วันที่ 22 ก.ค.นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กระบุว่า…ผมทราบข่าวว่าวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ พี่น้องจากภาคตะวันออกหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ EEC หรือเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของรัฐบาล จะเดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการจัดทำผังเมือง EEC ต่อสำนักงาน EEC และที่ทำเนียบรัฐบาล และในวันที่ 24 กรกฎาคม จะเดินทางไปอาคารรัฐสภาชั่วคราว (TOT) เพื่อยื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎร
เท่าที่ผมได้ติดตามประเด็นนี้พบว่าโครงการ EEC ได้เริ่มดำเนินการโดยใช้คำสั่งของคสช. หลายฉบับ และต่อมาสนช.ได้ผ่านพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งมีเนื้อหาที่น่ากังวลหลายประการ เช่น การให้อำนาจอย่างล้นฟ้าต่อบอร์ด EEC ในการบริหารจัดการพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ซึ่งบอร์ด EEC ดังกล่าว มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีรัฐมนตรีหลายกระทรวงนั่งเป็นคณะกรรมการ ซึ่งถือเป็นครม.ซ้อนครม. ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
นอกจากนี้ยังมีการจัดทำผังเมืองรวม ที่ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินจากพื้นที่เกษตกรรมไปเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งทำให้พี่น้องเกษตรกรบางส่วนได้รับผลกระทบ
ผมและพรรคอนาคตใหม่เห็นด้วยกับการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นที่ภาคตะวันออกหรือภูมิภาคอื่นๆ แต่ต้องเป็นการพัฒนาที่คนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนด และได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาด้วย
ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่เราได้มีนโยบาย ELC : ระเบียงชีวิตภาคตะวันออก ซึ่งคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้เคยกล่าวในเวทีแห่งหนึ่งว่า "โครงการ ELC:ระเบียงชีวิตภาคตะวันออก ไม่ได้ต่อต้านการพัฒนา แต่เราต้องการเห็นการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่ไปกับการพัฒนาชีวิต เราต้องการเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของพี่น้องในท้องถิ่น"
“คนที่จะได้ประโยชน์จากการพัฒนา EEC ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกไม่ใช่คนทั่วไปอย่างทุกท่าน แต่เป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ระดับชาติที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร กลุ่มทุนเหล่านี้มาตั้งฐานการผลิตในเขต EEC และกลุ่มทุนข้ามชาติที่ต้องการหาสถานที่ประกอบกิจการ”
ผมขอให้กำลังใจพี่น้องชาวภาคตะวันออกผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ EEC ที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯในวันที่ 23-24 กรกฎาคมนี้ ขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้โปรดพิจารณาปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนด้วยครับ
