[รีวิว] หมูสะเต๊ะดิป ร้านหมูสะเต๊ะ 3 ดิป ย่านพุทธมณฑล หมูนุ่มไร้มัน!

ชวนมาลิ้มลอง มิติใหม่ของการกินหมูสะเต๊ะ กับน้ำจิ้มดิปหลากรส! ทั้งดิปเขียวหวาน ดิปชีส และน้ำจิ้มถั่ว! ที่ร้าน “หมูสะเต๊ะดิป” ร้านอาหารย่านพุทธมณฑล

#วงในบอกมา

พูดถึงสตรีตฟู้ดที่กินเพลิน กินได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อแล้ว สำหรับ bellyishungry ก็คงตอบโดยไม่คิดเลยค่ะว่าคือ “หมูสะเต๊ะ” นี่เอง! วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ชาว Wongnai ไปรู้จักกับหนึ่งร้านหมูสะเต๊ะเปิดใหม่ย่านพุทธมณฑลสาย 3 อย่างร้าน “หมูสะเต๊ะดิป” กันค่ะ

ร้าน “หมูสะเต๊ะดิป” ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ตรงข้ามกับซอยเพชรเกษม 75 ใกล้ ๆ แยกเข้าพุทธมณฑลสาย 3

ด้านในร้านมีที่จอดสะดวกสบายเชียว! ปกติแล้วเราจะคุ้นกับร้านหมูสะเต๊ะที่เป็นแบบ take away มากกว่าเนอะ แต่ของร้านนี้เก๋ตรงที่มีโต๊ะให้นั่งกินที่ร้านด้วยค่ะ

“หมูสะเต๊ะ” (ไม้ละ 7 บาท) ของร้าน “หมูสะเต๊ะดิป” มีความพิเศษตรงที่ใช้หมูสันนอก ทั้งไม้เป็นชิ้นเนื้อล้วน ๆ กัดได้เต็มปากเต็มคำ ทั้งยังไม่ติดมัน สามารถกินได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำลายสุขภาพ แถมตัวหมูค่อนข้างนุ่มด้วยวิธีการหมักเฉพาะ หมักข้ามคืนเข้มข้นจนเข้าเนื้อเลยทีเดียว

ปิ้งร้อน ๆ กลิ่นหอม ๆ ของหมูยั่วน้ำลายได้ดีทีเดียว

ไฮไลต์ของร้านคือตัวน้ำจิ้มดิปนี่แหละค่ะ ปกติแล้วเราจะคุ้นเคยการกินหมูสะเต๊ะกับน้ำจิ้มถั่ว แต่ทางเจ้าของร้านอยากทดลองว่า จะมีน้ำจิ้มแบบอื่นบ้างไหมที่เข้ากันได้ดีกับหมูสะเต๊ะ จนตอนนี้ได้มาเป็นน้ำจิ้มดิปสูตรลับเฉพาะที่ไม่มีใครเหมือน อย่าง ดิปเขียวหวาน และดิปชีส!

ใครที่ชอบกินชีสต้องมีตาลุกวาว! ไม่น่าเชื่อว่าวัตถุดิบอย่างชีส จะไปกันได้ดีกับหมูสะเต๊ะ เพราะ “ดิปชีส” (20 บาท) พัฒนามาหลายสูตร จนออกมาเป็นความเข้มข้นมาก ๆ ที่ไม่หวานเลี่ยน ยิ่งกินยิ่งกินเพลิน เอาขนมปังปิ้งมาปาดนี่ ฟินเกินคำบรรยายสุด ๆ ส่วน “ดิปเขียวหวาน” (15 บาท) สีสันสดใส มีจุดเด่นในการใช้พริกแกงเข้มข้นจากภาคใต้ ได้ความเผ็ดร้อน ถึงรสถึงเครื่อง ตัวซอสเขียวหวานให้รสชาติเข้มข้น เข้ากันดีกับหมูสะเต๊ะอย่างไม่น่าเชื่อ แอบกระซิบว่ามันดจีย์จนสามารถเอาไปกินกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เพลิน ๆ เลยแหละ

แต่น้ำจิ้มถั่วออริจินัลก็ไม่น้อยหน้าใครค่ะ บางเจ้าก็ใช้ตัวเนื้อขนมปังไปผสมให้เนื้อสัมผัสมันข้น ๆ แต่ของทางร้าน “หมูสะเต๊ะดิป” ใช้เป็นถั่วลิสงล้วนคั่วเอง หอมถูกใจ สะอาด สดใหม่ ไม่มีกลิ่น ปลอดภัยไร้เชื้อราแน่นอน ตัวถั่วทำออกมาแบบให้พอมีชิ้นถั่วหลงเหลือ ได้เทกซ์เจอร์เพลิน ๆ เคี้ยวมัน