โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

รีวิว Ambi Climate อัปเกรดแอร์บ้านธรรมดาให้มี AI และควบคุมผ่านเน็ตแบบ IoT ได้

Beartai.com

อัพเดต 22 เม.ย. 2562 เวลา 03.34 น. • เผยแพร่ 21 เม.ย. 2562 เวลา 10.32 น.
รีวิว Ambi Climate อัปเกรดแอร์บ้านธรรมดาให้มี AI และควบคุมผ่านเน็ตแบบ IoT ได้
รีวิว Ambi Climate อัปเกรดแอร์บ้านธรรมดาให้มี AI และควบคุมผ่านเน็ตแบบ IoT ได้

เครื่องปรับอากาศเป็นของจำเป็นมากที่สุดอย่างหนึ่งในบ้านสำหรับประเทศไทยที่มีอากาศร้อนตลอดปีแบบนี้นะครับ แต่ก็เป็นอุปกรณ์เราไม่ค่อยได้อัปเกรดเป็นรุ่นใหม่เพราะมันยุ่งยากและแพง แล้วคอไอทีอย่างเราถ้าอยากให้แอร์ที่บ้านกลายเป็นแอร์อัจฉริยะ สามารถสั่งงานผ่านมือถือหรือสั่งงานด้วยเสียงได้ สามารถปรับอุณหภูมิอัตโนมัติให้เรารู้สึกสบายตัวที่สุด จะทำยังไง คำตอบคือใช้อุปกรณ์อย่าง Ambi Climate ครับ

ดีไซน์ของ Ambi Climate

Ambi Climate ที่เราได้มารีวิวคือรุ่นที่ 2 นะครับ ดีไซน์ของเครื่องก็จะเรียบๆ ด้านบนเป็นพลาสติกแวววาวสีดำ ก็จะเป็นจุดที่ใช้ส่งสัญญาณ IR แทนรีโมตไปหาแอร์ ซึ่งจะวางเครื่องหันหน้าหรือหันหลังก็สามารถส่งสัญญาณให้แอร์ได้เพราะข้างในมีอุปกรณ์ส่งสัญญาณอินฟราเรดถึง 7 ตัวส่งสัญญาณรอบทิศทาง ฐานด้านล่างเป็นไม้ (หรือวัสดุที่เหมือนไม้) ทำให้ดู Geek น้อยลง เหมาะสำหรับการวางของตกแต่งบ้านมากขึ้น

ด้านหน้าจะมีไฟ LED อยู่ในโลโก้ของ Ambi Climate จะแสดงสีรายงานสถานะของเครื่อง ซึ่งถ้าเครื่องทำงานปกติจะขึ้นไฟสีเขียวอ่อน แต่ถ้าขึ้นเป็นสีเหลืองคือมีปัญหา อาจจะเชื่อม Wifi ไม่ได้ ต้องรีเซ็ทใหม่ ส่วนด้านหลังจะเป็นช่องเสียบไฟในรูปแบบพอร์ต MicroUSB ซึ่งจะใช้ไฟในรูปแบบ 5V 1A ที่อแดปเตอร์ชาร์จมือถือทั่วไปก็สามารถจ่ายไฟได้ เราก็เลือกได้ว่าจะใช้อแดปเตอร์ที่แถมมาในกล่องของ Ambi Climate หรือใช้อแดปเตอร์ที่มีอยู่ที่บ้านก็ได้ แต่ต้องเสียบไฟให้เจ้า Ambi Climate ตลอดเวลาการใช้งานเพราะไม่มีแบตเตอรี่ในตัว

อุปกรณ์ภายในกล่องมีตัว Ambi Climate, หัวปลั้ก USB 5V 1A และสาย MicroUSB

ภายในเครื่องเล็กๆ ของ Ambi Climate นี้ก็จะมีเซ็นเซอร์ที่จำเป็นในการทำงาน เพื่อให้บอกอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ในห้อง เอาไว้ให้ทั้งคนใช้ดูและ AI เอาไปปรับการทำงานของแอร์ครับ

