โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

รัศมีเเข เปิดปมในใจ พ่อเเท้ๆอยากเจอก่อนตาย ผวาหนักคิดว่าตัวเองติดโควิด

Khaosod

อัพเดต 10 เม.ย. 2563 เวลา 14.00 น. • เผยแพร่ 10 เม.ย. 2563 เวลา 14.00 น.

รัศมีเเข เปิดปมในใจ พ่อเเท้ๆอยากเจอก่อนตาย ผวาหนักคิดว่าตัวเองติดโควิด

ชีวิตนี้มีพ่อเป็นของตัวเองแล้ว สำหรับ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ที่เปิดเผยความรู้สึกหลังจากที่ได้คุยกับพ่อครั้งแรก ยอมรับเป็นห่วงมาก เพราะพ่อป่วยหัวใจไม่ดี และยังพ่อขอร้องอยากเจอก่อนตาย แต่เพราะโควิด-19 ทำพิษอดบินไปหา พร้อมเผยบทเรียนจากโควิด-19 ระแวงทุกวัน กลัวไปหมด อยากติดโควิดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ผ่านทางรายการคุยแซ่บ show ทางช่อง one31 ที่มีธัญญา ธัญญาเรศ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

ต้องขอแสดงความยินดีได้เจอคุณพ่อ ไม่เคยเจอกันมาก่อน?
"คือรู้ว่ามีพ่อแต่ไม่เคยเจอกันเลย ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เจอ แค่เป็นการพูดคุยกันเฉยๆ มีความรู้สึกก่อนว่าถ้าได้เจอก็จะเจอเอง เราก็เลยไม่พยายามอะไร แล้วเราไปออกรายการหนึ่งแล้วพูดว่าพ่อเคยทำงานอยู่ตรงนั้น แล้วคนที่เคยทำงานกับพ่อเมื่อสมัยก่อน เขารู้แล้วติดต่อไปยังเพื่อนหนู เขาจัดการทุกอย่างเลย จนวันหนึ่งเขาโทร.มาร้องไห้แล้วบอกว่าได้เบอร์ของพ่อแล้วนะ แล้วเขารอโทรศัพท์เราอยู่ เวลาห่างกันประมาณ 5 ชั่วโมง"

ได้โทร.คุยกันเรียบร้อยแล้ว?
"ใช่ ตอนแรกพอได้เบอร์มาปุ๊บตื่นเต้น จะร้องไห้ ทำตัวไม่ถูก ตอนนั้นอยู่บ้านเพื่อน เพื่อนก็เห็นว่าเราเดินไปเดินมา ไม่รู้จะตั้งตัวยังไงดี สุดท้ายเราก็โทร.ไปคุย"

เห็นว่าคุณพ่อเสียใจกับเราอยู่เรื่องหนึ่ง?
"ใช่ เขาก็ขออภัยกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นมา ไม่อยากให้เป็นแบบนี้"

คุณพ่อร้องไห้ด้วย?
"ใช่ แขว่าเขาคงตื่นเต้น แต่ด้วยความที่เราเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย เราก็ตอบกลับเขาไปว่า ไม่เป็นไร อันนั้นมันเป็นปัญหาของเธอกับแม่ไม่ใช่ปัญหาของฉัน"

จริงๆ ต้องได้เจอกันแล้ว แต่ว่าเกิดเหตุการณ์โควิด-19?
"ใช่ ตอนแรกเข้าใจตลอดว่าเป็นลูกครึ่งอเมริกัน แต่จริงๆ แล้วผิด จริงๆ แล้วเป็นไทย-เซเนกัล ซึ่งอยู่ในแอฟริกาต้นๆ"

เห็นบอกว่าคุณพ่ออยากเจอแขก่อนตาย?
"ใช่ ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะพูดคำนี้ เราก็อ้าว…ทำไมพ่อพูดแบบนี้ ด้วยความที่พ่อเป็นโรคหัวใจด้วย แล้วตอนคุยกับพ่อ พ่อบอกว่าญาติฉันถามใหญ่เลยว่าแบบไงลูกชายเธอ เขาโตเป็นผู้ชาย แล้วอีกวันก่อนวางสายพ่อบอก ฉันดีใจมากเลยที่ได้เจอเธอ ขอให้ทุกอย่างดี ให้เธอมีภรรยาที่ดี อันนี้แอบคิด แอบซีเรียส ก็เลยไปปรึกษาพี่สาวคนที่อยู่อเมริกา บอกว่าเธอพ่อมาอวยพรอย่างนี้ ฉันใจไม่ดี ฉันไม่รู้จะพูดยังไงว่าฉันเป็นเกย์"

