อื้มหืมมมม…ฟินสุด! ไข่เจียวปูที่ว่ากันว่ามีทั้งกรอบและมีความฟูยิ่งกว่าก้อนเมฆ พร้อมเมนูอาหารไทยสุดว้าวอีกมากมาย ที่ ร้านเขียวไข่กา สาขา One Nimman เชียงใหม่
#วงในบอกมา
อยู่เชียงใหม่แต่อยากกินไข่เจียวปูฟู ๆ ก็ไม่ต้องนึกน้อยใจชีวิตอิจฉาคนกรุงเทพที่มีร้านไข่เจียวปูดัง ๆให้กิน เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปรีวิวกันที่ร้านเขียวไข่กา สาขา One Nimman เชียงใหม่ ร้านอาหารชื่อดังจากกรุงเทพฯ ที่มาเปิดสาขาร้านอาหารใน One Nimman เชียงใหม่ให้ตามคำเรียกร้องของหลาย ๆ คน เอาละ ถ้าพร้อมแล้วก็ออกไปชิมกันเลยดีกว่า
ร้าน เขียวไข่กา สาขา One Nimman เชียงใหม่ จะอยู่ที่บริเวณโซนด้านในของโครงการก่อนถึง Food Hall เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปที่ร้านได้โดยจอดรถไว้ใน ถ.นิมมานเหมินท์ ซ.1 ก็ได้ หรือจะจอดรถในโครงการ One Nimman ก็ได้ เพราะมีทางเข้าให้เดินเข้าร้านอาหารไทยเชียงใหม่ร้านนี้ด้วยกันทั้งหมด 2 ทาง ในร้านสามารถนั่งได้ทั้งชั้นล่าง และชั้นลอยด้านบนจ่ะ
มาถึงร้านอาหารใน One Nimman ร้านนี้แล้วเมนูแรกที่หลายคนต้องสั่ง (รวมถึงผมเองด้วย) นั่นก็คือเจ้าเมนูไข่เจียวปู (350 บาท) นั่นเอง เพราะนี่คือเมนูเด็ดชนิดว่าเป้นไฮไลต์ทั้งจานเลย! ทั้งตัวของไข่เจียวที่วางฟูฟ่องอยู่กลางจาน โดยวางเนื้อปูก้อนไว้ด้านบน แล้วทีนี้ความฟินมันก็จะอยู่ตรงที่เวลาเราตักไข่เจียวปูเนื้อกรอบนอกนุ่มใน ไปวางนอนบนข้าวสวยอุ่น ๆ เคียงคู่กับเนื้อปูอันนวลแน่น แล้วราดด้วยซอสพริกแบบพอประมาณ มันช่างเป็นภาพที่ยั่วใจอะไรขนาดนี้เนี่ยยย
แค่น้ำแกงหยดเดียวก็มากพอที่จะทำให้เราตกหลุมรักเจ้า แกงชะพลูปู (350 บาท) ถ้วยนี้ได้แล้วเชื่อไหม? ด้วยความที่น้ำแกงสีเขียวไข่กาที่มีเนื้อปูก้อนวางเรียงอยู่ด้านบน มีรสหอมมันทุกหยดด้วยกะทิสดแท้ ๆ ที่เคี่ยวเข้ากับเครื่องพริกแกงต่าง ๆ ใบชะพลู และเนื้อปู จนได้ให้น้ำแกงที่มีความหนักแน่นของรสชาติแบบที่ยากจะลืมเลือนร้านอาหารไทยเชียงใหม่แห่งนี้
อีกหนึ่งเมนู Signature ประจำร้านอาหารเชียงใหม่นามว่าเขียวไข่กาที่ห้ามพลาดก็คือ ปลาช่อนนาจำศีล (450 บาท) ในจานก็จะมีปลาช่อนหนักประมาณ 7 - 8 ขีด ถูกทอดแบบหนังนอกกรอบเนื้อในชุ่มฉ่ำนอนจำศีลอยู่ เคียงข้างกับผัดมะเขือที่รสชาติจะออกหวานมัน เวลาที่เราตักมากินพร้อมเนื้อปลาช่อน และราดด้วยน้ำจิ้มสามรส ก็ได้รสชาติที่กลมกล่อมครบรสแบบพอดิบพอดี กินเสร็จแล้วกลับห้องนอนจำศีลได้สบายพุงเลย 5555
