ปารีส, 2 ก.ค. (ซินหัว) - เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 ก.ค.) ฌอง-บัปติสต์ ดเชบบารี (Jean-Baptiste Djebbari) รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมฝรั่งเศส ยืนยันว่าสายการบินแอร์ฟรานซ์ (Air France) จะเลิกจ้างงานเกือบ 7,600 ตำแหน่ง พร้อมเรียกร้องให้สายการบินเรือธงของฝรั่งเศสลดการเลิกจ้างที่จำเป็นให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าทางสายการบินจะลดจำนวนพนักงานลงร้อยละ 40 ภายในปี 2022 เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลกระทบหนักต่อภาคการท่องเที่ยว
ในส่วนรายละเอียด แอร์ฟรานซ์วางแผนปลดพนักงาน 6,560 คน ซึ่งประกอบด้วยนักบิน 430 คน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 1,560 คน และพนักงานภาคพื้นดินมากกว่า 4,500 คน อีกทั้งเลิกจ้างงาน 1,025 ตำแหน่งในเครือข่ายขนส่งภายในประเทศที่ชื่อว่า "ฮอป!" (Hop!) ด้วย
"ตัวเลขเหล่านี้ถูกนำเสนอในการประชุมบริษัทวาระพิเศษเมื่อวานนี้ ตัวเลขเหล่านี้ขึ้นอยู่กับแผนการขององค์กรและการกลับมาเริ่มต้นใหม่ของการจราจร" ดเชบบารีกล่าวกับสำนักข่าวโทรทัศน์บีเอฟเอ็มทีวี (BFMTV)
รัฐฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร้อยละ 14.3 ในกลุ่มบริษัทแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม (Air France-KLM) บริษัทร่วมทุนฝรั่งเศส-เนเธอร์แลนด์ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินลดการเลิกจ้างแบบบังคับให้มากที่สุด และเสนอให้ลาออกด้วยความสมัครใจ
ในเดือนเมษายน รัฐบาลฝรั่งเศสได้เสนองบช่วยเหลือ 7 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท) ให้สายการบินแอร์ฟรานซ์ ซึ่งต้องงดเที่ยวบินเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ทั่วโลก
"เท่าที่ผมได้ยินมา ไม่ใช่แค่ 7 พันล้านที่จ่ายไปในแผนการเลิกจ้าง แต่เป็น 7 พันล้านที่จะทำให้อยู่รอดได้ เป็นเงินสำหรับจ่ายค่าจ้างตอนสิ้นเดือน แอร์ฟรานซ์สูญเสียเงินหลายร้อยล้านยูโรทุกเดือน" รัฐมนตรีกล่าว
ในข้อมูลจราจรที่ตีพิมพ์ล่าสุดชี้ว่าสายการบินแอร์ฟรานซ์มีรายรับลดลงร้อยละ 52.5 หลังจากผู้โดยสารลดลงร้อยละ 58.8 ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน
