้น อ่านมาถึงตรงนี้ เราจะเห็นว่า เกือบทุกประเทศที่เน้นในเรื่องการรักษาพยาบาลแบบแพทย์ทางเลือก เน้นการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ซึ่งตรงกับเทรนด์ของประเทศไทยเช่นกัน ที่เรามีทั้งทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติมากมาย ที่ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพและที่สำคัญดูแลสุขภาพระยะยาวได้ดีอีกด้วย

"สมุนไพรไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก" ขึ้นชื่อว่าสมุนไพรแล้ว ทุกคนย่อมทราบดีว่าช่วยดูแลบำรุงสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ ช่วยให้มีชีวิตยืนยาว ดูอ่อนกว่าวัย (แบบไม่ต้องโบท๊อกซ์ด้วยค่ะ) ด้วยคนเราเมื่ออายุมากขึ้น สุขภาพร่างกายที่เคยฟิต ก็ฟิตน้อยลง ร่วงโรยลงตามวัย เคยเดินทางต่างประเทศ ไม่เคยเหนื่อย ในวัยสูงอายุมากขึ้น กลับรู้สึกเหนื่อยแบบชนิดต้องพักเกือบอาทิตย์กว่าจะฟื้นตัวลุยงานต่อ นี่ยังไม่นับถึงกลุ่มอาการที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ความดันเลือดสูง ไขมันเลือดสูง ไขมันพอกตับ น้ำตาลในเลือดสูง โอ้ว..สารพัดโรค ถ้าเราไม่รู้เท่าทันดูแลร่างกายของเรา มาดูกัน 7 สมุนไพรไทยของเราที่ว่าดีต่อสุขภาพนั้นมีอะไรบ้าง ?

1. ขิง เป็นสมุนไพร ที่นำมาใช้รักษาโรคมากกว่า 5000 ปี ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยในการย่อยอาหาร ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยลดความดันโลหิตได้ดีอีกด้วย ที่สำคัญ ควรใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากขิงเป็นพืชที่มีฤทธิ์ร้อน หากรับประทานมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดร้อนใน และแผลในกระเพาะอาหารได้

2. ฟ้าทะลายโจร อีกหนึ่งสมุนไพรที่มากด้วยสรรพคุณทางยา โดยสรรพคุณในเรื่องการลดความดันโลหิต ซึ่งสถาบันวิจัย จุฬาภรณ์ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับฟ้าทะลายโจร พบว่า สารสกัดในฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิต ช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือด และลดการเต้นของหัวใจไม่ให้เร็วเกินไป

3. อบเชย เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม มีการวิจัยในประเทศญี่ปุ่น พบว่า อบเชยมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต โดยการนำผงอบเชยสำเร็จรูป หรือนำอบเชยมาบดให้เป็นผง ชงกับน้ำ ดื่มเช้า เย็น และก่อนนอน นอกจากอบเชยยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย

4. ใบบัวบก น้ำใบบัวบก นอกจากจะช่วยแก้อาการร้อนใน ช้ำในแล้ว ยังมีคุณประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะสรรพคุณในการลดความดัน แนะนำให้ดื่มน้ำใบบัวบกเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ความดันโลหิตลดลงได้

5. ตะไคร้ นอกจากจะมีสรรพคุณในเรื่องการขับถ่ายปัสสาวะ และขับลมแล้ว ยังช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย ที่สำคัญตะไคร้ ยังเป็นพืชสมุนไพร ที่หาง่ายและสามารถปลูกได้เองด้วย

6. ขึ้นฉ่าย เป็นสมุนไพรที่ฝั่งเอเชียนำมาใข้เป็นยาลดความดันต่อเนื่องมายาวนานกว่า 2000 ปี โดยชาวจีน และเวียตนาม เชื่อว่า การรับประทานขึ้นฉ่ายวันละ 4 ตัน จะทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยขึ้นฉ่ายกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา พบว่า ขึ้นฉ่ายมีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิตได้อย่างดี

7. สปอร์เห็ดหลินจือ MG2 เห็ดหลินจือ เป็นสมุนไพรจีนที่ถูกขนานนามว่า เป็นราชาสมุนไพร ที่หายาก และมีฤทธิ์ในการรักษาได้หลายอย่าง ด้วยเพราะสารออกฤทธิ์ในสปอร์เห็ดหลินจือ MG2 มีมากมาย โดยเฉพาะสารออกฤทธิ์ที่ชื่อว่า โพลีแซคคาไรด์ จะช่วยลดระดับความดันในเลือด ได้อย่างเห็นผลชัดเจนเพียงไม่กี่วัน อีกทั้งสารโพลีแซคคาไรด์ ยังช่วยชะลอการก่อตัวของเกล็ดเลือดและละลายลิ่มเลือด บรรเทาอาการของหลอดเลือดหัวใจตีบ บรรเทาอาการของหลอดเลือดสมองตีบ ได้อีกด้วย

จริง ๆ แล้วสมุนไพรไทยที่ดีต่อร่างกายยังมีอีกเยอะมากค่ะ แต่เลือกนำมาแชร์เพียง 7 รายการที่หาทำเองได้ง่ายและราคาไม่แพง อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากกว่าวัยอื่น ๆ และแน่นอน เพียงแค่เลือกทานอาหารนั้นยังไม่พอ ต้องเพิ่มการออกกำลังกายด้วยค่ะ เพื่อจะได้เป็นผู้สูงวัยที่ยังดูดี มีเสน่ห์น่าค้นหาแบบพรีเมี่ยม พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ

(credit : www.taiwannews.com.tw, www.kinn.co.th)
#KINN_Holistic_Healthcare

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0