รีวิว Samsung Galaxy S20 Ultra 5G กล้อง 108MP ที่มาพร้อม Space Zoom 100X จัดเต็มวีดีโอ 8K สิ้นสุดการรอคอย กับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ ซัมซุง ที่รอบนี้เปิดตัวมาเป็นกองทัพเลยครับ ได้แก่ Samsung Galaxy S20, Galaxy S20+ และ Galaxy S20 Ultra 5G ซึ่งในวันนี้ผมจะมารีวิวสมาร์ทโฟนตัวท็อปที่มีกระแสตอบรับแรงที่สุดในตอนนี้ อย่าง Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ให้อ่านกันครับ หลายคนต่างตกตะลึงในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ที่ดูเรียบหรู หน้าจอเปลี่ยนมาใช้หน้าจอโค้ง 2.5D แทนที่หน้าจอโค้งแบบรุ่นก่อนๆ ช่วยให้ติดกันรอยได้ง่ายยิ่งขึ้น และกล้องหลัง 4 เลนส์เทพ ที่มีความพิเศษเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่รวมเอากล้องความละเอียดสูง 108MP มารวมเข้ากับกล้อง Periscope ความละเอียด 48MP และกล้อง 3 มิติ TOF เข้าด้วยกัน แถมพกพาพลังในการซูมที่น่าทึ่ง ช่วยให้สามารถทำ 10x optical zoom ได้ และยังจะมาพร้อม 100x digital zoom ซูมกันสุดๆ ไปเลยครับ! นอกจากนี้ยังรองรับ 5G เป็นรุ่นแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยในรุ่นนี้จะรองรับสัญญาณคลื่น 2600 MHz นะครับ
ในเมื่อได้สมาร์ทโฟนเทพๆ อย่าง Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มารีวิว ก็ต้องหาน้องนางแบบเทพๆ ให้เข้าคู่กัน วันนี้ผมจะพา "น้องมุก - มุกรดา" ไปรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะครับ สำหรับราคาสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่ที่ 39,900 บาท สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. ไปจนถึงวัที่ 5 มี.ค. 2563 โดยใครที่สั่งจอง Samsung Galaxy S20+ และ Galaxy S20 Ultra 5G รับฟรีทันที! Samsung Galaxy Buds+ มูลค่า 4,990 บาท บอกก่อนว่ารุ่นนี้เสียงดีกว่าเดิม และน่าใช้มากๆ ต้องรีบกันแล้วนะครับ
ก่อนอื่นขอพูดถึง หูฟังอัจฉริยะ Samsung Galaxy Buds+ รุ่นใหม่ล่าสุดตัวนี้กันสักหน่อย สำหรับรุ่นนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ดื่มด่ำกับเพลง และพอดแคสต์ที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มอิ่ม ด้วยระบบเสียงจาก AKG คุณภาพเสียงดีกว่ารุ่นเดิมชัดเจน ใครที่อยากอัปเกรดคุณภาพเสียงหูฟังตัวโปรดไม่ควรพลาด มีดีไซน์คล้ายเดิม แต่เปลี่ยนมาใช้วัสดุมันเงา น้ำหนักรวมเคสมากกว่าเดิมนิดหน่อย (น่าจะมาจากแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงขึ้น) สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม โดยสามารถฟังต่อเนื่องได้ถึง 11 ชั่วโมง และเมื่อใช้พร้อมกับเคสสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 22 ชั่วโมง (มากกว่ารุ่นเดิมเกือบ 2 เท่า) พร้อมด้วยการรองรับชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย ชาร์จเพียง 3 นาทีแต่ใช้งานได้นาน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งานแบบ Multi Device มาพร้อมลำโพงแบบ 2 ทิศทาง และไมโครโฟน 3 ตัวเสียงสนทนาคมชัดกว่าที่เคย แถมยังรองรับ Spotify เป็น Native Application มาให้เลยสำหรับรุ่นนี้ครับ มีระบบสัมผัสที่รองรับแอปพลิเคชั่นนี้โดยเฉพาะ ราคา 4,990 บาท โดยหูฟัง Samsung Galaxy Buds+ ทั้ง 3 สี ดำ, ขาว, ฟ้า จะวางจำหน่ายในวันที่ 16 มี.ค. 63 ใครอยากได้แนะนำว่าไปจอง Samsung Galaxy S20+ หรือ Galaxy S20 Ultra ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. - 5 มี.ค. 2563 จะได้เป็นของแถมไปฟรีๆ ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
