โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ดูดวง

รู้ชีวิต...ด้วยดวงดาว / "ศ. ดุสิต"/ดวงซับดวงซ้อน

มติชนสุดสัปดาห์

เผยแพร่ 26 พ.ค. 2561 เวลา 07.00 น.
รู้ชีวิต...ด้วยดวงดาว

รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว /“ศ. ดุสิต”

อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!

เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด ‘คลังโหร’

 

ดวงซับดวงซ้อน(ต่อ)

วิธีอ่านเรื่องซ้อนเรื่อง

 

“เรื่องซ้อนเรื่อง” นี้หมายถึงเรื่องที่จะดูนั้นมีการซ้อนกันอยู่ในเรื่องเดียว ซึ่งถ้าดูอย่างปกติก็จะดูยากหรือดูไม่ออกกันเลยก็ได้

เช่น สมมติว่าคุณทำงานอย่างหนึ่งอยู่แล้ว อาทิ เป็นข้าราชการมีระดับมีฐานะ แล้วอยู่ๆ เกิดมีเพื่อนคนหนึ่งมาชวนให้คุณลงทุนทำกิจกรรมอย่างหนึ่งกับเขา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะได้ผลดีมาก

เรื่องแบบนี้ถ้าดูอย่างปกติก็ต้องดูที่ภพกัมมะตามเคย แต่กัมมะของคุณนั้นเป็นข้าราชการอยู่แล้ว จะเอาภพกัมมะมาดูในเรื่องที่จะลงทุนใหม่นี้ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก

เจอเรื่องซ้อนเรื่องแบบนี้คุณจะทำยังไง?

มีวิธีแก้ครับ

วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดก็คือ คุณไม่ต้องไปสนใจกับกัมมะเดิมซึ่งเป็นเรื่องที่คุณรับราชการอยู่แล้วนั่นหรอก

แต่ไม่ใช่คุณทิ้งภพกัมมะเสียทีเดียวนะ เรายังต้องใช้ภพกัมมะอีกเหมือนกัน

แต่ต้องมาใช้ใน “ดวงใหม่” ครับ

เป็นดวงของการที่คุณจะลงทุนกับเพื่อนเรื่องนี้แหละ

คือเป็นดวงเฉพาะเรื่องนี้โดยตรงเลยทีเดียว

หรือจะพูดให้ฟังง่ายขึ้นก็คือ จะเรียกดวงนี้ว่า “ดวงขยายภพ” ก็ได้

 

ที่จริงผมเคยบอกเคยสอนเรื่องดวงขยายภพนี้มาก่อนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะลืมกันไปรึยัง และผมเห็นว่ามันเข้าชุดกับบทความชุดนี้ด้วยก็เลยเอาเรื่องนี้มาบรรจุไว้เพื่อให้อยู่ในชุดเดียวกัน

สำหรับคุณที่ยังไม่เคยรับฟังเรื่องดวงขยายภพมาก่อน ก็ติดตามต่อไปดังนี้ครับ

ดวงขยายภพมีวิธีใช้และวิธีสร้างดังนี้

ในการดูดวงนั้น คุณจะต้องผูกดวงกำเนิดของเจ้าชาตาขึ้นมาเสียก่อนเป็นปกติ แต่ในการดูจรนั้นคุณจะต้องสร้างดวงจรประจำปีขึ้นมาอีกดวงหนึ่ง

นี่ก็เป็นปกติเหมือนกัน เพราะดวงจรจะทำให้เรารู้ถึงภาวะชีวิตในปีปัจจุบันของเจ้าชาตานั้นได้ดีกว่าการดูด้วยดวงเดิมอย่างเดียว

แต่เมื่อทำดวงจรแล้ว ผลของการดูก็ยังไม่แจ่มแจ้ง เช่น เจ้าชาตามาถามว่า ไปสมัครงานไว้และจะไปสอบสัมภาษณ์ในอาทิตย์หน้านี่แหละจะผ่านได้เข้าทำงานหรือไม่

คุณดูในดวงแล้วว่าก็ตอบไม่ถูก เพราะดวงมันแสดงไม่ชัดเจนว่าจะสอบผ่านไหม จะได้งานไหม

แบบนี้คุณก็ต้องอึดอัดใจที่ตอบลูกค้าไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีแก้ด้วยการสร้างดวงขยายภพขึ้นมาดูอีกดวงหนึ่ง

 

การสร้างดวงขยายภพ

 

