มอสโก, 11 ธ.ค. (ซินหัว) -- เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่าโครงการท่อส่งก๊าซระหว่างรัสเซียและยุโรปจะยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางแนวโน้มการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
เมื่อวันพุธ (11 ธ.ค.) ภายหลังการเจรจาและประชุมกับไมก์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลาฟรอฟระบุว่า “ผมรับรองว่าทั้งนอร์ดสตรีม 2 (Nord Stream 2) และเติร์กสตรีม (TurkStream) จะดำเนินการสร้างต่อไป” พร้อมแสดงเอกสารยืนยันคำกล่าวที่เผยแพร่โดยกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย
ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 มีจุดเริ่มต้นจากรัสเซีย ตัดผ่านทะเลบอลติกก่อนจะเข้าสู่เยอรมนี ขณะที่เติร์กสตรีมเป็นท่อส่งก๊าซของรัสเซียที่ข้ามผ่านทะเลดำไปยังตุรกี
เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ (9 ธ.ค.) สภานิติบัญญัติสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงในกฎหมายการป้องกันประเทศ 2020 (2020 National Defense Authorization Act) ซึ่งกำกับให้รัฐบาลทรัมป์คว่ำบาตรบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการท่อส่งก๊าซรัสเซียทั้ง 2 โครงการ
ลาฟรอฟเสริมว่าเขาเชื่อว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯ "แท้จริงแล้วเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะทำทุกอย่างเพื่อบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของเรา"
เมื่อปลายเดือนตุลาคม สำนักงานพลังงานเดนมาร์ก (DEA) ได้อนุมัติการสร้างท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 ส่วนสุดท้าย ซึ่งจะตัดผ่านเขตไหล่ทวีปของเดนมาร์ก
นอร์ดสตรีม 2 เป็นท่อส่งก๊าซคู่ความยาว 1,230 กิโลเมตร มีกำหนดเริ่มเปิดดำเนินงานช่วงกลางปี 2020
ท่อส่งก๊าซเติร์กสตรีมประกอบด้วยท่อส่งก๊าซนอกชายฝั่งความยาว 930 กิโลเมตร 2 ท่อ มีกำหนดเริ่มเปิดดำเนินงานช่วงปลายปี 2019 และคาดการณ์ว่าจะเชื่อมแหล่งก๊าซรัสเซียกับบัลแกเรีย เซอร์เบีย และอิตาลีเพิ่มเติมในอนาคต
สหรัฐฯ กล่าวโทษว่ารัสเซียมุ่งแสวงหาอำนาจทางการเมืองด้วยการสร้างท่อส่งก๊าซ ซึ่งอาจทำให้ยุโรปต้องหันมาพึ่งพารัสเซียด้านก๊าซธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ฝั่งรัสเซียออกมาระบุว่าสหรัฐฯ บีบบังคับให้ยุโรปต้องซื้อก๊าซธรรมชาติเหลวของสหรัฐฯ แทนการใช้ท่อส่งก๊าซของรัสเซียซึ่งมีราคาย่อมเยากว่า