การถ่ายภาพ เปิดฉากรีวิวมาที่การถ่ายภาพก่อนเลยครับ เพราะเป็นจุดขายที่เรียกได้ว่าเป็น "พระเอก" ของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G เลยละครับ สำหรับรุ่นนี้มาพร้อม กล้องหน้า Cinematic Infinity O Display ความละเอียดสูง 40MP F2.2 รองรับ Dual Pixel PDAF และกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดดังนี้ครับ
- 108MP F1.8, (wide), Dual Pixel PDAF, OIS
- 48MP F3.6, (Periscope), PDAF, OIS, 10x optical zoom, 100x digital zoom (Space Zoom)
- 12MP F2.2, (ultrawide), AF, Super Steady video
- TOF 3D camera
เป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนเครื่องนึงจะรวมเอาการทำงานร่วมกันของ Hybrid Optic Zoom, Super Resolution Zoom และ AII-powered digital Zoom มารวมเป็นหนึงเรียกว่า Space Zoom ซึ่งใช้ AI มาช่วยการประมวลผลภาพ หลายภาพเข้าด้วยกันในขณะซูม ทำให้สามารถซูมได้หลายระยะ โดยมีระยะซูมสูงสุดถึง 100x ใน Samsung Galaxy S20 Ultra และ 30x ใน Galaxy S20 และ Galaxy S20+ (digital zoom) โดยจะแบ่งออกเป็น 0.5x, 1x, 2x, 4x, 10x, 30x, 100x แถมยังรองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 8K เป็นครั้งแรกของโลกด้วยครับ เรียกได้ว่าเป็นผู้นำเทรนด์ Super VDO Camera Smartphone และมาพร้อมฟีเจอร์จับภาพนิ่งแยกออกมาจากคลิปเรียกว่าฟีเจอร์ 8K VDO SNAP ช่วยให้เราได้ทั้งวีดีโอคุณภาพสูง และภาพนิ่งความละเอียดสูง ที่สวยงามในเวลาเดียวกัน ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ที่สุดของซัมซุง ผนวกกับระบบกล้องใหม่ล่าสุด และนำ AI เข้ามาใช้ประมวลผล ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบเล่น Social Media ในหลายแพลตฟอร์ม อาทิ IG, Facebook, Twitter, YouTube เป็นต้น
นอกจากนี้ในการบันทึกวีดีโอยังรองรับฟีเจอร์กันสั่น Super Steady ที่ป้องกันการสั่น รวมถึงการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวด้วย AI เหมือนกับ Samsung Galaxy S10 Series และ Galaxy Note 10 Series โดยจะรองรับสูงสุดที่ความละเอียด Full HD 1080P นะครับ
ในการถ่ายภาพ ยังมาพร้อมฟีเจอร์เท่ๆ อย่างโหมดถ่ายภาพอัจฉริยะ Single Take ให้ผู้ใช้งานได้ทั้งภาพถ่าย และวิดีโอในรูปแบบที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Hyper Lapse, Boomerang มากสูงสุด 14 แบบ (แต่ละครั้งที่ถ่ายจะได้ภาพไม่เท่ากัน) ผ่านการกดบันทึกในช็อตเดียว ไม่ว่าจะเป็นแบบ Live Focus, Cropped, Ultra Wide กว้างถึง 120 องศา โดยผ่านเทคโนโลยีกล้อง AI ผมเชื่อว่าจะต้องชอบกันอย่างแน่นอน เพราะมันถ่ายได้สนุกมากๆ สามารถนำภาพไปแชร์ได้อย่างหลากหลาย แถมใช้งานง่ายมากๆ อีกด้วย