๑.ตรวจดูว่าตัวเรื่องที่ไม่ชัดเจนนั้นคือดาวอะไร เป็นเจ้าเรือนภพอะไร จำไว้

  1. ตรวจดูว่าวันที่เกิดของเจ้าชาตาในปีนั้น (ปีที่มาดูนั่นแหละ) ตรงกับวันเดือนปีอะไร แล้วเปิดปฏิทินดาวจับเอาวันนั้นมาผูกเป็นดวงชาตาขึ้นอีกดวงหนึ่ง (เพื่อใช้เป็นดวงขยายภพ)

  2. ตรวจดูดาวในข้อ ๑ ว่าสถิตอยู่ที่ราศีใด และมีสมผุสองศาในดวงนั้นเท่าใด นำดาวและสมผุสนั้นมาหาลัคนาสำหรับวางในดวงนั้น โดยใช้เวลาเกิดเดิมของเจ้าชาตา

เมื่อทำจบ ๓ ขั้นตอนตามนี้แล้ว ก็จะได้ดวงขยายภพมาช่วยคุณในการอ่านดวงละ แต่คุณต้องรู้ไว้ก่อนว่า ดวงนี้ไม่ใช่ดวงชาตาของเจ้าชาตานะ เป็นดวงที่แสดงวิถีครรลองของดาวที่เราจับมาวางลัคนานั่นแหละ เราจับดาวอะไรมาก็เป็นดวงของเรื่องนั้น จับดาวกัมมะมา ดวงนี้ก็เป็นดวงบอกเรื่องการงาน จับดาวเรื่องกดุมพะมา ดวงนี้ก็บอกเรื่องการเงิน ฯลฯ แล้วแต่ว่าเราจะต้องการ “ขยาย” เรื่องอะไรก็เป็นดวงของเรื่องนั้น

จะนำดวงนี้มาพยากรณ์ชีวิตของเจ้าชาตาไม่ได้ ใช้ตรวจเรื่องที่เราต้องการดูเท่านั้นเอง

 

วิธีอ่านดวง

 

เมื่อได้ดวงมาแล้ว การอ่านดวงจะต้องอ่านไปตามภพที่ปรากฏอยู่ในดวงเท่านั้น ไม่ใช่ไปจับที่ดาวตัวเรื่องที่เราเอามาวางลัคนา เช่น เราจะดูเรื่องการงาน เราก็จับที่ภพกัมมะของดวงขยายนั่นแหละเป็นตัวอ่าน จะดีหรือร้ายก็ว่าไปตามนั้น พูดง่ายๆ ก็คือ ใช้ลัคนาในดวงขยายนั่นเป็นตัวกำหนดภพที่เราจะดูในดวงนี้ทั้งหมด

แต่…

มีแต่อีกหน่อย และเป็นแต่ที่มีความสำคัญมาก นั่นก็คือ…ท่านให้เรากำหนด “ลัคนาของดวงจร” ที่เราถอดดาวมาสร้างดวงขยายนี้แหละเอาวางซ้อนลงในดวงนี้ด้วย แต่ไม่ได้ใช้ดูดวงด้วยนะ เพียงแต่ใช้ลัคนานี้เพื่อให้รู้ว่า ภพใหม่ที่เกิดขึ้นในดวงขยายนั้นมาจากภพเดิมที่เป็นอะไร

พูดง่ายๆ ก็คือ ภพในดวงขยายนั้นเดิมเป็นภพอะไรอยู่นั่นแหละ มาจากดีหรือร้าย ส่งเสริมหรือบั่นทอน ฯลฯ ก็ดูอย่างที่เราเรียกกันว่า “ดูภพซ้อน” นั่นแหละ จะได้ความละเอียดและถูกต้องมากขึ้นไปอีก

ตรงนี้แหละครับที่มือใหม่ส่วนมากมักจะงุนงงและทายไม่เป็น เนื่องจากมีความซับซ้อนที่บางครั้งยากจะเข้าใจ แต่ถ้ามีพื้นฐานดีแล้วก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ เพราะคงจะเข้าใจถึงวิธีการแบบนี้ดีแล้ว

การกำหนดลัคนาดวงจรซ้อนลงไปนี้ ไม่จำเป็นต้องเขียนตัวลัคนาลงไปในดวงให้ซ้ำกันก็ได้ มือเก่าแล้วคิดอยู่ในใจก็ได้ว่าลัคนาเดิมอยู่ราศีไหน และทำให้เกิดภพซ้อนกันอย่างไร ภพที่ต้องการดูนั้นมาจากไหน ดีขึ้นหรือเลวลงก็รู้ได้ในฉับพลันนั้นแหละ ไม่ยากอะไรเลย

จะทำดวงตัวอย่างให้ดูอย่างง่ายๆ พอเข้าใจ

 

