เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 15 สิงหาคม ที่ห้องรับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี นายบุญวาส แซ่ฉั่ว อายุ 48 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง นายวุฒิพงษ์ แซ่ฉั่ว อายุ 21 ปี ลูกชาย อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 8 ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบ้านสวน
โดยนายบุญวาส กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งมีความต้องการที่จะสร้างอพาร์ทเม้นท์ และต้องการเสาเข็มจำนวนมาก และได้มีผู้แนะนำให้ติดต่อกับนายจักรกฤษ บุญเกิด หรือ ส.ท.ต้น สมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านสวน เพราะเป็นตัวแทนจำหน่ายเสาเข็มราคาถูกและได้มาตรฐาน จึงได้ติดต่อกันโดยนายจักรกฤษเรียกร้องเงินมัดจำ 30% จึงได้โอนเงินไปให้ 30,000 บาท หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้เลย จึงได้ประสานงานกับคนสนิทว่าหากไม่ติดต่อมา จะร้องเรียนเทศบาลเมืองบ้านสวน ปรากฏว่าได้ติดตามกลับมา และรับปากว่าจะคืนเงินให้ และขอเลขบัญชีธนาคาร เมื่อให้ไปแล้วเรื่องก็เงียบอีก จนกระทั่งมีข่าวว่านายจักรกฤษได้นำเงินวิ่งการกุศลที่จะมอบให้ทางโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ จึงได้ตัดสินใจมาร้องเรียน เพราะเกรงว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะสูญ หากไม่นำเงินมัดจำมาคืน จะได้แจ้งความดำเนินคดีต่อไป
“เห็นว่าเป็น ส.ท.เมืองบ้านสวนเป็นคนน่าเชื่อถือว่าจะทำกันอย่างนี้ การร้องเรียนก็เพื่อต้องการเงินคืนเท่านั้น หากเอามาคืนเรื่องก็จบไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด” นายบุญวาส กล่าว
นายปัญญา วงศ์ขจิตต์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านสวนฝ่ายค้านกล่าวว่า กรณีที่มีการระบุว่าสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบ้านสวนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นฝ่ายค้านเอาเงินของโรงพยาบาลชลบุรีไป ในเรื่องนี้มองว่าทำให้พวกตนเสียหายเหมือนกัน เพราะฝ่ายค้านมีทั้งหมด 5 คน ซึ่งรวมทั้งนายจักรกฤษด้วย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตัวบุคคล น่าจะมีการระบุไปเลยว่าเป็นใคร เพราะจะทำให้ผู้ที่ทำงานตรวจสอบฝ่ายบริหารเสียหายไปด้วย มองดูแล้วพูดเหมือนเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง ทั้งที่การทำงานของพวกตนส่วนใหญ่จะทำการตรวจสอบฝ่ายบริหารเท่านั้น ทำให้ฝ่ายค้านเกิดความเสียหาย ซึ่งในเรื่องนี้หากมีการประชุมสภาเทศบาลเมืองบ้านสวนในวันที่ 17 สิงหาคม และมีการเสนอญัตติถอดถอน ส.ท.ต้น ข้อหาทำให้สภาเทศบาลเมืองบ้านสวนเสื่อมเกียรติ พวกตนที่เหลือพร้อมที่จะยกมือสนับสนุน เพราะเรื่องนี้เป็นการกระทำความผิดส่วนตัว ไม่อยากให้เอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