และฟีเจอร์เด็ดที่ทำให้เราไม่ต้องง้อโปรแกรมแต่งรูป Custom Filter ใครที่อยากได้ Preset สวยๆ เพียงแค่ดาวน์โหลดภาพต้นฉบับมา จากนั้นก็เลือกฟิลเตอร์ส่วนตัว เพียงแค่นี้ก็จะได้ฟิลเตอร์ที่เราชอบมาใช้ในการถ่ายภาพแล้วครับ (ใช้ในการถ่ายภาพเท่านั้น ไปแต่งโทนรูปที่ถ่ายแล้วภายหลังไม่ได้) ผมเชื่อว่าจะเป็นเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมอย่างแน่นอน
สำหรับคุณภาพรูปถ่ายจากกล้องของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G นั้นดูน่าสนใจมากๆ ด้วยความละเอียดกล้องหลัก 108MP จะซูมภาพ หรือนำไปครอปรูป ก็ยังคมชัดและนำไปใช้งานต่อได้จริง แต่โดยรวมผมว่ายังไม่ลงตัวนัก คงต้องรออัปเดต Firmware กันอีกซักรอบ ที่ผมชอบมากๆ ก็คือในระยะ 10x optical zoom ไปจนถึง 100x digital zoom (Space Zoom) มันนิ่งใช้ได้เลยครับ ไม่สั่น (แต่ในระยะ 100x ผมว่าควรต้องใช้ขาตั้งช่วยครับ) นิ่งกว่าคู่แข่งที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ แม้แต่ระยะ 30x ก็ยังนิ่ง ซึ่งทาง Samsung เป็นแบรนด์แรกของโลกที่สามารถดันได้ถึง 100x digital zoom ออกมาได้สำเร็จอีกด้วย ในส่วนของการถ่ายภาพกลางคืน Bright Night ทำออกมาได้ดีมากเช่นกัน ทำให้เราแทบจะไม่ต้องใช้ Night Mode เลย (แต่ถ้าใช้คุณภาพก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก) อีกจุดที่น่าสนใจก็คือเรื่อง Selfie ด้วยกล้องหน้า 40MP F2.2 รองรับ Dual Pixel PDAF ทำให้คุณภาพดีมากๆ สามารถถ่ายได้ 2 ระยะ รวมทั้งสามารถปรับแต่งการถ่ายภาพได้ไม่แพ้กล้องหลังเลย ผมว่าดีกว่าที่ผ่านมาแบบชัดเจนเลยครับ และรุ่นนี้แยก AR Zone ออกมา จัดเต็มทั้ง AR Emoji, AR Doodle, AR Emoji Studio, AR Emoji Sticker และ Deco Pic ใช้งานสนุกแน่นอนครับ เอาละร่ายมาซะยาวเพราะลูกเล่นกล้องบนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มันเยอะมากจริงๆ เรามาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันเลยดีกว่า *ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Samsung Galaxy S20 Ultra 5G (Selfie) *
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Samsung Galaxy S20 Ultra 5G เปรียบเทียบระยะซูม
1x
0.5x
4x
1x
0.5x
4x
10x
1x
0.5x
4x
10x
1x
0.5x
4x
10x
30x
100x
1x
0.5x
4x
10x
1x
0.5x
4x
10x
1x
1x
0.5x
1x
0.5x
4x
10x
30x
100x
1x
0.5x
4x
10x
30x
100x ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ฟีเจอร์ Live Focus (Portrait)
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Samsung Galaxy S20 Ultra 5G (Bright Night และ Night Mode)
Bright Night
Night Mode ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Samsung Galaxy S20 Ultra 5G เปรียบเทียบ Custom Filter
ภาพปกติ
ผ่านฟีเจอร์ Custom Filter
ภาพปกติ
ผ่านฟีเจอร์ Custom Filter การเชื่อมต่อ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มาพร้อมรายละเอียดการเชื่อมต่อดังนี้
- GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
