โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

ระวัง!! การทำงานหนักเกินไป ภัยเงียบที่อันตรายกว่าที่คิด

Campus Star

เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2561 เวลา 09.10 น.
ระวัง!! การทำงานหนักเกินไป ภัยเงียบที่อันตรายกว่าที่คิด
ระวัง!! การทำงานหนักเกินไป พราะวลีที่บอกไว้ว่า งานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย นั้นเป็นประโยคจอมปลอม แน่นอนว่าอาจจะไม่ตาย แต่ปัญหาสุขภาพตามหาเพียบ

วันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของ คิม จงฮยอน นักร้องวง SHINee ครบ 1 ปี หลังจากที่จงฮยอนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย ซึ่งเมื่อมองย้อนไปถึงสาเหตุการเสียชีวิตอันน่าเศร้าของจงฮยอน ที่ขอลาจากโลกใบนี้ไป เพราะอาการของโรคซึมเศ้รา เราก็นึกถึงประโยคหนึ่งที่ไอดอลเกาหลีชอบพูดทุกครั้งที่ขึ้นไปรับรางวัลที่บอกไว้ว่า จะทำงานให้หนักขึ้น

ระวัง!! การทำงานหนักเกินไป ส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย & ใจ

และทุกครังที่เราได้ยินประโยคที่ไอดอลเกาหลีพูดว่า “จะทำงานให้หนักขึ้น” ในใจก็คิดว่าในปีที่ผ่านมางานที่คนพวกนี้ทำยังไม่หนักพอหรืออย่างไร ใครที่ไม่ชอบพวกไอดอล หรือนักร้องเกาหลีอาจจะไม่เข้าใจในจุดนี้ คือที่ประเทศเกาหลี นักร้อง หรือไอดอลก็เป็นอาชีพหนึ่งที่งานหนัก ทั้งต้องซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลง ไปอัดรายการวาไรตี้ต่างๆ ประกอบกับสังคมเกาหลีที่มีความจริงจังในการทำงานไม่แพ้คนญี่ปุ่น ทำให้สังคมการทำงานของเกาหลีค่อนข้างซีเรียส

ดังนั้นเราเลยรู้สึกว่า การเสียชีวิตของ จงฮยอน ได้ทิ้งหลุมดำในจิตใจของการพยายามเอาไว้มากมายจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร ทำอาชีพใดก็ตาม และแน่นอนหว่าหลายคนหวังจะประสบความสำเร็จในอาชีพนั้นๆ ส่งผลคนเหล่านี้จะต้องพยายาม และพยายามมากๆ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย แต่ก่อนที่จะถึงเป้าหมายนั้นแหล่ะที่น่ากลัวว่าจะต้องผ่านอะไรไปบ้าง เพราะสิ่งที่เจออาจทำให้คนหนึ่งล้มเลิกที่จะฝัน ล้มเลิกที่จะมีชีวิตอยู่ไปเลยก็มี

ดังนั้นวันนี้เราก็เลยมีผลเสียของการทำงานหนักเกินไปมาฝากกัน เพื่อย้ำเตือนให้คนเราเลือกทำงานแต่พอดี  และวลีที่บอกไว้ว่า งานหนักไม่เคยทำให้ใครตาย นั้นเป็นประโยคจอมปลอม แน่นอนว่าการทำงานหนักอาจจะไม่ตาย แต่ปัญหาสุขภาพตามหาเพียบ เรามาดูผลเสียที่ตามมากับการทำงานหนักกันดีกว่า

ผลกระทบของการทำงานหนัก

1. ยิ่งทำงานนานๆ ประสิทธิภาพงานยิ่งลดลง

หมายถึง การที่เราทุ่มเททำงานตลอดเวลา ทำงานแทบไม่หลับไม่นอน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงานแบบอดหลับอดนอน ก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเสียเท่าไร่ การที่เราทำงานสัปดาห์ละ 70 ชั่วโมงก็ไม่ได้ผลงานที่ออกมามีประสิทธิภาพเท่าคนที่ทำงานสัปดาห์ละ 56 ชั่วโมง

2. นอนหลับไม่เพียงพอ อ่อนเพลียในเวลากลางวัน

การที่เรามุ่งมั่นทำงานตลอดเวลาอาจจะทำให้เรานอนไม่หลับ เพราะจิตใจเรากังวงอยู่กับงาน เมื่อไม่ได้นอน และเวลากลางวันที่ต้องทำงานก็เกิดความอ่อนเพลีย ซึ่งการนอนหลับไม่พอก็ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน และโรคหัวใจอีกด้วย

3. ทำให้รู้สึกเศร้าตลอดเวลา

มีงานวิจัยหนึ่งบอกไว้ว่าถ้าเราทำงานวันละ 11 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้เกิดความหดหู่มากกว่า คนที่ทำงาน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน

4. หัวใจทำงานหนักเกินไป

การทำงานที่เครียดๆ จะส่งผลให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนคอติซอลออกมา ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของหัวใจ ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งก็ได้

5. ทำให้เกิดอาการปวดหลัง และปวดคอ

มีงานวิจัยค้นพบว่าการทำงานหนักเกินไป ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีอาการปวดหลัง โดยผู้หญิงมักจะปวดบริเวณช่วงต้นคอ ในขณะที่ผู้ชายจะปวดตรงบริเวณหลัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นอาการที่บอกว่ากล้ามเนื้อของเรากำลังตึงเครียด จากความเครียดในการทำงานที่เกิดขึ้น

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่าทำงานให้หนักจนเกินไปนะคะ เพราะการทำงานหนักไปอาจจะทำให้เราไปไม่ถึงความสำเร็จที่ตั้งไว้ และการทำงานที่หนักเกินไปจะทำให้รู้สึกท้อแท้ไปก่อน หรือไม่ก็ป่วยหนักไปเสียก่อน ดังนั้นทุกคนก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ อย่ามัวแต่ทำงานจนหลงลืมสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจนะ

ที่มา : healthline

บทความแนะนำ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0