บุรีรัมย์- คืบหน้าเหตุระทึกกระบะตีนผีไล่ชน จยย. รถเก๋ง และกระบะ กลางเมืองบุรีรัมย์อย่างบ้าคลั่ง 10 คันรวด เจ็บ 9 ราย ล่าสุดตร.รู้ตัวคนขับแล้วเป็นผู้ป่วยจิตเวช ญาติจะพามอบตัว ขณะญาติเหยื่อชี้หากป่วยไม่ควรปล่อยขับรถ ร้องดำเนินคดีถึงที่สุด
วันนี้ (19 ม.ค.) ความคืบหน้าเหตุระทึกรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับด้วยความเร็วสูง ไล่พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขับอยู่บนถนน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ แล้วพุ่งชนรถจักรยานยนต์ และ รถกระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่ริมถนนใกล้กับตลาดไลฟ์ลี่ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะพุ่งชนท้ายรถเก๋งที่จอดติดไฟแดงบริเวณสี่แยกเสนสิริ ทั้งถอยหลังไปเหยียบรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟอีกหลายคันอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. คืนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีรถจักรยานยนต์ รถเก๋ง และรถกระบะพังเสียหายรวม 10 คัน มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 9 คน อาการสาหัส 2 คน ส่วนรถกระบะคันที่ก่อเหตุได้ขับหลบหนีไปท่ามกลางความมืด
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองุรีรัมย์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ออกติดตามรถคันดังกล่าวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งได้จากข้อมูลทั้งจากผู้ประสบเหตุ และเบาะแสจากภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ล่าสุดพบรถกระบะคันดังกล่าวแล้ว เป็นรถยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน กค-3992 บุรีรัมย์ ซึ่งมี นายนิรุทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาว ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เป็นคนขับ ซึ่งเบื้องต้นญาติได้ประสานมายัง พ.ต.ท.อนิรุทธิ์ ผดุงดี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เจ้าของคดี ว่า นายนิรุทธิ์ คนขับเป็นผู้ป่วยจิตเวช และญาติจะพาเข้ามามอบตัวเองในเร็วๆ นี้
ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายที่ถูกรถกระบะไล่ชน และพยานที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งจะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อประกอบสำนวนคดี ทั้งนี้ต้องรอสอบปากคำคนขับรถกระบะด้วย ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเจตนา หรือเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งเจตนาฆ่า หรือขับรถด้วยความประมาทต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
ด้านนายโสฬส เหง้าพรมินทร์ อายุ 25 ปี เจ้าของร้านอาหารในตลาดไลฟ์ลี่ บอกว่า หนึ่งในผู้ตกเป็นเหยื่อถูกรถกระบะคันดังกล่าวพุ่งชนเป็นลูกน้องที่ร้านของตนเอง หลังเลิกงานประมาณตี 1 ลูกน้องได้ขับรถจักรยานยนต์ไปรับแฟนสาว แล้วขับมาที่ตลาดไลฟ์ลี่อีกรอบ แต่พอใกล้จะถึงมีรถกระบะขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนรถลูกน้อง ที่ขับซ้อนแฟนสาวมาอย่างแรง จนทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์โดยเฉพาะแฟนสาวอาการโคม่าต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นตายเท่ากัน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากจะฝากถึงคนขับ และญาติคนขับรถคันดังกล่าวด้วยว่า หากรู้ว่ามีอาการป่วยหรือไม่ปกติ ไม่ควรจะมาขับรถบนท้องถนน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับผู้อื่นที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องมาตกเป็นเหยื่อบาดเจ็บล้มตาย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