- HSDPA 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
- LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 12(700), 13(700), 14(700), 18(800), 19(800), 20(800), 25(1900), 26(850), 28(700), 29(700), 30(2300), 38(2600), 39(1900), 40(2300), 41(2500), 46(5200), 48, 66(1700/2100), 71(600)
- 5G สำหรับโมเดลที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย รองรับคลื่นความถี่ 2600
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth 5.0, A2DP, LE
- NFC
- GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO
- USB Type-C 3.2
การประมวลผล Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มาพร้อมรายละเอียดสเปคดังต่อไปนี้
- หน้าจอ Cinematic Infinity O Display ชนิดจอ Dynamic AMOLED 2X 6.9 นิ้ว ความละเอียด QHD+ 1440 x 3200 pixels (509 ppi), รองรับ HDR10+ และค่า Refresh Rate 120Hz (บนความละเอียด Full HD+), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9
- กระจก Corning Gorilla Glass 6
- Exynos 990
- CPU Octa-core (2x2.73 GHz Mongoose M5 & 2x2.50 GHz Cortex-A76 & 4x2.0 GHz Cortex-A55)
- GPU Mali-G77 MP11
- RAM 12GB (LPDDR 5)
- ROM 128GB (UFS 3.0) รองรับ MicroSDXC มากถึง 1TB
- เซ็นเซอร์ Fingerprint (under display, ultrasonic), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
- Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 45W, รองรับ USB Power Delivery 3.0, ชาร์จไร้สาย Fast Qi/PMA wireless charging 15W และ Power bank/Reverse wireless charging 9W
- รองรับ Samsung Pay
- รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
*ผลทดสอบของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G *
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 503,111 คะแนน
- ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
- ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 1510.24 MB/s และการเขียน 666.93 MB/s (UFS 3.0) ทำความเร็ว RAM ในการอ่านอยู่ที่ 184.74 MB/s และการเขียน 217.02 MB/s (LPDDR 5)
- รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix HD
- ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วมาก
แบตเตอรี่ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 45W, รองรับ USB Power Delivery 3.0, ชาร์จไร้สาย Fast Qi/PMA wireless charging 15W และ Power bank/Reverse wireless charging 9W จัดเต็มเรื่องแบตเตอรี่ความที่เคยครับ เป็นสมาร์ทโฟน Galaxy S Series ที่ให้แบตเตอรี่มามากที่สุด ความอึดถือว่าใช้ได้ครับ แต่ถ้าใช้งานมากๆ ก็ถือว่าค่อนข้างไหลเร็วเหมือนกัน แต่ด้วยความจุที่ให้มาสูงมากๆ ก็เลยสามารถอยู่ได้ครบวัน แต่ถ้าเน้นเล่นเกม ก็ควรพกพา Power Bank ด้วยครับ