ความสามารถเด่นของ Ambi Climate คือ AI ควบคุมอัตโนมัติ

หลังจากที่เสียบ Ambi Climate เข้ากับไฟบ้าน และใช้มือถือโหลดแอป Ambi Climate มาเซ็ตอัปเครื่องและเชื่อมต่อกับ WiFi ในบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นใช้งานได้ ซึ่ง Ambi Climate นั้นจะมีโหมดที่ทำงานอยู่ 5 โหมดหลักๆ ก็คือ

5 โหมดหลักของ Ambi

โหมด Comfort กดเลือกความรู้สึกร้อน-หนาว

โหมด Away เลือกระดับความชื้นให้แอร์ทำงาน

  • Comfort โหมดหลักที่เราใช้บ่อยที่สุด คือเราจะบอก AI ว่าอากาศที่เปิดแอร์อยู่ตอนนี้เป็นยังไง ร้อนไป เย็นไป หรือสบายแล้ว ซึ่งหลังจากเก็บข้อมูลไปสักพัก AI จะประมวลผลและควบคุมแอร์จนได้อากาศที่เหมาะสมโดยไม่ต้องสั่ง
  • Temperature กำหนดอุณหภูมิให้ Ambi Climate ใช้ AI ควบคุมแอร์ให้ได้อุณหภูมินั้น ซึ่งจะเอาค่าอุณหภูมิและความชื้นภายนอกมาคำนวณด้วย ทำให้ได้ความรู้สึกแบบอุณหภูมินั้นจริงๆ ไม่ใช่ตั้ง 25 องศาและฝนตก ก็ทำให้ห้องเย็นกว่าอุณหภูมิที่ตั้งเหมือนแอร์ทั่วไป
  • Away โหมดสำหรับยามไม่อยู่บ้าน แต่อยากควบคุมอากาศในห้องโดยกำหนดเป็นระดับขั้นต่ำไว้ เช่นถ้าอุณหภูมิในห้องเกิน 27 องศาให้เปิดแอร์ หรือความชื้นในห้องเกิน 79% ให้เปิดแอร์
  • Manual โหมดสั่งงานเอง ไม่มี AI มาเกี่ยวข้อง ใช้มือถือเหมือนเป็นรีโมทแอร์
  • Off สั่งปิดแอร์

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราใช้ Ambi Climate มาหลายเดือน โหมดหลักที่ใช้เลยคือ Comfort ครับ เพราะหลังจากที่มันเรียนรู้ไปสักพักว่าเราชอบอากาศแบบไหน เราก็ไม่ต้องไปยุ่งกับการปรับอุณหภูมิเครื่องอีกเลย ซึ่งก็ทำให้ใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ AI จะคำนวณอ้างอิงสภาพอากาศภายนอกให้ด้วย ถ้าวันไหนฝนตก นอกบ้านเย็น มันก็จะปรับแอร์ให้ไม่เย็นเกินไป ซึ่งเราสามารถกำหนดผ่านแอปได้ด้วยว่าจะให้ Ambi Climate ควบคุมแอร์ในโหมดไหนบ้าง อาจจะให้มันสลับโหมดระหว่าง Cool – Dry – Fan ก็ได้นะ


และหลังจากที่เราใช้โหมด Comfort ไปสักพัก เราก็สามารถดูข้อมูลการวิเคราะห์สนุกๆ ของการปรับอากาศในห้องเราได้ด้วย ทั้งความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิภายนอก โหมดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ รูปแบบการกดบอกความรู้สึกกับอากาศ ฯลฯ ซึ่งอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้มาคิดถึงค่าไฟที่เปลี่ยนแปลงไปได้อีกด้วย

