โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รัฐสั่งโรงงานผลิตหน้ากากเพิ่ม กันไวรัสโคโรน่า-พิษฝุ่น โก่งราคาระวังคุก 7 ปี

Khaosod

อัพเดต 27 ม.ค. 2563 เวลา 07.27 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. 2563 เวลา 07.27 น.
4465645

รัฐสั่งโรงงานผลิตหน้ากากเพิ่ม กันโคโรน่า-พิษฝุ่น โก่งราคาระวังคุก 7 ปี

โคโรน่า / เมื่อวันที่ 27 ม.ค. นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ประสานไปยังโรงงานผู้ผลิตหน้ากากอนามัยภายในประเทศ 10 แห่ง เพื่อให้ผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มเติม รองรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และสถานการณ์ฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5

ซึ่งในเบื้องต้นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยทั้ง 10 ราย เป็นรายใหญ่ 4-5 ราย พร้อมที่จะผลิตหน้ากากอนามัยให้เพียงต่อต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของประชาชน รวมทั้งจัดหาสถานที่จำหน่ายหน้ากากอนามัย เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อหน้ากากได้สะดวกมากขึ้น ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

นายประโยชน์ กล่าวอีกว่า ส่วนราคาวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นหน้ากากอนามัย ยังไม่ปรับตัวเพิ่ม แม้ว่าหน้ากากอนามัยจะขาดตลาด และยังไม่พบการร้องเรียนโก่งราคาหน้ากาก หรือกักตุนสินค้า ซึ่งราคายังทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อน แต่กรมฯจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้สินค้าขาดแคลน หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมร้านค้าที่ไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมฯจะเข้าไปดำเนินคดีหรือลงโทษตามกฎหมายต่อไป กรณีกักตุนสินค้าหรือจำหน่ายในราคาสูงเกินจริง ถือว่ามีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้หากพบว่าหลายพื้นที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัย หรือประชาชนยังมีความต้องการใช้หน้ากากอนามัยเพิ่มเติม กรมฯจะประสานไปยังโรงงานผู้ผลิตและจัดหาพื้นที่จำหน่ายต่อไป

ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบจากการระบายของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โดยคาดว่าจะได้ความชัดเจนในเร็วๆนี้ แต่จากการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ออกแถลงการณ์โดยระบุว่าผู้ป่วยทั้งหมดได้รับเชื้อจากต่างประเทศ ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย และยืนยันสามารถควบคุมการแพร่ระบายของโรคเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก และมั่นใจได้ว่าจากมาตรการต่างๆของภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณะสุข ที่คุมเข้มคัดกรองผู้ป่วยจะสามารถควบคุมการระบายของโรคได้

“คาดว่าจะไม่กระทบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมากนัก ภายในระยะเวลา 20 วันต่อจากนี้หากไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม ก็ถือว่าภาครัฐสามารถควบคุมและดูแลสถานการณ์ได้ดี และจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย เพราะในหลายประเทศขณะนี้ยังมีการระบาดแต่หากไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก็เชื่อว่าไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว รวมถึงจะเป็นผลดีต่อโรงงานผู้ผลิตหน้ากากอนามัยส่งออกของไทย หากผู้ประกอบการสามารถปรับตัวและผลิตได้ตรงตามมาตรฐานก็จะเป็นโอกาสของผู้ส่งออกสินค้าได้เพิ่มขึ้น”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0