นอกจากนี้เราก็ยังมีเมนูเฉพาะที่หากินที่ไหนไม่ได้นอกจากร้านเขียวไข่กา สาขา One Nimman เชียงใหม่ มาแนะนำด้วย ซึ่งนั่นก็คือ ออร์เดิร์ฟเมือง (140 บาท) ชุดรับแขกบ้านที่มาเยือนเมืองเหนือ ด้วยการขนของดีออกมาให้ชิมทั้ง แหนมหม้อ, แคบหมู, หมูยอ, ไส้อั่ว และน้ำพริกหนุ่ม ส่วนอีกจานเป็น ข้าวผัดน้ำพริกหนุ่ม (150 บาท) คือต้องพูดว่านี่เป็นข้าวผัดที่เลิศมาก! นอกจากจะมีรสชาติเผ็ด ๆ ของน้ำพริกหนุ่มอยู่ตามเนื้อข้าวแล้ว ก็มีกลิ่นของกระทะไหม้ด้วย มาพร้อมน้ำพริกหนุ่มถ้วยเล็ก ๆ ไข่ต้มยางมะตูม แคบหมู หมูยอทอด และผักเครื่องเคียง ทั้งหมดนี้นับเป็นเมนูที่ตอกย้ำความเป็นร้านอาหารเชียงใหม่ให้ชัดเจนเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้
เสร็จจากอาหารคาวแล้วเราก็มาต่อกันที่ของหวานดีกว่าเนอะ ข้าวเหนียวมะม่วง (120 บาท) ล้างปากกับขนมหวานแบบไทย ๆ ที่เอาข้าวเหนียวมากวานเข้ากับกะทิหวาน จนได้รสชาติที่ลงตัว วางเรียงสวยงามแล้วเสิร์ฟพร้อมมะม่วงสุกหวาน ๆ ก่อนกินก็เพียงราดด้วยน้ำกะทิลงไปอีกทีก็เป็นอันชื่นใจตามตำรับร้านอาหารไทยเชียงใหม่
ส่วนเครื่องดื่มเนี่ย วันนี้ผมก็เลือกดาวเด่นของ ร้าน เขียวไข่กา ร้านอาหารใน One Nimman มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักสองแก้วด้วยกันครับ มะม่วงน้ำดอกไม้ปั่น ร้านเขียวไข่กา (120 บาท) น้ำมะม่วงปั่นในแบบของเขียวไข่กา ที่เอามะม่วงสุกแท้ ๆ ลงไปปั่นพร้อมน้ำแข็งจนได้เกล็ดละเอียด ก่อนเทใส่แก้วและเสิร์ฟพร้อมมะม่วงสุกอีกครึ่งลูก นี่ถ้าแก้วเมื่อกี้ว้าวแล้วนะมาดูแก้วต่อไปผมบอกเลยว้าวกว่าแน่นอน! มะพร้าวน้ำหอมปั่นนมสด ร้านเขียวไข่กา (150 บาท) นี่ยกมะพร้าวมาเป็นลูกเลยจ้า ส่วนด้านในก็จะเป็นน้ำมะพร้าวปั่น มีเนื้อแทรกด้วยให้พอกรุบ ๆ ในปาก คือฟินสดชื่นมากขอบอก
โดยรวมแล้ว ร้านเขียวไข่กา สาขา One Nimman เชียงใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารเชียงใหม่ที่จะพาใครมากินก็ได้ไม่จำกัดอายุ (โดยเฉพาะคนที่ถามหาร้านไข่เจียวปูนี่แหละ) ด้วยเมนูอาหารไทยที่หลากหลาย หน้าตาของอาหารที่สวยงามทันสมัยแต่รสชาติถึงเครื่องอาหารไทยนั่นเอง เอาละ…สุดท้ายนี้ก่อนจากกันไปก็ฝากไว้เหมือนเดิมเลยครับ กับการกดไลก์แฟนเพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai และตั้งให้เห็นโพสต์ก่อน เท่านี้เพื่อน ๆ ก็จะไม่พลาดเรื่องราวของกินที่ชวนฟินจนน้ำลายไหล และ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ทั้งในเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว
การเดินทาง