แต่เรื่องที่เราไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับแอป Ambi Climate คือเราว่าหน้าตามันไม่ค่อยสวยและใช้งานงงๆ นะครับ กว่าเราจะเข้าใจว่าต้องกดปุ่มตรงกลางเพื่อรายงานว่าเรารู้สึกยังไงกับอากาศตอนนี้ เราก็งงไปพักหนึ่งเหมือนกัน แล้วพวกสถิติหรือกราฟต่างๆ ก็แสดงผลแบบไม่มีกรอบ ไม่มีเส้นระดับ ต้องใช้เวลาอ่านทำความเข้าใจพักหนึ่งเลย

ใช้ Ambi Climate เพื่อทำงานอัตโนมัติ

Ambi Climate นอกจากจะควบคุมอุณหภูมิในห้องอัตโนมัติด้วยการทำงานของ AI แล้ว มันยังเปลี่ยนแอร์เครื่องเก่าในบ้านให้กลายเป็นอุปกรณ์ IoT ได้อีกด้วย โดยสามารถสั่งงานได้หลายรูปแบบ

  • วิธีเบสิกที่สุด แค่เสียบ Ambi Climate ทิ้งไว้โดยไม่ปิดอินเทอร์เน็ตในบ้าน เราก็สามารถสั่งงานเปิด-ปิดแอร์จากที่ไหนในโลก (ที่มีอินเทอร์เน็ต) ผ่านแอป Ambi Climate ได้แล้ว

  • รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Home, Alexa ซึ่งในบ้านเราใช้ Google Home น่าจะคล่องตัวกว่าเพราะสั่งงานจากมือถือหรือลำโพงที่รองรับ Google Assistant ได้เลย

  • การเชื่อมต่อ Google Home ทำได้ง่ายๆ แค่เปิดแอป Google Home ขึ้นมา ล็อกอินด้วย Gmail ของตัวเอง แล้วกดเพิ่มอุปกรณ์ เลือก Setup device แล้วกดที่หมวด Works with Google เพื่อค้นหา Ambi Climate ในรายการ แล้วใส่รหัสผ่านของ Ambi ก็ใช้งานได้แล้ว

    • ซึ่งการสั่งงานก็ใช้คำสั่งง่ายๆ เช่น Hey Google, turn on aircon in bedroom ซึ่งก็แล้วแต่เราตั้งว่าอุปกรณ์ Ambi Climate ตัวไหนจะชื่ออะไร

  • รองรับการทำงานผ่าน IFTTT ทำให้เราสามารถกำหนดเงื่อนไขในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้หลากหลาย เช่นกดปุ่มใน Smartwatch เพื่อบอกว่าอากาศร้อนไป หรือสร้างคำสั่งใหม่ใน Google Assistant ให้ใช้คำสั่งสั่ง Ambi ว่าร้อนไปหรือเย็นไปก็ได้
  • ตัวแอป Ambi Climate เองก็มีความสามารถ Geofence คือกำหนดพื้นที่บ้านเราเพื่อให้แอร์เปิดเองเมื่อเรากลับมาถึงบ้าน หรือปิดเองเมื่อออกจากบ้านก็ได้
  • และแน่นอนว่าฟีเจอร์เบสิกอย่าง Timer ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์ก็มีครับ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ Ambi Climate มาใช้

อ่านมาถึงขนาดนี้หลายคนน่าจะสนใจเจ้า Ambi Climate กันแล้วแหละ แต่ก่อนจะสั่งมาใช้ เรื่องแรกที่ควรเช็คเลยคือแอร์ที่บ้านเราใช้กับ Ambi Climate ได้ไหม

Ambi เขียนไว้คร่าวๆ ว่าถ้าแอร์ที่บ้านคุณมีรีโมทที่มีหน้าจอ LED รายงานสถานะของแอร์ ก็จะใช้งานได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะให้ชัวร์กว่านั้นก็มีหน้าเว็บ remotes.ambiclimate.com ให้เราค้นรหัสรุ่นแอร์โดยตรงได้ จะได้มั่นใจว่ามันจะใช้กับแอร์ที่บ้านเราได้แน่ๆ