ดีไซน์ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มาพร้อมดีไซน์ที่สวยมากครับ ดูเท่ และพรีเมี่ยม หน้าจอไม่โค้งมากแบบรุ่นก่อนแล้ว หันมาใช้หน้าจอ 2.5D ซึ่งก็ช่วยให้หาฟิล์มกันรอยมาติดง่ายขึ้น รวมทั้งแก้ปัญหาเรื่องเคสดันฟิล์มไปในตัว โดยส่วนตัวผมมองว่ามันดูหรูหราน้องลง ดูธรรมดามากขึ้น แต่ในแง่การใช้งานผมว่ามันตอบสนองได้ดีกว่า และโทนสีที่เลือกใช้ในรุ่นนี้ก็มาในแนวสุภาพ ดูเป็นผู้ใหญ่ เหมาะสมกับความเป็น Galaxy S Series ที่เน้นความ Luxury วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะอลูมิเนียม และกระจก Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หน้าจอ Cinematic Infinity O Display ชนิดจอ Dynamic AMOLED 2X 6.9 นิ้ว ความละเอียด QHD+ 1440 x 3200 pixels (509 ppi), รองรับ HDR10+ และค่า Refresh Rate 120Hz (บนความละเอียด Full HD+), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9, กล้องหน้าความละเอียด สูง 40MP F2.2 รองรับ Dual Pixel, PDAF และขอบจอบางเฉียบมากๆครับ ด้านบนมีลำโพงสนทนาซ่อนอยู่ หน้าจอรองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ด้านหลังเรียบหรู มีกล้องขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมโดดเด่นมากๆ ตัวเครื่องค่อนข้างหนา และกล้องค่อนข้างนูนขึ้นมามาก เพราะจัดเต็มในเรื่องกล้อง ประกอบด้วยกล้องความละเอียด 108MP + Periscope 48MP + 12MP + TOF และไฟแฟลช LED มีข้อความเขียนว่า Hybrid Optic Zoom 10X (Space Zoom 100X)
ด้านบนมีช่องใส่ซิม และไมค์ตัดเสียงรบกวน ด้านล่างมีไมโครโฟน พอร์ท USB Type-C และลำโพง (รุ่นนี้เป็นลำโพงคู่ เสียงดังและมีมิติดีมาก) ด้านซ้ายเรียบๆ และด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power
หน้าจอและอินเตอร์เฟส Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ทำงานบน Android 10 ครอบทับด้วย One UI 2.0 หน้าตาสวยงาม และด้วยสเปคที่แรงมาก Exynos 990, RAM 12GB มาตรฐานใหม่ LPDDR 5 และ ROM 128GB (UFS 3.0) รองรับ MicroSDXC ยิ่งทำให้การใช้งานราบลื่นและรวดเร็วมากๆ ครับ ด้านซ้ายสุดจะเป็น Bixby Home รวมข้อมูลแอปพลิเคชัน และการแจ้งเตือนต่างๆ สามารถเลือกเปิด-ปิดได้ และแน่นอนครับว่ามาพร้อม Dark Mode ช่วยให้ใช้งานได้สบายตามากยิ่งขึ้น และ Series นี้เป็นรุ่นแรกของซัมซุงที่มาพร้อมหน้าจอ Refresh Rate 120Hz (บนความละเอียด Full HD+) และ Refresh Rate 60Hz (บนความละเอียด QHD+) หน้าจอเนียนสบายตา เหมาะกับการเล่นเกม และรับชมคลิปวีดีโอเป็นอย่างยิ่ง
Samsung Galaxy S20 Ultra 5G รองรับฟีเจอร์ Edge Panels ทางลัดในการเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้ด้วยนะครับใน Galaxy Store นอกจากนี้ยังรองรับ Samsung DeX เพียงแค่มีสาย USB เชื่อมต่อกับ PC หรือ Mac ก็จะสามารถใช้งานได้ 2 หน้าจอพร้อมกัน (ทั้งบนหน้าจอใหญ่ และมือถือ) โดยต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นด้วยนะครับ สะดวกมากๆ ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเลย
