โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ระบุมะกันเจอวิกฤตมั่นคงการทหาร เตือนโอกาสสูงที่จะรบแพ้จีน-รัสเซีย

Manager Online

อัพเดต 15 พ.ย. 2561 เวลา 14.58 น. • เผยแพร่ 15 พ.ย. 2561 เวลา 14.58 น. • MGR Online

เอเอฟพี – สหรัฐฯกำลังเผชิญวิกฤตการณ์ด้านความมั่นคงแห่งชาติและการทหาร รวมทั้งหากต้องทำสงครามก็มีสิทธิ์รบแพ้รัสเซียหรือจีน คณะกรรมการชุดหนึ่งซึ่งไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใดของรัฐสภาอเมริกันกล่าวเตือนเช่นนี้ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (14 พ.ย.) พร้อมกับแจกแจงว่า เนื่องจากที่ผ่านมาอเมริกามุ่งเน้นความสนใจในการรับมือการก่อความไม่สงบ และละเลยศักยภาพในการสู้รบ รวมถึงการหั่นงบกลาโหม ขณะที่ปักกิ่งกับมอสโกเดินหน้าสะสมแสนยานุภาพและทำลายความเหนือชั้นทางทหารของวอชิงตัน

รัฐสภาสหรัฐฯได้มอบหมายให้คณะกรรมการชุดนี้ที่มีชื่อว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์กลาโหมแห่งชาติ ศึกษาพิจารณาเอกสาร “ยุทธศาสตร์กลาโหมแห่งชาติ” (เอ็นดีเอส) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีเนื้อหาเน้นย้ำถึงยุคใหม่ของ “การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ” อันหมายถึงการแข่งกับรัสเซียและจีน

คณะกรรมการชุดนี้ซึ่งประกอบด้วยอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ได้เผยแพร่รายงานผลการศึกษา โดยระบุว่า ขณะที่กองทัพอเมริกันถูกตัดงบประมาณและสูญเสียความได้เปรียบทางการทหารหลายๆ ด้าน ประเทศอย่างจีนและรัสเซียกลับกำลังตั้งหน้าตั้งตาสะสมอาวุธ เพื่อมุ่งทัดทานกับจุดแข็งของสหรัฐฯ

“ความเหนือชั้นทางทหาร ซึ่งเป็นแกนหลักของอำนาจแข็งของอเมริกาที่ส่งอิทธิพลไปทั่วโลก และความมั่นคงภายในของอเมริกา ได้ถูกบ่อนเซาะจนถึงระดับอันตรายแล้ว” รายงานของคณะกรรมการเตือน

คณะกรรมการชุดนี้ยังพบว่า การที่ในศตวรรษนี้อเมริกามุ่งเน้นรับมือการปฏิบัติการก่อความไม่สงบ กลับทำให้ศักยภาพในการสู้รบด้านอื่นๆ เป็นต้นว่า การป้องกันภัยขีปนาวุธ การปฏิบัติการทางไซเบอร์และอวกาศ รวมทั้งสงครามต่อต้านบนผิวน้ำและใต้น้ำ ได้หย่อนยานลง

“ทักษะจำนวนมากที่จำเป็นสำหรับการวางแผนและการดำเนินปฏิบัติการทางทหารต่อศัตรูที่แกร่งกล้า โดยเฉพาะจีนและรัสเซียนั้น ได้เสื่อมถอยลง”

รายงานได้ตำหนิวิจารณ์ความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่และการตัดสินใจทางการเมือง ของทั้งสองพรรคใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกมาตรการควบคุมงบประมาณที่บังคับใช้ในปี 2011

“การผสมผสานของแนวโน้มเหล่านี้ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ด้านความมั่นคงของชาติสำหรับอเมริกา”

รายงานเพิ่มเติมว่า แม้เอกสารเอ็นดีเอสของทรัมป์ เห็นว่า เพนตากอนเดินมาถูกทางแล้ว แต่บ่อยครั้งที่เอกสารนี้กลับอิงอยู่กับสมมติฐานที่น่าสงสัยและการวิเคราะห์ที่ด้อยประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เกิดคำถามสำคัญตามมาว่า อเมริกาจะรับมือความท้าทายจากโลกที่อันตรายขึ้นอย่างไร

คณะกรรมการเสริมว่า อิทธิพลของอเมริกาเสื่อมลงอย่างต่อเนื่องทั่วเอเชียและยุโรป ขณะที่สมดุลทางทหารเปลี่ยนไปในทางที่ไม่พึงประสงค์อย่างชัดเจนและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการสู้รบขัดแย้ง

“กองทัพสหรัฐฯ อาจสูญเสียกำลังพลและสินทรัพย์ทุนจำนวนมากอย่างที่ไม่อาจยอมรับได้ในสถานการณ์การสู้รบขัดแย้งครั้งต่อไป”

กองทัพสหรัฐฯ “อาจจะต้องดิ้นรนหนักกว่าจะได้ชัยชนะ หรือกระทั่งเป็นฝ่ายแพ้ในการสู้รบกับจีนหรือรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯมีความเสี่ยงที่จะถูกทำให้ปราชัย หากกองทัพของตนถูกบังคับให้ต้องสู้รบในสนามรบสองด้านขึ้นไปพร้อมๆ กัน”

ถึงแม้ปีนี้เพนตากอนได้รับงบประมาณกว่า 700,000 ล้านดอลลาร์ มากกว่ารัสเซียและจีนรวมกัน แต่คณะกรรมการยังคิดว่า ไม่เพียงพอสำหรับการสนองตอบเป้าหมายที่ระบุในเอกสารเอ็นดีเอส พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอแนะหลายๆ ประการ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มงบประมาณกลาโหมประจำปีในระดับ 3-5%

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0