อีกเรื่องที่ควรรู้คือ Ambi Climate 1 ตัวนั้นสามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศได้แค่ 1 ตัวนะครับ แต่บัญชีของ Ambi 1 บัญชีนั้นสามารถควบคุมตัว Ambi Climate ได้หลายตัว ถ้าที่บ้านมีแอร์หลายจุดก็ต้องซื้อหลายเครื่องนะ และสามารถเพิ่มผู้ใช้หลายคนเพื่อควบคุมแอร์ได้

ด้านหลังของ Ambi Climate มีช่อง MicroUSB สำหรับรับไฟ ช่อง USB ใหญ่ น่าจะสำหรับอัป Firmware หรือซ่อมบำรุง แต่เราก็เอาไปใช้เสียบชาร์จอุปกรณ์ที่ใช้ไฟต่ำๆ อย่างชาร์จนาฬิกาได้ แล้วก็ปุ่มรีเซ็ตเครื่อง

และสุดท้ายอยากเตือนไว้ว่า ถ้าที่บ้านคุณอยู่กันหลายคน และสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ ไม่ได้ชอบเทคโนโลยี อาจจะต้องโน้มน้าวเยอะหน่อย สอนกันอีกนิดกว่า Ambi Climate จะเป็นที่ยอมรับในบ้านนะครับ เพราะเมื่อเริ่มต้นใช้อุปกรณ์ตัวนี้แล้ว เราก็ไม่ควรกดรีโมทเพื่อสั่งงานแอร์โดยตรงอีก ไม่งั้นมันจะไปตีกับระบบอัตโนมัติของ Ambi Climate เช่นถ้าที่บ้านของคุณถนัดกดปิดแอร์ด้วยรีโมท และสั่งปิดแอร์ผ่านรีโมทแทนที่จะสั่งผ่านแอป มันจะมีปัญหาแอร์กลับมาเปิดเองได้เพราะระบบของ Ambi ยังไม่ยอมรับว่าแอร์ปิดครับ มันก็จะสั่งงานซ้อนไปทำให้แอร์เปิดอีกครั้ง คราวนี้แหละเสียค่าไฟเพิ่ม และที่บ้านจะหงุดหงิดว่าทำไมกดปิดแล้วแอร์ไม่ปิด

ซึ่งจริงๆ แล้ว Ambi Climate น่าจะมีสวิทซ์ให้กดเปิด-ปิดแอร์จากตัวเครื่องได้ เพราะบางทีการหาสมาร์ตโฟนมาสั่งเปิด-ปิดแอร์ มันก็เสียเวลากว่าการอยู่ในห้องแล้วก็เดินไปกดรีโมทเปิดแอร์ หรือเดินไปที่ตัว Ambi แล้วกดเปิดแอร์จากตัวเครื่องเลย (เว้นแต่คุณจะใช้ Google Home และสั่งเปิดแอร์ด้วยเสียงได้ อันนี้ก็จะสบายหน่อย)

ราคาของ Ambi Climate

Ambi Climate 2nd Edition นั้นตั้งราคาขายในไทยไว้ที่ 4,990 บาทนะครับ หาซื้อได้ตามร้าน .life หรือดูแผนที่ร้านที่ขายในไทยได้ หรือจะสั่งผ่านเว็บของ Ambi Climate โดยตรงก็จะได้ราคา $129 (~4100 บาท) แต่จะเสียค่าส่งอีก $10 รวมราคาเป็นประมาณ 4,400 บาท และต้องลุ้นภาษีขาเข้าอีกที

ซึ่งก็ถือว่า Ambi Climate นั้นมีราคาพอสมควรนะครับ แต่ความสามารถที่ได้นั้นก็คุ้มค่าตัวอยู่นะ คือทั้งปรับอุณหภูมิในบ้านให้เหมาะสม และสามารถควบคุมแอร์ได้จากระยะไกล เอาเป็นว่าใครที่สนใจเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็น Smart Home เจ้า Ambi Climate ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ

แชร์โพสนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0