เมื่อเราถอดดวงจรตามวันที่เกิด (แต่เป็นปีปัจจุบันที่เราต้องการดู) มาแล้ว เราก็จะเห็นดวงนี้ซึ่งเป็นดวงหญิง เกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน 2524  มาให้ผมดูเมื่อเดือนมกราคม 2553 อายุย่าง 30 ปี เรื่องที่มาให้ดูคือเรื่องการเงินที่ตอนนี้กำลังถูกเร่งรัดเพราะเอาบ้านไปจำนองไว้จะหมดอายุและเจ้าหนี้จะทวงเงินคืน ถ้าไม่ได้จะถูกยึดบ้าน

อยากรู้ว่าจะถูกยึดบ้านไหม (จะเห็นว่าเรื่องนี้มี 2 เรื่องคือ 1.ถูกเร่งรัดหนี้สิน 2.จะถูกยึดบ้านไหม)

ผมก็ทำดวงจรปี 2553 นี้ขึ้นมาตามดวงจรที่เห็น

ได้ดวงจรมาแล้วผมก็ดูไปตามรูปเรื่อง ก็เห็นว่าในปีนี้มีราหูเล็งลัคน์ซึ่งโบราณถือว่าไม่ดีนักสำหรับดวงจรแต่ก็ไม่น่าจะเสียหาย เพราะราหูเป็นเจ้าเรือนศุภะจรอยู่

แต่เพื่อให้แน่ใจ ผมก็ตรวจต่อไปยังจังหวะสอง คือดูว่าพฤหัสฯ เจ้าเรือนปัตนิ (หมายถึงฝ่ายตรงข้าม) นั้นไปสถิตเป็นเกษตรที่ภพกัมมะ โอ-มันไม่ค่อยดีก็ตรงนี้เอง และพฤหัสมีมฤตยูตัวทำลายกุมอยู่ด้วย

ผมดูต่อไปอีก ปรากฏว่าพฤหัสฯ ตัวนั้นมีเสาร์เล็งอยู่ที่ราศีกันย์ เสาร์นั้นเป็นเจ้าเรือนมรณะ เจ้าแห่งความสูญเสีย

และในเรือนเสาร์นั้นก็มีดาวจันทร์เจ้าเรือนกดุมพะซึ่งหมายถึงการเงินลอยอยู่ เท่ากับภาวะการเงินอยู่ในเกณฑ์สูญเสียด้วย

และถ้าเอาดวงเดิมเข้ามาจับ ภพมรณะจรปีนี้ก็คือภพตนุเดิมนั่นเอง

จึงเท่ากับ ตนุตกมรณะ ตัวเองมีสิทธิ์ที่จะต้องสูญเสียอะไรสักอย่างแน่

อยากจะตอบออกไปว่า คุณคงจะถูกยึดบ้านแน่แต่ก็ไม่กล้าบอก ผมไม่อยากทำให้ลูกค้าเป็นทุกข์หนักขึ้นอีก

จึงลองทำดวงขยายภพขึ้นมาดู ตรวจดูแล้วตัวที่สำคัญในเรื่องนี้ก็คือดาวเสาร์เจ้าเรือนมรณะที่ไปอยู่ราศีกันย์เรือนพุธ และพุธไปลอยอยู่ที่ราศีพิจิกภพอริ ซึ่งทำให้เป็นปัญหาหนักขึ้น

จึงตรวจดาวเสาร์ในดวงจรปรากฏว่ามี 16.22 องศาในราศีกันย์

ถ้าเป็นดวงจรปกติผมจะต้องผูกดวงจรในวันที่เกิดของเจ้าชาตาขึ้นมาอีกดวงหนึ่งเป็นดวงขยายภพ แต่ดวงจรประจำปีที่ผมใช้ดูดวงนี้อยู่ก็เป็นดวงที่สร้างจากวันที่เกิดของเจ้าชาตาอยู่แล้วจึงไม่ต้องทำดวงขึ้นใหม่ เพียงแต่เอาดาวตัวเรื่องในดวง (เสาร์) มาจับสมผุสเพื่อหาลัคนาใหม่เท่านั้น

เจ้าชาตาเกิดเวลา 11.50 น. เมื่อเอาดาวเสาร์ 16.22 องศาราศีกันย์มาหาลัคนาก็ได้ลัคนาสถิตที่ราศีธนู ตกนวางค์ศุกร์ ๖ ตรียางค์ ๕ พิษนาค ทลิทโทฤกษ์

ปรับเป็นดวงขยายภพได้ดังนี้

 

อย่าลืมนะครับว่าดวงนี้เป็นดวงขยายภพ ไม่ใช่ดวงของเจ้าชาตา ฉะนั้น จะดูแบบเป็นดวงชาตาของเจ้าตัวไม่ได้ แต่ต้องดูในฐานะของดาวที่เราเอามาผูกขยาย (คือดาวเสาร์ ๗)