คิดไหมว่าถ้าบอกไปกลัวพ่อจะรับไม่ได้?
"ไม่กลัว เจอแล้ว รับไม่ได้ แยกย้ายได้นะคะพ่อ ยังไม่ได้บอกพ่อเลย แต่พี่สาวบอกว่า อย่าไปบอกเขานะ เขาเป็นคนรุ่นก่อนรับอะไรยาก ตอนนั้นพอคุยกับพี่สาวเสร็จก็คิดว่าจะทำยังไงดี"

จริงๆ อยากบอกไหม?
"อยากให้เขารับรู้มากกว่าว่าที่ผ่านมาเราแต่งงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เพราะว่ามันคือชีวิตของเรา จริงๆ ก็อยากให้เขาเห็นว่าเราเก่งนะ เราทำมาจนมาอยู่ได้ขนาดนี้ ก็คิดว่าเขาน่าจะภูมิใจ"

 

ถ้าเกิดไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ก็จะไปหาคุณพ่ออยู่แล้ว?
"ใช่ครับ ตอนนี้ไปไม่ได้"

แล้วเราจะพาแฟนไปหาคุณพ่อไหม?
"ไม่พาไป ไปกับเพื่อน แฟนพักไว้ก่อน เรามีความรู้สึกว่าเราไปกันเองก่อนก็ได้ เพราะถ้าแฟนไปด้วยเดี๋ยวมันจะมีเรื่องความลำบากนู่นนี่นั่นเข้ามา"

 

มาพูดถึงการกักตัวอยู่บ้านบ้าง แต่ละวันทำอะไร?
"ช่วงอาทิตย์แรก เหมือนกับโลกถล่มไปแล้ว ชีวิตหลุดหาย ฉันไม่รู้จะทำยังไง นอน โอ๊ย…เบื่อ"

ถ้าไม่โดนกักตัววันๆ หนึ่งแขทำอะไรบ้าง?
"ออกกำลังกาย ออกไปวิ่งสวนสาธารณะ กิจกรรมทุกอย่างเกือบอยู่ข้างนอกหมด เจอหลาน พออยู่ในช่วงกักตัวเราแทบไม่เจอหลาน ก็ห่วงตัวเล็กก็ไม่ไปอยู่บ้าน ก็เลยมีเพื่อนใหม่ชื่อ TikTok แล้วก็ถือโอกาสทำความสะอาดบ้าน แล้วไลฟ์สด"

 

มีไลฟ์อยู่อันหนึ่งคุณร้องไห้?
"อันนั้นร้องไห้ เริ่มมาจากนั่งรถ แล้วบวกกับสภาวะโควิดแบบนี้ นอนตี1 ติดซีรีส์เกาหลี อยากมีผัวเกาหลีมาก ตอนนั้นอยากหย่ากับผัว แล้วไปเกาหลี ไปเปิดร้านเหล้าอยู่กับเขา ตอนนั้นอินมาก เรานอนตี1 ตื่นเที่ยง เราบอกว่าไม่ได้เราจะสโลไลฟ์แบบนี้ไม่ได้ถึงแม้เราจะมีโอกาสได้อยู่บ้าน ขับรถแล้วบอกตัวเองว่าต่อไปเราต้องขยันตื่นเช้าไปไลฟ์ แล้วไลฟ์อยู่ดีๆ มีพยาบาลเข้ามาบอกว่าเป็นพยาบาลช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นโรคโควิดอยู่ แล้วพอกลับบ้านมีแต่คนรังเกียจ เราก็ให้กำลังใจเขา แล้วที่ร้องไห้เราบอกว่า ทุกคนคะปรบมือให้กับคุณพยาบาลค่ะ แล้วเชื่อไหมว่าคุณพยาบาลเขาก็ร้องไห้ แล้วเราก็ร้องไห้คือเราเข้าใจเขา แล้วบอกเขาว่าบางทีคนเรามันอยู่ในภาวะที่มันกลัวมาก ก็อย่าไปถือโทษเขาเลย ก็ส่งบ๊วยรัศมีแขไปที่โรงพยาบาลไปให้กำลังใจเขา"

เห็นว่าอยู่บ้านเฉยๆ ก็ผวา คิดว่าตัวเองติดโควิดแล้ว?
"ทุกวันนี้ยังเป็นอยู่เลย ฉันเจ็บหน้าอก มันเหมือนมีอะไรมาบาดฉันจนมีอยู่วันหนึ่ง แม่งเป็นโควิดให้รู้แล้วรู้รอดเลยดีกว่า แล้วออกสื่อเลย ผมเป็นโควิดจบ ไม่ต้องวิตก คือจิตตกมาก แล้วอยู่คนเดียว ผวาว่ามีคนเดินมาหน้าประตู เห็นรอยเงา แต่จริงๆ คือผ้าม่านมันปลิวลมแอร์"

