โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

รู้จักกันหรือยัง! " Personal Color 3 ขั้นตอนหาโทนสีเสื้อผ้าให้เข้ากับตัวเอง " ช่วยเพิ่มออร่าให้ลุคปังขึ้น!

SistaCafe

อัพเดต 24 ต.ค. 2562 เวลา 11.57 น. • เผยแพร่ 21 ต.ค. 2562 เวลา 02.51 น. • -N

เวลาซื้อเสื้อผ้าสาวๆ เป็นกันไหมจ๊ะ นางแบบใส่ทำไมสวยจัง แต่พอเราซื้อกลับมาใส่มั้ง ไหงภาพไม่ตรงปกไม่รอดเอาซะงั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่างอย่างเดียวนะ เพราะ " โทนสี " ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน การเลือกสีเสื้อผ้าเพื่อนๆ อาจจะเลือกจากโทนสีที่ชอบ หรือเทรนด์สีที่กำลังมาแรง แต่รู้ไหมว่าการเลือกตามใจในลักษณะนั้นมันยังไม่เพียงพอจะหาเสื้อผ้าสีที่เหมาะกับเราได้
วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ มารู้จักสิ่งที่เรียกว่าPersonal Color หรือการวิเคราะห์โทนสีให้เหมาะกับเรา เพื่อจะได้เลือกสีเสื้อผ้าที่ช่วยส่งเสริมให้ลุคของเพื่อนๆ มีออร่ายิ่งขึ้น โดยปกติแล้ว การวิเคราะห์สีเขามีการทำอย่างจริงจังเลยนะคะ ช่วงนี้กลายเป็นเทรนด์ฮิตมากๆ ที่ประเทศเกาหลี แถมมีค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ด้วย เวลาทำจะให้คนที่ทำใส่เสื้อขาวและไม่แต่งหน้า เพื่อให้ผลการวิเคราะห์เที่ยงตรงที่สุด พอเรารู้โทนสีของตัวเองแล้วก็จะสามารถใช้ได้ไปตลอดชีวิตเลย!!

แต่สำหรับบทความนี้เราจะชวนเพื่อนๆ มาสำรวจ Personal Color หรือวิเคราะห์สีของตัวเองในขั้นพื้นฐาน เพื่อที่จะได้เป็นไกด์เล็กๆ ให้เราเลือกแมทช์เสื้อผ้า หรือทำสีผมให้เข้ากับตัวเองได้ ถ้าพร้อมแล้วก็ลองไปเช็คกันเลยดีกว่าว่าตัวเองเหมาะกับโทนสีไหนใน
รู้จักกันหรือยัง! " เทคนิค Personal Color 3 ขั้นตอนหาโทนสีเสื้อผ้าให้เข้ากับตัวเอง "
ช่วยเพิ่มออร่าให้ลุคผ้าหน้าผมปังขึ้น!

 

►1. รู้จักโทนสีผิวของตัวเอง ◄

สิ่งแรกที่เพื่อนๆ ต้องรู้ก่อนเลยก็คือ undertone ผิว ของแต่ละคนค่ะ สำหรับใครที่แต่งหน้าก็น่าจะพอรู้อยู่บ้างว่าผิวแต่ละคนมีโทนสีที่ต่างกัน เราต้องรู้จัก undertone ของตัวเองเพื่อจะเลือกสีรองพื้นให้เข้ากับผิวหน้าที่สุด กรณีนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ undertone ที่แตกต่างกัน ก็ต้องเลือกสีเสื้อผ้าที่แตกต่างกันไปด้วย สีที่เหมาะสมกับ undertone ผิวของเราก็จะทำให้ลุคของเราดูโดดเด่นขึ้น
การหา undertone ปกติของคนเราก็จะสามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากเส้นเลือดบริเวณข้อมือค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
1. cool tone โทนเย็นหรือผิวขาวชมพู ( เส้นเลือดสีน้ำเงินหรือม่วง ) 
2. warm tone โทนร้อนหรือผิวขาวเหลือง ( เส้นเลือดสีเขียว )
3. natural tone โทนกลาง ( เส้นเลือดผสมกันทั้ง 2 โทน )

จริงๆ ารหา undertone ก็สามารถรู้ Personal Color เบื้องต้นได้แล้ว**ค่ะ คนที่มี undertone เป็นโทนเย็นสามารถสวมใส่สีสดใสได้เกือบทุกสี เว้นแต่สีเหลือง น้ำตาล  ขี้ม้า กากี ในขณะที่คนที่มี undertone เป็นโทนร้อนนั้น สามารถสวมใส่สีสดเกือบทุกสี ทุกเฉด เว้นแต่สีฟ้า น้ำเงิน กรม เขียวหัวเป็ด บานเย็น และสีดำ และสุดท้ายสำหรับคนที่มีundertone เป็นโทนกลางนี่ถือว่าโชคดีมากเลยค่ะ เพราะใส่สีอะไรก็เรียกว่ารอดหมด อิจฉาจังแม่
หากแต่อยากจะรู้จัก  Personal Color ของเราให้ชัดเจนขึ้น ก็ต้องหาเพิ่มเติมในขั้นตอนต่อไปอีกค่ะ ถงจะชัวร์และได้โทนสีที่เหมาะกับเรามากที่สุด