ในที่นี้เราใช้ดาวเจ้าเรือนมรณะมาขยาย จึงเป็นดวงดาวมรณะที่จะเกี่ยวพันกับเรื่องการเงินที่เจ้าชาตาถามถึง (จะเสียบ้านไหม)

ความสำคัญอีกอย่างที่คุณต้องจำไว้ก็คือ ผมได้บอกไว้แล้วว่า ให้เรากำหนดลัคนาของดวงจรไว้ในใจด้วยเพื่อตรวจกับภพในดวงขยายนี้ว่ามาจากภพอะไรในดวงจร (ลัคนาดวงจรสถิตที่ราศีมิถุน) ดังนั้น เราจึงเห็นได้ว่า ภพกดุมพะของดวงขยายนี้ก็มาจากภพมรณะของดวงจรนั่นเอง

เรียกว่า มรณะเป็นกดุมพะ อ่านว่ามีความสูญเสียเป็นรายได้ ดาวเสาร์ที่เป็นดาวหลักซึ่งเรานำมาใช้เป็นตัวขยายนี้ เดิมเป็นเจ้าเรือนมรณะแต่ในดวงขยายทำหน้าที่กดุมพะ ไปลอยอยู่ในภพกัมมะ

เท่ากับ กดุมพะตกกัมมะ อ่านว่ามีรายได้จากการกระทำ และภพกัมมะดวงขยายนี้เดิมเป็นภพพันธุของดวงจรอยู่ จึงเท่ากับพันธุเป็นกัมมะ อ่านว่าบ้านจะเกิดกิจกรรม หรือกิจกรรมที่เกี่ยวกับบ้าน คือจะมี Action เกี่ยวกับบ้านนั่นเอง

เอ้า-ดูที่ภพพันธุของดวงขยายอีกที เพราะนี่เป็นตัวเรื่องแท้ๆ ภพพันธุนี้อยู่ที่ราศีมีน มีดาวพฤหัสฯ ครองเป็นเกษตรและกุมมฤตยูอยู่ ดูตามดาวก็บ่งถึงความแตกดับของบ้าน (พฤหัสฯ) อยู่แล้ว เมื่อเป็นเกษตรก็บอกถึงความมั่นคง คือแตกแน่ๆ

ที่ว่าแน่ๆ นั้นก็เนื่องมาจากดวงนี้เป็น ดวงขยายมรณะ

ดังนั้น ความมั่นคงจึงบ่งถึงการสูญเสียที่แน่นอนนั่นเอง

มีจุดดีอยู่แห่งหนึ่งในดวงขยายมรณะนี้ คือดาว ๑๖ ที่สถิตอยู่ราศีตุลอันเป็นภพลาภะของดวงขยายนี้ ๖ นั้นเป็นเกษตรอันแสดงถึงว่ามีลาภะแน่ และเมื่อตรวจดูจากลัคนาของดวงจรราศีนี้ก็เป็นปุตตะของดวงจร

จึงเท่ากับราศีนี้เป็น ปุตตะ-ลาภะ อ่านว่าผลประโยชน์ที่ได้จากการเสี่ยง

นั่นหมายถึงเจ้าชาตามีโอกาสที่จะมีรายได้จากความสูญเสียครั้งนี้บ้าง ก็ด้วยการนำบ้านนี้ไปจำหน่ายแก่ผู้อื่นเสียก่อน แล้วจึงนำเงินที่ได้นั้นมาคืนให้แก่ผู้รับจำนอง

ซึ่งวิธีนี้อาจจะมีเงินเหลืออยู่บ้างพอเป็นรายได้ ไม่ต้องถูกยึดไปทั้งหลังอย่างที่ควรจะเป็น

สรุปก็คือ ตามตัวอย่างนี้เจ้าชาตามีสิทธิ์เสียบ้านให้แก่เจ้าหนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ดวงขยายก็ชี้ช่องทางให้เห็นถึงการที่จะได้ประโยชน์จากบ้านนี้บ้างเท่านั้น

ผมก็อธิบายมาอย่างยืดยาว เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการใช้ “ดวงขยายภพ” นี้ ซึ่งก็บอกไว้แล้วว่ามันมีความซับซ้อนไปมาอยู่ไม่น้อย แต่ผมก็คิดว่าคงจะมีผู้ที่มีพื้นฐานดีและเข้าใจในวิชานี้ได้อย่างที่ผมตั้งใจไว้บ้างแน่ ก็ขอภาวนาให้เป็นเช่นนั้น พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0