เคยก้าวขึ้นสู่เวทีนางงามด้วยท่วงท่าที่เฉิดฉายมาแล้ว อีกทั้งยังสามารถครอบครองมงกุฎเกียรติยศที่สาวๆ ทั้งประเทศปรารถนามาได้ วันนี้เธอมีงานการที่เจริญรุ่งเรือง ส่วนเรื่องความรักก็ขยันโพสต์หวานๆ ถึงกันตลอด เรียกได้ว่า เธอประสบความสำเร็จทั้งเรื่องรักและเรื่องงานจนน่าอิจฉาเลยทีเดียว สำหรับ"หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์" นางสาวไทย ปี 2549 ล่าสุดเธอได้มาเปิดเผยหมดเปลือกถึงเรื่องราวต่างๆ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มี บุ๋ม ปนัดดา, เบนซ์ พรชิตา และ เป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรว่า
กับแฟนคนนี้เจอกันได้ยังไง ?
เจี๊ยบ : ก็ไปซื้อลูกโป่งแล้วก็ได้เจอกัน ตอนนั้นก็ทะเลาะกับคนเก่า แล้วก็จะซื้อลูกโป่งไปง้อ ก็เลยเจอกันเพราะว่าเขาเป็นเจ้าของร้านลูกโป่ง แล้วก็ประมาณว่าง้อไม่สำเร็จก็เลยปรึกษาเขา ตอนนั้นเราก็เศร้าใจ เห็นใครเข้ามาก็จะเป็นที่พึ่งหมด แล้วก็รู้สึกประมาณว่าตราตรึงอะไรสักอย่างกับคนๆ นี้ แล้วก็รู้สึกไม่อยากให้คนๆ นี้หายไปก็เลยขอไลน์เก็บไว้
แล้วเริ่มความสัมพันธ์กันได้ยังไง ?
เจี๊ยบ : ก็หลังจากที่ปรึกษาเขาไปได้สักพัก แล้วเราก็เลยรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว หลังจากนั้นเราก็เลยเป็นเพื่อนกัน แต่เราก็ยังปรึกษาเขาอยู่นะ แล้วเราก็อกหัก เขาก็มาดูแลเราเวลาอยู่เวรที่โรงพยาบาลเขาก็ส่งข้าวมาให้แล้วก็เขียนข้อความส่งมาด้วย มันไม่ได้เกิดจากการจีบกัน มันเหมือนต่างคนต่างเป็นห่วงเป็นใยซึ่งกันและกัน แล้วสุดท้ายก็เหมือนพรหมลิขิตหนีกันไม่พ้น
แฟนเก่าของน้องเค้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ?
เจี๊ยบ : เป็นผู้ชาย เขาบอกคบกันแล้วรู้สึกเหมือนเป็นทางตันมากกว่า แต่เราไม่ได้เป็นมือที่สามนะ
เขานิสัยเป็นยังไงบ้าง ?
เจี๊ยบ : เขาจะเป็นคนมีนิสัยที่โตกว่าอายุ เป็นคนจิตใจดีน่ารัก แล้วก็เป็นผู้หญิงที่เก่งมาก เป็นคนที่คิดอะไรแล้วสามารถทำได้จริงๆ เวลาเราอยู่ด้วยกันแล้วเราทั้งคู่ก็รู้สึกว่าอยากเป็นคนที่ดีขึ้น อยากสนับสนุนซึ่งกันและกัน แล้วเราก็มีความรู้สึกอยากขอบคุณเขาในทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างที่เขาทำให้เรา
มีหึงหวงกันบ้างไหม ?
เจี๊ยบ : น้องเขาไม่หึง เขาแมนกว่าเจี๊ยบอีกนะ เวลาเจี๊ยบอยู่กับเขาก็จะรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิง (หัวเราะ) แล้วเจี๊ยบก็จะชอบอ้อนๆ เขาก็มาโอบๆ อะไรแบบนี้
เห็นว่ามีอยู่ภาพหนึ่งที่ทั้งคู่ใส่ชุดสีขาวแล้วก็มีดอกไม้อยู่บนหัวเลยคิดว่าเป็นการขอแต่งงานจริงไหม ?
