ใช้แรงทำเงิน& ให้เงินทำงาน กดSubscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
หากใช้บริการผ่อน 0% เพราะแค่อยากซื้อ โดยไม่วางแผนว่าซื้ออะไร ซื้อทำไม หรือซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ ก็หมายความว่ากำลังโยนเงินที่หามาได้ทิ้งโดยไม่เกิดประโยชน์ และยังเป็นหนี้อีกต่างหาก เพราะผ่อน 0% อาจไม่ดีกับตัวเราอย่างที่คิดก็ได้ เพราะ…
*ผ่อน 0% ส่วนใหญ่เป็นของฟุ่มเฟือย *
ของหลายอย่างเคยซื้อมาแล้ว แถมบางชิ้นยังไม่ได้แกะมาใช้หรือใช้แค่ไม่กี่ครั้ง แต่พอเจอคำว่า “ผ่อน 0%” ก็ตัดสินใจซื้ออีก ผลก็คือ ซื้อของมาเกินความจำเป็น แต่ต้องก้มหน้าหาเงินไปผ่อนงวด
ผ่อน 0% ซื้อด้วยเงินอนาคต
“ผ่อน 0% ไม่มีดอกเบี้ย ทำไมจะไม่ซื้อ” แต่อย่าลืมว่าต้องผ่อนจ่ายทุกงวดจนกว่าหนี้จะหมด ซึ่งไม่ต่างจากการซื้อด้วยเงินอนาคต แถมอนาคตก็ไม่มีใครรู้ว่าจะหาเงินมาผ่อนได้หรือเปล่า จะตกงานแบบไม่ทันตั้งตัวมั้ย แต่เมื่อเข้าสู่ระบบผ่อน 0% ทุกสิ้นเดือนต้องจ่ายหนี้แน่นอน
ผ่อน 0% ห้ามเบี้ยว
ถ้าไม่จ่ายหนี้ตรงตามกำหนดหรือผิดเงื่อนไขก็ต้องเจอดอกเบี้ย เสียค่าปรับ ถูกทวงหนี้ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง นั่นแปลว่าจะไม่มีคำว่า 0% อีกต่อไป
ผ่อน 0% ทำลายแผนการเก็บเงิน
เดือน 1 ซื้อตู้เย็นแบบผ่อน 0% 10 งวด งวดละ 1,200 บาท
เดือน 2 ซื้อมือถือแบบผ่อน 0% 10 งวด งวดละ 2,000 บาท
เดือน 3 ซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบผ่อน 0% 3 งวด งวดละ 800 บาท
เมื่อรับเงินเดือนก็ต้องแบ่งเงิน 4,000 บาท ไปจ่ายหนี้ พอเดือนที่ 4 ก็หายใจคล่องขึ้น เพราะผ่อนเฟอร์นิเจอร์หมด แต่ยังมีภาระหนี้เหลืออีกเดือนละ 3,200 บาท และต้องจ่ายจนกว่าจะหมด
หากของที่ซื้อแบบผ่อน 0% เป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้ชีวิตประจำวัน และผ่อนชำระตามเงื่อนไขก็คงไม่มีปัญหา แต่หากซื้อเพราะอยากได้ อยากมี แสดงว่ากำลังโยนเงินที่หามาได้ทิ้งโดยง่ายดาย
ในทางกลับกัน ถ้านำเงิน 3,000 – 4,000 บาทไปลงทุนทุกเดือน เงินจะงอกเงยไปเรื่อยๆ และวันไหนมีความจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วนก็สามารถถอนออกได้ทันที โดยไม่ต้องไปขอกู้ยืมจากคนอื่น
ถ้าคิดจะผ่อน 0% ครั้งต่อไป ลองคิดสักนิดว่า…ซื้อเพราะจำเป็นต้องใช้ หรือเพราะแค่อยากได้อยากมีกันแน่!