►2. รู้จักฤดูสีของตัวเอง ◄

ตามหลักการวิเคราะห์สีหรือPersonal Color เขาแบ่งเอาไว้เป็น 4 ฤดู ตามการเปรียบเทียบฤดูกาล ได้แก่Summer , Winter , Autumn และ Spring หลังจากเราหา undertone สีผิวเราได้แล้วก็จะสามารถเช็คได้ค่ะ ว่าเราเป็นสาวฤดูอะไรสาวโทนเย็นจะเป็นสาวฤดู Summer, Winter และสาวโทนร้อนจะเป็นสาว Spring, Autumnค่ะ
แต่หากยังไม่ละเอียดเราลองไปดูลักษณะที่ชัดเจนยิ่งขึ้นของสาวๆ ทั้ง 4 ฤดูกันเลยดีกว่าค่ะ จะได้ชัวร์ว่าเพื่อนๆ เป็นสาวฤดูไหนกันแน่

Summer
สีเส้นเลือด   :   สีน้ำเงินหรือม่วง  
สีผิว           :   ผิวขาวอมชมพู หรือผิวคล้ำโทนแดง หากโดนแดดจัดๆผิวก็จะกลายเป็นสีแดง แต่กลับคืนสู่สภาพเดิมได้รวดเร็ว
สีตา           :    สีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม
Winter  
สีเส้นเลือด   :   สีน้ำเงินหรือม่วง  
สีผิว         :   ผิวขาวเหลือง ขาวซีด หรือถ้าเป็นคนผิวคล้ำ สีผิวก็จะเป็นน้ำตาลเข้มหม่นไปเลย
สีตา           :   สีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม

Spring  
สีเส้นเลือด   :   สีเขียว  
สีผิว           :   สีผิวโทนเหลืองนวล หรือ ผิวสีน้ำผึ้ง
สีตา           :   สีน้ำตาลอ่อน
Autumn
สีเส้นเลือด   :   สีเขียว
สีผิว           :    สีผิวโทนเหลืองวานิลลาเหมือนงาช้าง หรือ ผิวสีแทน
สีตา           :    สีน้ำตาลเข้ม

► 3. เลือกสีเสิ้อผ้าให้เหมาะกับฤดูของตัวเอง ◄

【 สาว Summer 】

อย่างที่บอกไปว่าสาวๆ ฤดูนี้สังเกตได้จากสีผมไม่ดำมาก ตาสีดำ-เทาดำ ผิวขาวอมชมพู
สีที่เหมาะสำหรับสาวฤดูร้อน : เสื้อผ้าสีพาสเทล สีโทนอ่อนและเป็นสีพื้นมากที่สุด เช่น ใส่เสื้อสีม่วงอ่อน และฟ้าอ่อน สีอ่อนที่มีอันเดอร์โทนชมพูกุหลาบ
สีต้องห้ามสำหรับสาวฤดูร้อน : คือ สีทอง หลีกเลี่ยงสีดำและสีส้ม หรือสีสดๆ

 

【 สาว Winter 】

สาวฤดูนี้จัดอยู่ในสีโทนเย็น สังเกตได้จากคนที่ผมดำเข้ม ตาดำ-ดำเข้ม ผิวขาว หรือขาวอมชมพู
สีที่เหมาะกับสาวฤดูหนาว : เสื้อผ้าสีจัดจ้านหรือสีเข้มอย่าง ชมพูเข้ม เขียวเข้ม น้ำเงินเข้ม เหลืองจัด หรือ สีเงิน สีดำ กรมท่า ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูโมเดิร์น
สีต้องห้ามสำหรับสาวฤดูหนาว : สีเบจ สีส้ม และสีอื่นๆ ที่เป็นสีโทนซีดอ่อน

 

【 สาว Spring 】

สาวฤดูใบไม้ผลิสังเกตได้จากผมสีน้ำตาลอ่อน ตาสีดำ-น้ำตาล ผิวขาวเหลือง
สีที่เหมาะกับสาวฤดูใบไม้ผลิ : เหมาะกับเสื้อผ้าอันเดอร์โทนเหลืองและส้ม  เช่น พีช เหลืองน้ำตาล สีแสด สีสว่างสดใส อย่างสีส้มอ่อน, เหลืองอ่อน, ตองอ่อน, น้ำตาลอ่อน หรือ สีเนื้อ
สีต้องห้ามสำหรับสาวฤดูใบไม้ผลิ : หลีกเลี่ยงสีเข้ม ที่ตัดกับสีผิวชัดเจน เช่น สีดำ คือสีต้องห้ามสำหรับสาวฤดูใบไม้ผลิ

 

【 สาว Autumn 】

สาวฤดูใบไม้ร่วงจัดอยู่ในสีโทนเหลือง สังเกตได้จากสาวผมสีน้ำตาลเข้ม ตาสีดำ-น้ำตาลเข้ม ผิวออกคล้ำหรืออมเหลือง
สีที่เหมาะกับสาวฤดูใบไม้ร่วง : เหมาะกับเสื้อผ้าสีโทนอุ่นและเข้ม แนวเอิร์ธโทน เช่น สีกาแฟ คาราเมล เบจ สีแดงเลือดนก เขียวขี้ม้า
สีต้องห้ามสำหรับสาวฤดูใบไม้ร่วง : หลีกเลี่ยงสีสดใส สีที่สว่าง

_

 
บอกแล้วว่าโทนสีที่ชอบอาจไม่ได้เป็นสีที่ใช่เหมาะกับโทนสีผิวของเราก็ได้นะคะ รู้แบบนี้ต้องรีบไปเช็คฤดูสีของตัวเองซะแล้ว จะได้เลือกสีเสื้อผ้าให้เหมาะกับธรรมชาติของสีผิวตัวเองกันไงคะ 
การเลือกที่ที่เหมาะกับเราจริงๆ ก็จะช่วยให้ลุคดูดีขึ้น สีจะช่วยผลักความโดดเด่นในตัวเราออกมาได้ด้วยนะ วันนี้ไปก่อนแล้วจะรีบไปหาเสื้อผ้าใหม่ให้ตรงกับฤดูสีของตัวเองก่อนนน บ้ายบายยย 

ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0