Smart Gesture ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน เช่นแตะหน้าจอเพื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาโดยไม่ต้องกดปุ่ม Power เป็นต้น และฟีเจอร์ Dual Messenger สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Social ได้ 2 ID ในเครื่องเดียว เช่น Facebook, Facebook Messenger, Line รวมไปถึง Multi Window (การแบ่งหน้าจอ) ยังมีมาให้ครบถ้วน แถมด้วยสเปคที่แรงขนาดนี้ ทำให้การทำงานราบลื่นไม่มีสะดุดเลยครับ แม้ว่าลูกเล่นจะเยอะมากๆเลย
หน้าจอรองรับ Always-On Display รองรับสแกนใบหน้า Face Access และปลดล็อกหน้าจอด้วย Fingerprint ผ่านระบบรักษาความปลอดภัย Samsung Knox รองรับได้สูงสุด 4 ลายนิ้วมือ ต้องขอชมเลยครับว่างานนี้ซัมซุงขึ้นมากๆ ความเร็วและความแม่นยำในการสแกนทำได้ดีมากครับ
Game Launcher ฟีเจอร์รวมเกมทุกเกมบนสมาร์ทโฟนของเราเอาไว้ที่เดียว ปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม, ประหยัดพลังงานขณะเล่นเกม ทดสอบด้วยเกมยอดนิยมอย่าง ROV สามารถเล่นได้ที่ 59FPS - 60FPS อย่างลื่นไหล
สรุป Samsung Galaxy S20 Ultra 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงสูงสุดของ Galaxy S20 Series มาพร้อมดีไซน์ที่ทั้งพรีเมี่ยม และเต็มเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรม ทุกรายละเอียดแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้ดีที่สุด และรวมเอานวัตกรรมที่โดดเด่นของซัมซุงเอาใว้อย่างครบถ้วย ในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว เรียกได้ว่าซื้อรุ่นนี้จบเลยครับ ไม่ต้องมองหารุ่นอื่นอีก เป็นสมาร์ทโฟนที่เราซื้ออนาคต เพราะรองรับ 5G เป็นรุ่นแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (รองรับสัญญาณคลื่น 2600 MHz)
และมาพร้อมหน้าจอที่สวยที่สุดของซัมซุง พร้อมเอาใจเสียงร้องร้องจากผู้ใช้งานที่ไม่ชอบหน้าจอโค้ง รวมไปถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีสเปคสูงมากในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Exynos 990, RAM มาตรฐานใหม่ LPDDR 5 ให้มาสูงถึง 12GB และ ROM 128GB (UFS 3.0) รองรับ MicroSDXC ตรงจุดนี้มีหลายคนบ่นว่า ซัมซุงให้ Storage มาน้อยเกินไป แต่จริงๆ ผมว่าก็เพียงพอต่อการใช้งานนะครับ นอกจากว่าจะเป็นคนที่ไม่ชอบเชื่อมต่อข้อมูลลงคอม หรือ Backup ไปเก็บบน Cloud ซึ่งจริงแล้วสมาร์ทโฟนรุ่นนี้รองรับหน่วยความจำความเร็วสูงอย่าง MicroSDXC ซึ่งเราสามารถซื้อมาเพิ่มเองได้ ในตอนนี้ก็มีราคาที่ถูกลงมากๆ
นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังให้มาเยอะที่สุดเท่าที่ Galaxy S Series เคยใส่มาให้เลยครับ ให้ความจุมามากถึง 5,000 mAh แถมยังรองรับชาร์จไว 45W, รองรับ USB Power Delivery 3.0, ชาร์จไร้สาย Fast Qi/PMA wireless charging 15W และ Power bank/Reverse wireless charging 9W เรียกได้ว่าจัดเต็มมากครับ แม้ว่าการใช้งานจริงแบตเตอรี่จะค่อนข้างไหล แต่ด้วยความจุขนาดนี้ ทำให้ใช้งานครบวันสบายๆ
