โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ราคาพุ่งเกือบ 100% ! พาณิชย์เกาะติด ‘ข้าวเหนียว’ ป้องกันกักตุน – ค้ากำไรเกินควร

The Bangkok Insight

อัพเดต 20 ส.ค. 2562 เวลา 08.09 น. • เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 08.09 น. • The Bangkok Insight
ราคาพุ่งเกือบ 100% ! พาณิชย์เกาะติด ‘ข้าวเหนียว’ ป้องกันกักตุน – ค้ากำไรเกินควร

ภัยแล้งดันราคาข้าวเหนียวพุ่งเกือบ 100% หลังผลผลิตเสียหายกว่า 600,000 ไร่ ชาวนาแห่เก็บข้าวไว้กินเอง ไม่ยอมขาย ทำโรงสี และผู้ค้าหาข้าวมาขายไม่ได้ จนต้องปิดการขายข้าวเหนียวชั่วคราว กรมการค้าภายในเกาะติดสถานการณ์ขาย ขอผู้ค้าอย่ากักตุน และค้ากำไรเกินควร หากพบผิด ฟันไม่เลี้ยง

วิชัย โภชนกิจ
วิชัย โภชนกิจ

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์ข้าวเหนียวโดยรวมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 – สิงหาคม 2562  ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาข้าวเปลือกเหนียว และราคาข้าวสารเหนียว โดยราคาข้าวเปลือกเหนียว ปี 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 9,549 บาทต่อตัน และทยอยปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ 13,900–17,600 บาทต่อตัน ส่วนราคาข้าวสารเหนียว ปี 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 19,610 บาทต่อตัน และทยอยปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา มีราคาอยู่ที่ 38,500–38,600 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 98.20%

สำหรับพื้นที่เป้าหมายปลูกข้าวเหนียวปี 2562/63 มีจำนวน 16.172 ล้านไร่ คาดการณ์ปริมาณผลผลิต ปี 2562/63 อยู่ที่ 6.142 ล้านตัน แต่ภาวะภัยแล้งทำให้เกิดความเสียหายกว่า 600,000 ไร่ ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิต ทำให้ผลผลิตลดลง

“การที่ราคาข้าวเหนียวเพิ่มสูงขึ้นมาก มีหลายปัจจัย ทั้งจากปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลให้ผลผลิตข้าวเหนียวทั้งนาปี และนาปรัง มีปริมาณน้อยกว่าทุกปี ประกอบกับเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาล ข้าวเก่าเหลือน้อย ข้าวใหม่ยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว และภาครัฐได้ระบายข้าวในสต็อกหมด ส่งผลให้ช่วงนี้ ข้าวเหนียวขาดแคลนอย่างมาก ชาวนา ก็เก็บไว้บริโภคเอง เนื่องจากคาดว่าผลผลิตจะมีปริมาณน้อยมาก ถ้าไม่จำเป็นจะไม่นำออกขาย ด้านผู้ประกอบการโรงสีก็ต้องการรับซื้อข้าวเพื่อเก็บไว้ในสต๊อกและแปรรูป เพื่อจำหน่าย ซึ่งผลผลิตที่ขาดแคลนทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดการจำหน่าย แต่หากมีสินค้าก็ต้องจำกัดโควตาให้ผู้รับซื้อ เพื่อปันส่วนของสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการและกระจายได้อย่างทั่วถึง” นายวิชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนตุลาคม – พฤศจิกายนนี้  ผลผลิตข้าวนาปีฤดูกาลใหม่ปี 2562/63 จะเริ่มออกสู่ตลาด ราคาข้าวเหนียวน่าจะปรับตัวลดลง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ทั้งในด้านราคา และปริมาณผลผลิตที่ขาดแคลนจะค่อยๆ คลี่คลายลง

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการเก็งกำไร และค้ากำไรเกินควร รวมทั้งจะกำกับดูแลไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า และตั้งราคาสูงโดยไม่สอดคล้องกับต้นทุน โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงสี ให้จำหน่ายสินค้าในราคาสอดคล้องกับต้นทุน ไม่เอาเปรียบผู้ซื้อและผู้บริโภค หากจำเป็นจะดำเนินการตรวจสอบสต็อกสินค้า

ถ้าพบการกระทำความผิด เช่น  กักตุนสินค้า หรือตั้งราคาสูงเกินสมควร ขอให้แจ้งได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0