สถานการณ์แบบนี้เกี่ยวกับโควิดมีอะไรที่กลัวที่สุดไหม?
"จริงๆ ไม่ได้กลัวโควิด แขศึกษามาเยอะพอ รู้วิธีป้องกัน แต่สิ่งที่แขกลัวที่สุดก็คือมนุษย์ ณ ตอนนี้มันได้เห็นมนุษย์หลายคน ความอีโก้ของมนุษย์ เพราะโควิดวันหนึ่งมันจะเป็นวัคซีน แต่มนุษย์ถ้าเป็นแบคทีเรียแล้วเนี่ยไม่มีวัคซีนเลยนะ"

แขจะบอกว่าทัศนคติลบๆ ของคนใช่ไหมที่น่ากลัว?
"ใช่ มันน่ากลัวมาก เราก็ถามตัวเองตลอดถ้าเราติดเราจะทำงานยังไง กับการที่โควิดมันหายไปแล้ว แล้วถ้ามีคนแค่ 3-4 คน โอ๊ย…มันจะหายจริงหรอ เริ่มแสดงปฏิกริยา ซึ่งเราอยากบอกทุกคนว่าไม่มีใครอยากตาย ไม่มีใครอยากติด แต่ในเมื่อมันเป็นมาแล้ว มันทำอะไรไม่ได้ ณ ตอนนี้เราให้กำลังใจกัน เรามีเงินเท่าไหร่ เงินก็ไม่สามารถซื้อโควิดให้หายไปจากตรงนี้ได้ ยุค 2020 มันกลายเป็นโรคที่ทุกคนต้องร่วมกันช่วยกันอยู่บ้าน อยู่ห่างๆ กัน รักษาความสะอาด แค่นั้นเอง สำหรับแข สิ่งที่สามารถสรุปได้จากโควิดหลังจากที่มันหายไปจากโลก ไม่ใช่จำนวนผู้ตาย จำนวนผู้รอดชีวิต หรือจำนวนผู้ที่ติดโควิดทั้งหมดรวมกัน สิ่งที่เราจะได้จากโควิดเนี่ยมันทำให้เห็นว่ามนุษย์เป็นยังไง เราพึ่งพาใครได้บ้าง มีใครยื่นมือช่วยเหลือเราบ้าง มีใครมาจัดการเรื่องพวกนี้ให้เราได้บ้าง นี่แหละแขว่าคือสิ่งที่เราจะเห็นหลังจากโควิดหายไป

ตอนนี้สามีอยู่ต่างประเทศ?
"อยู่ต่างประเทศ ก็มีนอยด์ๆ บ้าง แต่ก็ทำใจยอมรับกับสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลงไว้"

เห็นว่ามีช่วงที่ไม่กล้าอุ้ม ไม่กล้าเจอน้องปกป้อง?
"ใช่ ก็จะมีช่วงที่เรากักตัว ด้วยความที่เราเป็นผู้ใหญ่ไม่รู้ว่ามีเชื้อหรือติดเชื้อน่าจะมีภูมิต้านทานที่โอเค แต่กับเด็กเราผวา ช่วงกักตัวแรกๆ ไม่กล้า รอดูอาการก่อน ไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้หลาน คิดถึงหลานมาก คิดถึงจนกระทั่งขับรถไปขอมอง แล้วก็ขับรถกลับ แล้วมีบางวันลืมโทร.ไปเช็กไปถึงเขาหลับ ขับรถกลับ"

สถานการณ์โควิดในครั้งนี้สอนอะไรแขบ้าง?
"เรื่องของการทำงาน และการเมเนจชีวิต อะไรควรมาก่อน จากที่เราโหมงานจนไม่สนใจครอบครัว ตอนนี้ครอบครัวเริ่มขึ้นมาแล้ว ก่อนหน้านี้ทำงานหนักมาก ไม่มีเวลาไปสวีเดน แฟนต้องบินมา สุดท้ายพอวันหนึ่งทุกอย่างหยุดหมด สายการบินหยุด บินกลับบ้านไม่ได้ เพราะโรค ครอบครัวเราอยู่ตรงนู่น ตายมาทำไง คนที่ตายอยู่ตรงนู่นเราไม่ได้เห็น เราตายอยู่ตรงนี้เขาไม่ได้เห็น เห้ย…ไม่เอาแล้ว"

เห็นว่าได้แง่คิดในเรื่องของเงินด้วย?
"ใช่ มีเงินทองมากมายตอนนี้ก็ไม่สามารถซื้อตัวเองให้รอดพ้นจากโควิดแล้วใช้ชีวิตปกติ จนกระทั่งแขไปเอาเสื้อวิ่งพี่ตูนทุกอย่าง กระเป๋า แบรนด์เนมที่แขซื้อมา แขเอาไปประมูลแล้วบริจาคหมดเลย ตอนหยิบก็มีเสียดาย แต่ก็บอกตัวเองว่าห้ามยึดติด แล้วก็บริจาคช่วยเงินคนหมดเลย"

 

ขอบคุณภาพจาก  rusameekae

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0