เจี๊ยบ : จริงๆ เป็นวันเกิดเขา แล้วก็จัดเซอร์ไพรส์เขาเฉยๆ ก็มีครอบครัวเขามาด้วยไม่มีอะไร ถ้ามีข่าวดีเดี๋ยวจะบอก
วางแผนถึงขั้นแต่งงานกันเลยไหม ?
เจี๊ยบ : จริงๆ สมัยก่อนเวลาคบใครก็ไม่เคยคิด ไม่เคยจริงจังขนาดนี้นะ แต่มาตอนนี้ ถ้าทุกอย่างพร้อมเจี๊ยบก็คิดว่ามันเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงทุกคน แม้แต่เจี๊ยบเองก็ใฝ่ฝันจะมีโมเมนต์นั้นเหมือนกัน
ก่อนหน้าที่จะมาคบกับผู้หญิงเคยคบผู้ชายมาก่อนหรือเปล่า ?
เจี๊ยบ : ที่จริงไม่ได้เรียกว่าคบขนาดจริงจังนะ แค่คุยกันเฉยๆ ก็มีไปเที่ยวกันบ้าง แต่ว่าไม่ได้แบบมาพูดกันตรงๆ ว่าเป็นแฟนกัน ก็ศึกษาดูใจกันแล้วยังรู้สึกว่าไม่ใช่
แสดงว่าใจเราไม่ได้บอกว่าเพศชายหรือเพศหญิง ?
เจี๊ยบ : ใช่ มันขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่กับใครแล้วมีความสุขมากกว่า
เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กเลยไหม ?
เจี๊ยบ : ตอนเด็กๆ เรามีทั้งพี่ชายและน้องสาว แล้วเราก็สามารถเล่นได้กับทุกคน พี่ชายเล่นแบบเตะต่อยเราก็เล่นได้ น้องสาวชวนเล่นตุ๊กตาก็เล่นได้ แต่เหมือนกับว่าเรารับอิทธิพลการแต่งตัวจากพี่ชายมามากกว่า ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเด็กติดเกมแบบพี่ชายอยู่เลย
เคยเห็นภาพเจี๊ยบเป็นนางสาวไทยมีมงกุฎใส่กระโปรง แล้วมาวันนี้เจี๊ยบแต่งตัวเป็นผู้ชายเลยสงสัยว่าอะไรเป็นจุดเปลี่ยน ?
เจี๊ยบ : ความจริงมันไม่มีจุดเปลี่ยนอะไรเลย สมัยก่อนเจี๊ยบก็แต่งตัวแบบนี้ ตั้งแต่ก่อนเป็นนางสาวไทยอีก ที่มาประกวดนางสาวไทยก็เพราะว่าอยากเปิดฟรีคลินิก คือมีคนแนะนำว่าถ้าคนเรามีชื่อเสียงเวลาจะขอความช่วยเหลือคนก็จะง่ายขึ้น ก็เลยคิดว่าลองดูสักครั้งในชีวิตแล้วกัน
พูดเรื่องมูลนิธิช่วยเหลือสังคมที่เจี๊ยบทำสักหน่อย
เจี๊ยบ : ตอนแรกแค่คิดว่าจะเปิดเป็นฟรีคลินิกรักษาโรคทั่วไป แต่คิดไปคิดมาด้วยความที่เราเป็นหมอ ER อยู่มานานก็เลยมีความรู้สึกว่าไม่อยากทำแค่อย่างเดียว ก็เลยกลายเป็นมูลนิธิlet's be heroes ขึ้นมา เพราะมูลนิธิสามารถมีหลายโครงการอยู่ในนั้นได้ เจี๊ยบคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือความรู้ที่สามารถให้คนได้ แล้วถ้าเจี๊ยบสอนคน ทุกคนก็จะสามารถออกไปเป็นแขนขาเพื่อช่วยเหลือคนอื่นในสังคมได้อีก
คลิปสัมภาษณ์ หมอเจี๊ยบ เปิดใจ จากสาวสวย สู่ คุณหมอมาดแมน
