ระนองวุ่นทั้งเมือง! สกัดจับรถหรูชักบัตร ผอ.รพ.เมินตรวจคัดกรอง

วันที่  1 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่าเกิดเหตุเจ้าหน้าหน้าที่ในจังหวัดระนอง วิทยุสกัดรถหรูปอร์เช่สีดำ ขับรถมาจากจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง โดยขับรถผ่านด่านตรวจที่ จุดตรวจ จ.ป.ร. อำเภอกระบุรี โดยไม่มีการตรวจวัดไข้หรือทำประวัติการเข้า-ออก ในพื้นที่จังหวัดระนอง ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ซึ่งรถที่เข้า-ออก จังหวัดระนองทุกคันต้องผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองของจังหวัดระนอง ซึ่งจังหวัดระนองใช้วิธีดังกล่าวมา จนเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นสีขาวไม่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำด่านคัดกรองและเจ้าหน้าที่ ซึ่งขับรถไล่ตามรถคันดังกล่าวมาทราบว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 17.45 น.วันนี้ รถยนต์หรูคันดังกล่าวได้ขับมาจากจังหวัดชุมพร เมื่อมาถึงที่บริเวณจุดคัดกรองหรือด่านตรวจ คนในรถได้ชักบัตรข้าราชการเป็นนายแพทย์และเป็นระดับ ผอ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชุมพร บอกว่าต้องรีบไปตรวจคนไข้ในคลีนิคในพื้นที่ตัวเมืองระนองที่ตนเองเปิดไว้ ด้วยความเกรงใจเจ้าหน้าหน้าที่ซึ่งอยู่จุดแรกจึงปล่อยตัว แต่ยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงานเห็นว่ากำลังขับรถผ่านโดยไม่ผ่านการตรวจสอบเหมือนกับประชาชนและข้าราชการทั่วไปที่ขับรถเข้าออกจังหวัดระนอง ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการตรวจเข้มตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ที่ต้องตรวจรถเข้าออกและต้องมีหนังสือรับรองในการเข้าออกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด19 

โดยรถคันดังกล่าวขับไปโดยไม่สนใจเจ้าหน้าที่หน้าที่ประจำจุดคัดกรอง เจ้าหน้าที่จึงได้มีการวิทยุสั่งสกัดตั้งแต่พื้นที่อำเภอกระบุรี จนหลุดมาถึงพื้นที่ชั้นในตัวเมืองระนองจึงสามารถสกัดรถคันดังกล่าวได้ เมื่อสกัดได้เจ้าหน้าที่ที่ขับตามได้อธิบายว่าขณะนี้ทางจังหวัดระนองมีมาตรการเข้มอย่างไร แต่คนขับอ้างแต่เพียงว่าไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ขับตาม เพราะขับไปมาระหว่างจังหวัดชุมพรกับจังหวัดระนองตามปกติ เพิ่งประชุมเรื่องโควิดระดับจังหวัดที่จังหวัดชุพรเสร็จก็รีบมาเพื่อเปิดคลีนิครักษาผู้ป่วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระนอง ให้นายแพทย์คนดังกล่าวลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานไว้ก่อน เพราะต้องรอดูความชัดเจนจากจังหวัดว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร

ส่วนด้านนายแพทย์คนดังกล่าวที่บอกว่าตนเองเป็น ผอ.โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชุมพร กล่าวผ่านผู้สื่อข่าวว่า ต้องขอโทษด้วยที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเพราะเป็นการเข้าใจผิดกัน ตนเองก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐดูแลเรื่องการแพร่ระบาดเชื้อโควิดเช่นกัน เหตุที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเพราะมีหลายหน่วยงานในจุดคัดกรองตนเองขับรถไปมาทุกวันระหว่างจังหวัดชุมพรกับจังหวัดระนอง และทราบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญจังหวัดระนองให้ความสำคัญแต่จังหวัดชุมพร ไม่ได้ปิดเมืองเพราะเป็นประตูภาคใต้ ตนเองต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกิดการเข้าใจผิด 

ส่วนด้านเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามจุดคัดกรองหรือตามจุดตรวจต่างที่เกี่ยวกับเรื่องโควิดเริ่มเกิดความสงสัยกับเหตุดังกล่าว เนื่องจากการผ่านเข้า-ออก ไม่ว่าจะเป็นระชาชนหรือข้าราชการทุกคนต้องผ่านการตรวจสอบในเบื้องต้นทั้งการวัดอุณภูมิร่างกายและทำประวัติหรือตรวจสอบใบอนุญาติในเรื่องการเข้าออกกับทุกคน แต่เมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เพียงแค่ชักบัตรเป็นข้าราชการชั้นสูงมีหน้าที่โดยตรงเรื่องโควิดซึ่งมาจากพื้นที่เสี่ยงตามที่จังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ออกระเบียบว่าต้องตรวจอย่างเข้มข้นแต่กลับไม่ตรวจ สร้างความมึนงงกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานว่าจะให้ทำอย่างไรกันแน่ เพราะหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้งประชาชนและข้าราชการที่ทำตามกฏระเบียบจะมองว่าเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติซึ่งไม่ยุติธรรมกับคนที่ทำตามกฎเพื่อให้จังหวัดระนองเป็นสีขาวไม่มีผู้ป่วยโควิดตามที่จังหวัดระนองและทุกฝ่ายได้ร่วมกันทำงาน