ในส่วนของกล้องก็จัดเต็มมากครับ เป็นครั้งแรกที่นำกล้องความละเอียด 108MP มาใช้งานคู่กับกล้อง Periscope และกล้อง TOF ผมว่ามันน่าสนใจมากๆ ทำให้เรื่องการซูมที่มีปัญหาในเรื่องของความสั่นของภาพ ถูกแก้ไขได้สำเร็จ ในช่วง 10x และ 30x ที่ในแบรนด์อื่นมีปัญหาเรื่องความสั่น ปัญหานี้ไม่เกิดขึ้นกับซัมซุงเลยครับ ผมว่า Space Zoom มันน่าทึ่งมากจริงๆ แถมลูกเล่นกล้องทั้ง Single Take, Custom Filter, Bright Night และฟีเจอร์ในการถ่ายภาพอื่นๆ ของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G มันทำออกมาได้น่าสนใจ และจะต้องเป็นที่นิยมกันอย่างแน่นอน และในส่วนของการบันทึกวีดีโอความละเอียด 8K เป็นรุ่นแรกของโลก (Galaxy S20 Series บันทึก 8K ได้ทุกรุ่นเลยครับ) สมกับที่ได้ชื่อว่า Super VDO Camera Smartphone รองรับฟีเจอร์ 8K VDO SNAP เป็นลูกเล่นที่น่าสนใจมากครับ ต่อไปเราไม่จำเป็นต้องคิดมากเลยว่าจะเลือกบันทึกภาพนิ่งหรือวีดีโอคุณภาพสูงดี เพราะเราสามารถนำมาใช้งานได้ทั้ง 2 อย่างเลย และฟีเจอร์กันสั่น Super Steady ยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วน อัดแน่นมาขนาดนี้ ผมว่าราคาเปิดตัว 39,900 บาท เป็นราคาที่คุ้มค่าสุดๆ
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G สั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 5 มี.ค. 2563 โดยใครที่สั่งจอง Samsung Galaxy S20+ และ Galaxy S20 Ultra 5G รับฟรีทันที! Samsung Galaxy Buds+ มูลค่า 4,990 บาท พร้อมมีโปรโมชั่นดีๆ ราคาพิเศษ เมื่อซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจรายเดือนกับ AIS, TrueMove H และ dtac อีกด้วย ถ้าอ่านรีวิวแล้วชื่นชอบ ก็ไม่ควรพลาดแล้วนะครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
- ดีไซน์สวยงาม วัสดุโลหะ + กระจก Corning Gorilla Glass 6 และงานประกอบพรีเมี่ยม
- หน้าจอ Cinematic Infinity O Display ชนิดจอ Dynamic AMOLED 2X 6.9 นิ้ว ความละเอียด QHD+ 1440 x 3200 pixels (509 ppi), รองรับ HDR10+ และค่า Refresh Rate 120Hz (บนความละเอียด Full HD+) สวยงามอย่างน่าทึ่ง
- สเปคสูง Exynos 990, RAM 12GB (LPDDR 5), ROM 128GB (UFS 3.0) รองรับ MicroSDXC
- กล้องมาพร้อมนวัตกรรมที่น่าสนใจ กล้องความละเอียด 108MP มาใช้งานคู่กับกล้อง Periscope และกล้อง TOF สามารถถ่ายภาพ 10x optical zoom และได้ถึง 100x digital zoom เป็นครั้งแรกของโลก
- กล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 40MP คุณภาพการ Selfie ดีกว่าที่ผ่านๆมามาก
- มาพร้อมฟีเจอร์กล้องที่โดดเด่นมากมาย ใช้งานสนุก
- รองรับการบันทึกวีดีโอ 8K เป็นรุ่นแรกของโลก
- สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอได้รับการปรับปรุงแล้ว รวดเร็ว และแม่นยำ
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 45W, รองรับ USB Power Delivery 3.0, ชาร์จไร้สาย Fast Qi/PMA wireless charging 15W และ Power bank/Reverse wireless charging 9W
จุดสังเกตุของ Samsung Galaxy S20 Ultra 5G
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักมาก
- ตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือ และคราบมันได้ง่าย
- กล้องมีขนาดใหญ่ และนูนขึ้นมาชัดเจน
- ตัวเครื่องร้อนเร็ว
- แบตเตอรี่ค่อนข้างไหล
- กล้องยังต้องรออัพเดท FW ให้ลงตัวกว่านี้ ดูโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S20 Ultra เพิ่มเติม ดูโทรศัพท์มือถือ Samsung ทุกรุ่น
